|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เจ้าหนี้ "ไดโดมอน กรุ๊ป" ยอมแฮร์คัทหนี้จาก 800 ล้านบาท เหลือ 155 ล้านบาท เหตุจำต้องยอมรับสภาพ เพราะบริษัทไดโดมอน กรุ๊ปเหลือสินทรัพย์ที่มีค่าเพียงสิทธิเช่าระยะยาวของสาขาทั้ง 17 แห่งเท่านั้น ขณะที่บริษัทที่ประกอบธุรกิจอาหาร 3 รายที่สนใจเข้าร่วมถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนประมาณ 80% เตรียมเข้าไปตีมูลค่าสิทธิเช่าว่าจะอยู่ในระดับใดคาดว่าจะสรุปได้ไม่เกินเดือนพ.ย.นี้ ขณะที่"วิชัย ทองแตง"จะเหลือสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 10%เศษ
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า แผนการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)(DAIDO)นั้น ปรากฏว่าเจ้าหนี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสถาบันการเงินที่ให้ความเห็นชอบในแผนฟื้นฟูกิจการนั้น ยอมที่จะลดหนี้หรือแฮร์คัดให้กับบริษัทไดโดมอน กรุ๊ปจากหนี้ทั้งหมดทีมีอยู่ประมาณ 800 ล้านบาทยอมลดเหลือประมาณ 155 ล้านบาท
สาเหตุที่เจ้าหนี้ยอมแฮร์คัทเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมองว่าบริษัทไดโดมอน กรุ๊ป มีสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพียงสิทธิในการเช่าสาขาระยะยาวจำนวน 17 สาขาเท่านั้น ส่วนสินทรัพย์อื่นๆไม่มี ดังนั้นถ้าไม่ยอมและปล่อยเวลานานออกไปอีก จะทำให้ระยะเวลาในการเช่าสาขาลดลงอีก ซึ่งจะทำให้มูลค่าลดลงด้วย และอาจจะทำให้เจ้าหนี้ไม่ได้อะไรคืนเลย
ปัจจุบันนี้บริษัทไดโดมอน กรุ๊ปมีสาขาทั้งสิ้น 38 สาขาเป็นสาขาที่เช่าในระยะยาวจำนวน 17 สาขา ซึ่งสาขาเหล่านี้สามารถตีมูลค่าได้ ส่วนอีก21 สาขานั้นเป็นสาขาที่เช่าเป็นรายเดือนและจ่ายค่าเช่าเป็นเดือน(ดูตารางประกอบ)
แหล่งข่าวกล่าวว่า ตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทไดโดมอน กรุ๊ปนั้นจะมีการหาผู้ร่วมทุนใหม่เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนประมาณ 80% โดยสามารถเข้ามาควบคุมการบริหารงานได้เลย โดยที่ผ่านมามีบริษัทที่ประกอบธุรกิจอาหาร 3 รายที่แสดงความสนใจเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือบริษัทฮอทพอทที่ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร ส่วนอีก 2บริษัทนั้นก็เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจอาหารเช่นกัน และเป็นบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ โดยทั้ง 3 บริษัทเตรียมที่จะเข้ามาตรวจสอบสินทรัพย์หรือดิวดิลิเจ้นท์ โดยเฉพาะในส่วนของสาขาทั้ง 17 แห่งที่จะต้องถูกตีมูลค่าว่าอยู่ในระดับใด โดยจะพิจารณาจากระยะเวลาสัญญาเช่าที่เหลืออยู่ ทำเลที่ตั้ง สภาพตลาดและรายได้ที่จะเข้ามาว่าเป็นอย่างไรบ้าง
อย่างไรก็ตามก็มีกระแสข่าวว่าผู้ประกอบการทั้ง 3 รายก็อยู่ระหว่างรอประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมด้วยว่าเป็นอย่างไร เพราะถือว่ามีผลต่อการลงทุนของบริษัท
"ผู้ประกอบธุรกิจทั้ง 3 รายนั้นแสดงความสนใจที่จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทไดโดมอน กรุ๊ป สาเหตุหนึ่งเนื่องจากบริษัทไดโดมอน กรุ๊ปมีสาขาที่อยู่ในทำเลที่ดี ซึ่งจะช่วยทำให้สนับสนุนการขยายธุรกิจได้ต่อไป"แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ตามกรอบระยะเวลาเมื่อเจ้าหนี้ให้ความเห็นชอบกับแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมาแล้ว ทางศาลล้มละลายกลางนัดพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้ในวันที่ 4 กันยายน 2549 และหลังจากนั้นอีก 3 เดือนบริษัทยังมีเวลาที่จะหาผู้เข้ามาร่วมทุนรายใหม่ ดังนั้นจึงคาดว่าจะสามารถสรุปว่าผู้ประกอบการธุรกิจอาหารรายใดจะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทไดโดมอน กรุ๊ปภายในไม่เกินเดือนพฤศจิกายน 2549 นี้ ซึ่งตามแผนฟื้นฟูได้ระบุว่าผู้ร่วมทุนรายใหม่ที่เข้ามานั้นจะต้องนำเงินเข้ามาไม่ต่ำกว่า155 ล้านบาทเพื่อที่จะนำไปชำระคืนให้กับเจ้าหนี้ และถ้าผู้ร่วมทุนใหม่ต้องการที่จะขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นอีก ก็จะต้องนำเงินเข้ามาลงทุนเพิ่ม
