|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“ยูนิลีเวอร์” ปรับเกมหนีสงครามราคา สร้างความต่างอัดแคมเปญซอยย่อยแต่ละเชนโมเดิร์นเทรด หลังพบกลยุทธ์ราคาไม่ตอบโจทย์เพราะผู้บริโภคไทยเกิดความเคยชิน พร้อมปรับตัวขนสินค้าจำหน่ายโมเดิร์นเทรดตามประชากรแต่ละย่าน นำร่อง คาร์ฟูร์ พระราม 4 ตบเท้านำเข้าสินค้าตอบสนองชาวต่างชาติ งัดกลยุทธ์การสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า หนทางรอดขยับราคาขึ้น หลังต้นทุนพุ่ง 10% เตรียมออกสินค้า 1-2 ตัวภายใต้16 แบรนด์ สิ้นปีโต 7%
นายลออิค ทาร์ดี ประธานกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า จากสภาพการแข่งขันสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้กลยุทธ์ราคาผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด ทำกลยุทธ์ของการทำตลาดผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดต้องปรับเปลี่ยนไป เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของคนไทย ที่เริ่มคุ้นเคยกับกลยุทธ์ราคาและมองว่าไม่มีความแตกต่าง ทำให้ราคาไม่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อีกต่อไป ดังนั้นบริษัทฯจึงได้ปรับแนวทางการตลาดใหม่ ซึ่งจะพิจารณาจากลักษณะประชากรในพื้นที่ อย่างเช่น คาร์ฟูร์ พระราม 4 มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในย่านนี้มาก ดังนั้นสินค้าในสาขานี้ จึงเน้นสินค้านำเข้าค่อนข้างมาก เป็นต้น
นอกจากนี้บริษัทฯยังหันมาเน้นการทำแคมเปญโปรโมชั่นมากกว่าการใช้กลยุทธ์ราคา โดยปีนี้บริษัทฯได้ให้ความสำคัญกับการจับมือร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจจากเชนโมเดิร์นเทรดมากขึ้น ซึ่งการทำแคมเปญโปรโมชันจะเน้นภายใต้การซอยแคมเปญตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในแต่ละเชนของโมเดิร์นเทรด เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และตอบสนองความผู้บริโภคได้ในแต่ละช่องทาง ซึ่งในแต่ละแคมเปญบริษัทฯจะทำการสำรวจว่าผู้บริโภคมีความต้องการอย่างไร เพื่อพิจารณาร่วมกับพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็น ความต้องการในเรื่องของโปรโมชั่น หรือกระทั่งของพรีเมียม เป็นต้น
“ที่ผ่านมาพอมีสินค้าใหม่เกิดขึ้นในตลาด ซัปพลายเออร์ก็แห่ออกสินค้าใหม่ๆตามมา ทำให้ในที่สุดก็เกิดสงครามราคาในตลาดนี้ โดยยกตัวอย่างว่า ตลาดทีวีขณะนี้ราคาลดลงถึง 50 % ยูนิลีเวอร์จึงต้องสร้างความแตกต่างด้วยการสร้างสรรค์แคมเปญ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จับมือร่วมกับวัตสันนำร่องไปแล้ว 1 แคมเปญ“
ล่าสุดบริษัทฯได้จับมือร่วมกับคาร์ฟูร์ เปิดตัวแคมเปญ “สไมล์ลี่” โดยนำสินค้าของยูนิลีเวอร์ 200 รายการ ได้แก่ บรีส โอโม ซันซิล โดฟ คนอร์ เบสท์ฟู้ดส์ ฯลฯ เข้าร่วมกิจกรรมเมื่อซื้อกลุ่มผลิตภัณฑ์ยูนิลีเวอร์ที่มีลัญลักษณ์หน้ายิ้มบนสินค้า 3 ชิ้น เลือกรับฟรีสินค้ายูนิลีเวอร์ 1 ชิ้น พร้อมรับแสตมป์หัวใจ เพื่อสะสมและแลกคอลเลกชั่นพิเศษสไมล์ลี่ ได้แก่ ตะกร้า ชุดจานชาม และร่ม
โดยแคมเปญนี้จะเริ่มระหว่างวันที่ 12 กรกฎาคม -14 สิงหาคม นี้ พร้อมกันนี้วันที่ 13 กรกฎาคม นี้ ยังได้เตรียมจับมือร่วมกับท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ส่วนเทสโก้ โลตัสได้เตรียมจับมือร่วมกันในช่วงการฉลองครบรอบ
เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อปรับราคาขึ้น
นาย ทาร์ดี กล่าวว่า จากภาวะเงินเฟ้อ และราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสสาม-สี่ในปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้ราคาวัตถุดิบปรับเพิ่มขึ้น 15-20% ขณะเดียวกันบริษัทฯยังได้ปรับเงินเดือนพนักงานเพิ่มขึ้น 6-10% ทำให้บริษัทฯแบกรับภาระต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นรวมแล้ว 6-10% ขณะที่ราคาสินค้าก็ปรับเพิ่มขึ้นไม่ได้มากนัก เพราะกลไกทางการตลาดบีบ
ดังนั้นบริษัทฯจึงปรับแนวทางการตลาด ด้วยการเน้นสร้างมูลค่าสินค้าใหม่ เพื่อที่จะปรับราคาเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งปัจจุบันยูลีเวอร์มีสินค้าทั้งหมด 16 แบรนด์ เช่น ซันซิล บรีส คอมฟอร์ท ลักส์ พอนด์ส เป็นต้น โดยในแต่ละแบรนด์เปิดตัวสินค้าใหม่ 1-2 ครั้งต่อปี
สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าปีอัตราการเติบโต 7 % จากเมื่อปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 8% โดยพบว่าในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมายอดขายโดยรวมของยูนิลีเวอร์ตกลง อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่บริษัทฯปรับแนวทางการตลาดให้มีความเข้มข้นมากขึ้น คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้น และมีอัตราการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
|
|
|
|
|