|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ILINK คาดผลงานไตรมาส 2 สูงกว่าไตรมาสแรก เนื่องจากรับรู้รายได้จากงานในมือเข้ามาต่อเนื่อง ยันไม่ปรับเป้าปีนี้ลด พร้อมเดินหน้าประมูลงานครึ่งปีหลังเพิ่ม คาดมีถึง 1,500 ล้านบาทและจะได้งาน 25-30% ของงานที่เข้าร่วมประมูล เตรียมลุยงานในประเทศเต็มที่
นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ( ILINK) เปิดเผยว่าบริษัทคาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้น่าจะสูงกว่าไตรมาส 2 ปีก่อนและไตรมาสแรกปีนี้ เพราะยังมีงานเก่าที่ทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทจะยังคงเป้ารายได้เติบโตจากปีก่อน 20% หรือ 835 ล้านบาท ซึ่งผู้บริหารมั่นใจว่าจะทำได้ตามที่คาดการณ์ไว้ด้วย
"ผลงานของเราไม่ปรับลดเป้า เพราะเรายังมีงานที่ทยอยรับรู้รายได้เข้ามาต่อเนื่อง และตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่เราประเมินไว้จากรายได้ของงานในมือต่อเนื่องมาจากปีก่อนแล้ว และงานที่เราได้มาในช่วงต้นปีนี้ด้วย " นายสมบัติกล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือมีงานในมือ (back log) ในส่วนของงานธุรกิจวิศวกรรม อยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่างานที่มากกว่าที่เคยประมาณการไว้ว่าจะได้งานมูลค่าประมาณ 254 ล้านบาท โดยจะเป็นการทยอยรับรู้หมดทั้งจำนวนภายในปีนี้ ในขณะที่ธุรกิจการนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ข่ายสายสัญญาณคอมพิวเตอร์และสื่อสารโทรคมนาคม (Cabling System) ตั้งเป้าว่าจะสร้างยอดขายเดือนละประมาณ 50 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ ILINK จะเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ ๆ เพิ่มอีกในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งเป็นประมูลงานใหญ่ ๆ ถึง 4 งาน โดยคาดว่าจะได้งานประมาณ 2-3 งาน และมูลค่างานที่จะเข้าประมูลในครึ่งปีหลังมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท และ ILINK คาดว่าจะได้งานมาประมาณ 25-30% ของงานที่เข้าประมูลทั้งหมด
นายสมบัติ กล่าวต่อว่าการเมืองมีผลกระทบต่อหลายธุรกิจ แต่ก็เชื่อว่าบริษัทจะสามารถทำตามที่ประมาณการไว้ในปีนี้ด้วย เนื่องจากงานด้านจัดจำหน่ายยังขายได้ต่อเนื่องและมีกระแสเงินสดเข้ามาทุกวัน ส่วนธุรกิจงานโครงการติดตั้งระบบนั้นก็ยังเข้าประมูลเพื่อหางานในมือเข้ามาเพิ่มต่อเนื่องเพื่อให้เป้าหมายการเติบโตเป็นไปตามที่ตั้งไว้ในแต่ละปีด้วย
ขณะที่เป้าหมายส่วนแบ่งทางการตลาดที่บริษัทต้องรักษาไว้ที่ระดับ 30% นั้นและต้องเติบโตขึ้นนั้น อาจทำให้ไม่ขยับตามได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าต้องทำให้เกิน เนื่องจากราคาทองแดงอันเป็นต้นทุนหลักของสายสัญญาณปรับราคาเพิ่มขึ้น แต่ผู้บริหารยืนยันว่า ILINK ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะสามารถปรับราคาขายสินค้าได้ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เป็นการผลักภาระให้กับลูกค้าตามปกติ
"เป้าส่วนแบ่งเราคงไม่ขยับ เพราะความผันผวนที่เกิดขึ้น และราคาทองแดงที่ปรับเพิ่มขึ้นตอนนี้ แม้จะไม่ส่งต่อเรา แต่ในระยะยาวหากมีการปรับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เราก็จะได้รับผลกระทบจากราคาทองแดงด้วย " นายสมบัติกล่าว
นายสมบัติกล่าวถึงการเข้าไปลงทุนกับพันธมิตรอย่าง บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ติดต่อเพื่อให้ ILINK เข้าไปติดตั้งงานระบบในงานที่ เพาเวอร์ไลน์ ฯ เข้าไปทำธุรกิจในต่างประเทศว่า ขณะนี้บริษัทต้องการทำงานเพื่อให้บริษัทเกิดความมั่นคงก่อน บวกกับปัจจุบันที่เกิดภาวะความผันผวนทางเศรษฐกิจ การรุกไปลุยงานในต่างประเทศ จึงชะลอไว้ก่อน
โดยปีนี้ ILINK จะเดินตามเป้าหมายของบริษัทที่ตั้งไว้ ด้วยการปรับโครงสร้างธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณคอมพิวเตอร์และสื่อสาร และธุรกิจวิศวกรรม รวมทั้งจะเน้นรุกตลาดต่างจังหวัดเพื่อต่อยอดลูกค้า และจะทำให้รายได้ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากกลยุทธ์การตลาดและการ ขยายสาขาไปภูมิภาค
นายสมบัติกล่าวเพิ่มว่า งานโครงการของบริษัทจะมีการประมูลเรื่อย ๆ และเชื่อว่าไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จะมีประมูลงานได้เพิ่มจากครึ่งปีแรก โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทปีนี้จะยังคงอยู่เช่นเดิมคือ งานจำหน่ายสายสัญญาณคอมพิวเตอร์และสื่อสาร 70% และธุรกิจวิศวกรรม 30 % ขณะที่เชื่อว่าปัจจัยการเมืองไม่น่าส่งผลกระทบกับบริษัทฯ รวมถึงธุรกิจไอที โดยมองว่าธุรกิจไอทีในประเทศไทยยังคงมีความจำเป็น และยังมีอัตราเติบโต แม้จะมีการปรับเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ก็ตาม
ขณะที่การเปิดสาขาเชียงใหม่เป็นสาขาแรกนั้น พบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่เดือนละ 2.5 ล้านบาท จากลูกค้าที่มีในปัจจุบันประมาณ 200 ราย โดยบริษัทตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมจังหวัดในภาคเหนือตอนบน 10 จังหวัด แม้ว่าธุรกิจนี้ในภาคเหนือค่อนข้างมีการแข่งขันรุนแรง
โดยบริษัทใช้กลยุทธการดั๊มราคาให้ถูกลงและให้บริการรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งพบว่าลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยสาขานี้ถึงจุดคุ้มทุนต้นปีนี้ ขณะเดียวกัน ILINK จะเน้นเข้าไปประมูลงานที่เป็นตลาดของ UTP และระบบเครือข่ายอัจฉริยะ ซึ่งบริษัทต้องเข้าไปนำเสนองานให้กับลูกค้ารับรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับสายโทรศัพท์ที่พ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ในอนาคตจะมีการใช้กันมากขึ้น เนื่องจากต้นทุนถูกและการใช้งานมีประสิทธิภาพ
และล่าสุดคือการเปิดสำนักงานสาขาที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อ 1 มิถุนายน 2549 เพื่อจัดให้มี เจ้าหน้าที่มาสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าในภาคใต้ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กระจายสินค้าไปสู่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเตรียมเปิดสาขาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นลำดับต่อไป เพื่อให้ครอบคลุมกับลูกค้าทั่วประเทศ ซึ่งเป้าหมายของการเปิดสาขาเพิ่มนั้นคาดวาปีนี้จะเปิด 4 แห่ง
|
|
|
|
|