แหล่งข่าวกล่าวว่า การปรับโครงสร้างหนี้ในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ถือหุ้นเดิมคือนายวิชัย ทองแตง ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ด้วยสัดส่วนการถือหุ้นก็จะลดลง โดยหลังจากได้มีการแปลงหนี้เป็นทุนแล้วจะทำให้นายวิชัย ถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 10%เศษส่วนหุ้นบริษัทไดโดมอน กรุ๊ปที่ตลาดหลักทรัพย์ให้เวลาในการดำเนินการแก้ไขฐานะการเงินให้ดีขึ้น โดยให้เวลา 2 ปีนั้น ซึ่งขณะนี้ยังมีระยะเวลาประมาณ 1 ปีเศษ โดยจะต้องทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่มีกำไรต่อเนื่อง 3 ไตรมาส รวมถึงจะต้องทำให้มีส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นบวก
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ บริษัท ไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ทำแผน แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ตามที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของบริษัท ไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) และมีคำสั่งตั้งบริษัทเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ เมื่อวันที่ 30กันยายน 2548 นั้น
ทั้งนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2549 แจ้งว่าที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติพิเศษให้ความห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทโดยในการนี้ ศาลล้มละลายกลางนัดพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้ดังกล่าวในวันที่ 4 กันยายน 2549 เวลา 9.00 นาฬิกา
ในส่วนของเรื่องการแจ้งวันนำส่งงบการเงินปี 2548 ขณะนี้บมจ.ไดโดมอน กรุ๊ปอยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการตามคำสั่งศาลล้มละลายกลางและศาลดังกล่าวมีคำสั่งตั้งบริษัทฯ เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ ทั้งนี้ เมื่อ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2548 ดังนั้น บริษัทฯ ในฐานะผู้ทำแผนขอแจ้งให้ทราบว่า บริษัทฯ จะนำส่งงบการเงินประจำปี 2548 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2549
นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ บมจ.ไดโดมอน กรุ๊ป ในฐานะผู้ทำแผน เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทสำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2548 ซึ่งปรากฏว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำรอบระยะเวลาเดียวกัน บริษัทฯ มีผลกำไร( ขาดทุน )เปลี่ยนแปลงเกิน 20% เนื่องจากผลประกอบกิจการมีผลขาดทุนสุทธิ 151.25 ล้านบาท ขาดทุนจากผลการดำเนินงาน 36.68 บาท เนื่องจากในงวด 6 เดือน ปี 2548 ยอดขายเมื่อเปรียบเทียบกับงวด 6 เดือนปี 2547 ลดลง 75.08 ล้านบาท หรือ 33.45% ขณะที่ต้นทุนสินค้าเพื่อขายลดลง 112.75 ล้านบาท หรือ 45.10% ค่าใช้จ่ายลดลง 40.54 ล้านบาท หรือ 40.41%
นอกจากนี้ บันทึกผลขาดทุนจากรายการพิเศษที่บริษัทฯ ได้ตั้งค่าเผื่อการลดมูลค่าสินทรัพย์ถาวรไว้เป็นมูลค่า 72.23 ล้านบาท
|
|
|
|
|