|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
คอลเกต-ปาล์มโอลีฟแตกไลน์ซับแบรนด์ใหม่ "แป้งแคร์ แองเจิล ซอฟต์ " ขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มเด็กสู่กลุ่มวัยรุ่น หลังพบตลาดแป้งเพื่อความงามมูลค่า 525 ล้านบาท โตพรวด 60% ล่าสุด"พอนด์ส เมจิก เพาวเดอร์" อัดโปรโมชั่นแพกคู่โฟมล้าง หวังสิ้นปีรั้งบัลลังก์ผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง40%
แหล่งข่าวจากบริษัทคอลเกต - ปาล์มโอลีฟ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแป้งเด็กแคร์ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ขยายไลน์สินค้าจากตลาดแป้งเด็กสู่ตลาดแป้งเพื่อความงาม ด้วยการเปิดตัวซับแบรนด์ใหม่ "แคร์ แองเจิล ซอฟต์ " ลงสู่ตลาดด้วยกัน 2 สูตรใหม่ โดยเน้นจุดขายควบคุมความมันและป้องกันสิว เจาะกลุ่มเป้าหมายเด็กวัยรุ่นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น-ปลาย ทั้งนี้เนื่องจากตลาดแป้งฝุ่นเพื่อความงามมูลค่า 525 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% จากตลาดรวมมูลค่า 3,500 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 60%
เมื่อเทียบกับตลาดแป้งเด็กซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่สุดมีมูลค่า 1,883 ล้านบาท หรือ 14,496 ตันอยู่ในภาวะทรงตัว ส่วนตลาดแป้งเย็นแม้ว่าจะมีแบรนด์โพรเทคส์สินค้าในเครือบริษัทฯจะเป็นผู้นำตลาด แต่สภาพตลาดก็ไม่ได้มีอัตราการเติบโตมากนัก โดยมีการเติบโตเฉพาะหน้าร้อนเท่านั้น และประการสำคัญ คือ ที่ผ่านมาในกลุ่มผลิตภัณฑ์แป้งของคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น
ดังนั้นเมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญอย่างจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาด 21% จากตลาดแป้งเด็ก และวางแผนจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 50% มีสินค้าครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งกลุ่มเด็ก หรือกระทั่งวัยรุ่นภายใต้แบรนด์ "จอห์นสัน เพียว เอสเซนเชียล" ทำให้ในฐานะที่แป้งแคร์เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 50% ต้องเร่งขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ภายใต้การต่อยอดแป้งเด็กแคร์
ปัจจัยที่ทำให้ตลาดแป้งเพื่อความงามแจ้งเกิดในประเทศไทย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพฤติกรรมคนไทยเริ่มมีการแบ่งแยกระหว่างแป้งทาหน้าและแป้งสำหรับทาตัวอย่างชัดเจน อีกทั้งพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น ยังเอื้อให้มีช่องว่างในการทำตลาด ไม่ว่าจะเป็น การย่างเข้าสู่วัยแรกสาว มีความต้องการสินค้าที่ตอบสนองความต้องการมากกว่าสินค้าเด็ก และไม่ต้องการสินค้าที่เข้าสู่เป็นวัยสาวเต็มตัวเกินไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตลาดแป้งเพื่อความงามจึงเป็นตลาดที่ผู้ประกอบการแต่ละค่ายให้ความสนใจและเปิดตัวสินค้าลงสู่ตลาด โดยเฉพาะยูนิลีเวอร์ ซึ่งถือว่าเป็นรายแรกที่เปิดตัวแป้งฝุ่น "พอนด์ส เมจิก เพาวเดอร์" ต่อมาค่ายจอห์นสันฯ ก็เปิดตัว "จอห์นสัน เพียว เอสเซนเชียล" ตามด้วยค่ายโอสถสภาเปิดตัวแป้ง "ทเวลฟ์ พลัส คิวตี้" นอกจากนี้ยังมีค่ายขายตรงอย่างมิสทิน เปิดตัว "มิสทิน พิงค์" หรือกระทั่งผู้เล่นอย่างเภสัชโหนกระแสตลาดแป้งเพื่อความงามด้วยเช่นกัน
ล่าสุดความเคลื่อนไหวผู้นำตลาดแป้งฝุ่นเพื่อความงาม "พอนด์ส เมจิก พาวเดอร์" ครองส่วนแบ่ง 40% ตอกย้ำบัลลังก์ด้วยการจัดโปรโมชั่นแพกคู่กับโฟมล้างหน้า ซึ่งเป็นสินค้าที่ใช้ควบคู่กันได้เป็นอย่างดี ขณะที่ในตลาดนี้ค่ายที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับสอง คือ จอห์นสัน เพียว เอสเซนเชียล 25% และทเวลฟ์ พลัส 15%
|
|
|
|
|