Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน12 กรกฎาคม 2549
'บีบี๋'เล็งเนรมิตรที่ดินมรดกสมัยคุณปู่ผุดโรงแรม4ดาวโซนชลบุรีรับสนามบินสุวรรณภูมิ             
 


   
search resources

Real Estate
สงกรานต์ กระจ่างเนตร์
เอสจี ดีเวลลอปเม้นท์ (ไทยแลนด์), บจก.




" สงกรานต์ กระจ่างเนตร์ "หรือ"บีบี๋"เล็งขุดที่ดินมรดกสมัยคุณปู่โซนจังหวัดชลบุรี ลงทุนสร้างโรงแรมหรูระดับ 4 ดาว มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ภายใต้ชื่อโครงการ"วิลล่า สานติ"ชี้ที่ดินติดชายทะเลหากยาก ช็อกที่ดินย่านเขาเต่าราคาพุ่ง 18 ล้านบาทต่อไร่ เผยเตรียมหาพันธมิตรจากต่างประเทศร่วมลงทุนโครงการย่ายซีบีดีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท

นายสงกรานต์ กระจ่างเนตร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี ดีเวลลอปเม้นท์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยถึงความคืบหน้าการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่า ภายหลังที่บริษัทประสบความสำเร็จสามารถปิดการขายโครงการ"สานติ พูรา"ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัทฯมีนโยบายที่จะนำที่ดินเปล่าสมัยคุณปู่ซื้อไว้ประมาณ 60 ปีมาแล้วบริเวณต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จังหวัดชลบุรี มาพัฒนาโครงการประเภทโรงแรม ระดับ 4 ดาวในสไตล์ฮิปโฮเต็ล ภายใต้แบรนด์ "วิลล่า สานติ"บนพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ เป็นอาคารสูงประมาณ 3 ชั้น จำนวน 25-30 ยูนิต และในส่วนของวิลล่าอีกประมาณ 4-5 หลัง คาดว่าจะสามารถใช้เงินลงทุนอีกประมาณ 100 ล้านบาท

อนึ่ง จังหวัดชลบุรีถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม และที่สำคัญการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิจะเพิ่มความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมา ทั้งนี้ ที่ดินในชลบุรีและในเมืองเริ่มมีนักธุรกิจ นักการเมืองเข้าไปกว้านซื้อที่ดิน อาคารพาณิชย์ เพื่อพัฒนาโครงการรับการไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยว

นายสงกรานต์กล่าวว่า รูปแบบการพัฒนาอาจจะมีการจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา เพื่อเช่าที่ดินแปลงดังกล่าวและบริหารโครงการด้วย โดยไม่ต้องจ้างเชนชื่อดังจากต่างประเทศแต่อย่างใด ส่วนรายละเอียดต่างๆยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ คาดว่าจะสรุปผลได้ภายใน 2-3 เดือนนี้ จะมีการพัฒนาโครงการได้ในปลายปี49

สำหรับโครงการ"สานติ พูรา" ซึ่งตั้งอยู่ที่อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ บนพื้นที่ทั้งหมด 8 ไร่เศษ เป็นคอนโดมิเนียม สไตล์เอเชี่ยนรีสอร์ท ที่ผสมผสานศิลปะจากศรีลังกา,บาหลี และสุโขทัยเข้าไว้ด้วยกัน มีจำนวนทั้งสิ้น 5 อาคารๆละ 4-7 ชั้น รวม 78 ยูนิต ปัจจุบันได้ปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยลูกค้ามีทั้งคนไทยและต่างชาติ และได้มอบหมายให้บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน)เป็นผู้รับผิดชอบด้านการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด

"สำหรับภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยริมทะเลราคาอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาทต่อตารางเมตร แต่ถ้าหากซัปพลายบ้านริมทะเลในปัจจุบันหมดไป เชื่อว่าในอนาคตราคานี้จะไม่มีอีกแล้ว เพราะราคาที่ดินจะขยับสูงขึ้นเพิ่มเป็นตารางเมตรละ 1 แสนบาท โดยเฉพาะที่ดินในย่านเขาเต่าตอนที่ผมซื้อมาไร่ละ 12-13 ล้านบาท แต่ปัจจุบันพุ่งขึ้นไปถึง 17-18 ล้านบาท ส่งผลให้ขณะนี้ไม่ค่อยมีผู้ประกอบการรายใดกล้าซื้อที่ดินติดทะเลมาพัฒนาโครงการมากนัก เนื่องจากราคาที่ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้น และเหตุผลเรื่องของกฎหมายผังเมืองใหม่ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้น"นายสงกรานต์ กล่าว

อย่างไรก็ตามในส่วนของตนนั้นยังมีที่ดินสะสมอีกหลายแปลง อาทิ เชียงใหม่และเชียงราย มีอยู่ประมาณ 2-3 แปลงๆละ 10-20 ไร่ คาดว่าจะมีการเข้าไปลงทุนในระยะเวลา 2-3 ปี

กรรมการผู้จัดการบริษัทเอสจีฯ กล่าวถึงความร่วมมือของกลุ่ม "ดีเวลลอปเม้นท์ บาย ดีไซน์"ที่เกิดจากการรวมกลุ่มระหว่าง บริษัท เอสจีฯ,บริษัท คูดู จำกัด ผู้ดำเนินโครงการเดอะ ทรี สาทร และบริษัท ชินคาร่า จำกัด ผู้ดำเนินโครงการไฟคัสเลน ว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก เพราะอยู่ในระหว่างการเจรจาหาผู้ร่วมทุนจากต่างประเทศ โดยขณะนี้ได้เจรจาไว้ประมาณ 3-4 ราย ส่วนใหญ่เป็นในรูปแบบของฟันด์ หรือกองทุนรวม โดยมีทั้งกองทุนรวมเพื่ออสังหาริมทรัพย์ และกองทุนที่ลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทน ได้แก่กลุ่มจากประเทศแถบยุโรป, ตะวันออกกลาง และประเทศแถบเอเชีย เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และต่อไปอาจจะมีการเจรจากองทุนฯจากประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย

"โครงการที่กลุ่มจะลงทุน จะมีขนาดใหญ่ทำให้ต้องใช้เงินลงทุนที่สูง ต้องระดมทุน และอาศัยเทคโนโลยีและแบรนด์จากต่างประเทศเข้าเสริมความแข็งแกร่ง ซึ่งในบางครั้งการหาพันธมิตรมาลงทุน บางครั้งอาจจะติดปัญหาหลายด้าน เช่น เป็นโครงการที่ไม่แสวงหาดอกเบี้ย ไม่ผิดหลักศาสนา จึงคิดว่าพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียเช่น สิงคโปร์และฮ่องกง น่าจะเจรจาได้ง่ายกว่า เพราะนักลงทุนเหล่านี้รู้จักประเทศไทยเป็นอย่างดี"นายสงกรานต์กล่าว

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาตนได้มีการทำแผนเสนอกองทุนดังกล่าวข้างต้นไปแล้วว่าจะพัฒนาโครงการใหม่ในรูปแบบไฮไลท์ย่านซีบีดี มูลค่าเกือบ 2,000 ล้านบาท โดยให้ผลตอบแทน 30%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us