"ผมเป็นพี่เขยของคุณดำริห์ แต่เขาไม่เคยปรับทุกข์กับผมเขาทำงานอยู่ชั้น
5 ผมอยู่บนชั้น 4 แต่คนละตึกกัน ใคร ๆ บอกว่าตึกแสด-ดำมีอาถรรพ์ ผมไม่ค่อยสนที่ว่าฮวงจุ้ยที่นั่นไม่ดี
ผมจะสร้างตึงสยามกลการสูง 10 ชั้น ที่ติดกับตึกยูนิคอร์ดอีก ผมจะทาสีนิสสันคือ
แดง ขาว นำเงิน แล้วลองดูสิว่า ถ้าผมล้มเมื่อไหร่ ค่อยเขียนถึงผม"
คำท้าทายของพรเทพ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่สยามกลการ ที่ไม่เชื่อว่าอาณาบริเวณย่านสะพานหัวช้างจะมีอาถรรพ์
เป็นเพียงคำเล่าลือที่ว่า ใครครอบครองย่อมพินาศ
ตัวอย่างเช่นอาคารบ้านโป่ง ซึ่งเดิมเป็นของวิบูลย์ ผาณิตวงศ์ ก็ประสบปัญหารุนแรงจากากรดำเนินกิจการน้ำตาลบ้านโป่ง
จนต้องขายกิจการแล้วถูกธนาคารทหารไทยยึดครองอาคารหลังนี้ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งบงล.นวธนกิจ
ซึ่อภิวัฒน์ นันทาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการก็ได้เสียชีวิตไปเช่นกัน
"ตอนที่ผมทาสีดำนั้นก็เพราะตอนนั้นผมไม่มีเงิน ก็คิดว่าทำอย่างไรจึงจะโฆษณาโดยใช้เงินน้อยที่สุด
ก็ไปได้ไอเดีย จากที่เห็นตึกหนึ่งที่อเมริกา ก็แค่นั้น" พรเทพ เล่าให้ฟัง
ปัจจุบัน ตึกแสด-ดำ ทาสีขาวดำทั้งหมด หลังจากที่บริษัทยูนิคอร์ดและกิจการในเครือได้ย้ายสำนักงานใหญ่มารวมศูนย์บัญชาการที่นี่
โดยมีดำริห์และพรพรรณ กับทีมผู้บริหารมืออาชีพอื่น ๆ นั่งอยู่ที่นี่
ในฐานะคนใหม่ที่ทำตัวเหมือนคนนอกในธุรกิจน้องเขยยูนิคอร์คหลังจากดำหริห์สิ้นแล้ว
พรเทพกล่าวว่าตนเองจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะ
"พ่อผมให้นโยบายห้ามทำธุรกิจไว้สามประเภท คือหนึ่งห้ามทำธุรกิจฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
สอง-ห้ามค้าประเวณี สาม-ห้ามยุ่งเรื่องธุรกิจเหล้าบุหรี่ยาเสพติด ผมเชื่อพ่อ"
พรเทพ กล่าวในที่สุด