|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สภาพตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 5 เดือนแรกที่ผ่านมา มีใช้งบโฆษณาลดลงประมาณ 40 % เนื่องจากทุกค่ายในตลาดมีการปรับลดต้นทุนการผลิต รวมถึงยังไม่มีการออกสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ซึ่งถือว่าเป็นสภาพตลาดที่มีความแตกต่างจากเดิมที่เมื่อเข้าสู่ช่วงครึ่งปีแรกของทุกปี ค่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จจะออกมาสร้างสีสันในตลาดด้วย ไฮไลท์ดังกล่าว
ทางด้านบะหมี่ค่าย “ไวไว” และ “ควิก” ก็มีการปรับลดการใช้งบโฆษณาใหม่ โดยปีที่ผ่านมาใช้งบการตลาด 280 ล้านบาท ส่วนปีนี้ในต้นปีวางแผนใช้งบ 315 ล้านบาท แต่มีการปรับลดลงเหลือ 300 ล้านบาท เพราะต้นทุน ค่าใช้จ่ายด้านการจัดการที่เพิ่มสูงขึ้น
สุชัย ตันติยาสวัสดิกุล ผู้จัดการอาวุโสด้านการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่ชงกึ่งสำเร็จรูป บอกกับ “ผู้จัดการรายสัปดาห์” ว่า หากเทียบกับครึ่งปีแรก สถานการณ์ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในครึ่งปีหลังจะมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากในครึ่งปีหลัง เป็นช่วงเวลาของฤดูการขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะสินค้ากลุ่มอาหารเพื่อสำเร็จรูปจะเป็นตัวเลือกหนึ่งในสภาพดินฟ้าอากาศฝนตก
และคาดว่าจะมีผู้เล่นในตลาดออกสินค้าใหม่มาทำตลาดอย่างน้อย 1 ถึง 2 ตัว รวมทั้งคู่แข่งต้องการสร้างยอดขายระยะสั้น โดยมีการเทงบโฆษณามาลงที่โปรโมชั่น เพื่อการแข่งขันเล่นสงครามราคาใน Trade Promotion ที่รุนแรงต่อเนื่องจากปี 2548
อย่างไรก็ตามแบรนด์ไวไว ควิก พยายามไม่ลงไปเล่นสงครามราคาที่กำลังต่อสู้กันอย่างถล่มทลาย เพราะแนวทางการตลาดดังกล่าวจะส่งผลทำให้แบรนด์มีภาพลักษณ์สินค้าราคาถูก ขณะเดียวกันก็มีการทำส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆตามมาต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อการทำตลาดทำให้ผู้บริโภคติดยึดกับการทำโปรโมชั่น
ทว่า ก่อนที่แบรนด์อื่นๆในตลาดจะเริ่มนับหนึ่งอีกครั้งกับฤดูการขายใหม่ ล่าสุดบริษัทฯก็ได้เสริมทัพส่งน้องใหม่ควิก “รสกุ้งนึ่งมะนาว” ซึ่งเป็นการออกสินค้าใหม่เป็นตัวแรกของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จในปีนี้ และเป็นความพยายามเพื่อลดข้อจำกัดทางด้านรสชาติของควิก ไม่ให้จำเจ ซึ่งเมื่อเทียบกับไวไว และมาม่าแล้ว ควิกมีรสชาติน้อยกว่า โดยที่ผ่านมามีเพียง 3 รสชาติคือรสต้มยำกุ้ง รสต้มโคล้ง และรสต้มยำมันกุ้ง
อีกทั้งยังได้รีลอนซ์แพ็กเกจจิ้งใหม่ด้วยตัวการ์ตูนแอนนิเมชั่น ที่มีการปรับใหม่ให้หัวโต ตัวเล็ก ตามเทรนด์การสะสมในต่างประเทศการ์ดที่นิยมการ์ตูนแอนนิเมชั่นในรูปแบบนี้ ซึ่งเป็นการทำรีลอนซ์แพ็กเกจจิ้งอย่างต่อเนื่องจากการปรับครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษาคมที่ผ่านมา
นอกจากนั้นการดีไซน์คาแร็คเตอร์แอนนิเมชั่นบนซอง ให้แต่ละรสชาติมีความแตกต่างกันยังเป็น กลยุทธ์เพื่อลดความสับสนในการเลือกรสชาติของผู้บริโภคที่มีกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปควิกด้วย ทั้งนี้กลยุทธ์ด้านแพ็คเกจจิ้งเป็นแนวทางการตลาดหลักของควิก โดยในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา ควิก ใช้ผู้หญิงบนซองสินค้าเป็นเจ้าแรก
ตามมาด้วยการนำรูปของพรีเซ็นเตอร์เชียร์ มาไว้บนซองต้มยำกุ้ง ขณะที่เจน เป็นพรีเซ็นเตอร์บนซอง ของควิก รสต้มโคล้ง หลังจากนั้นก็มีการนำแอนนิเมชั่นแบบเดียวมาไว้บนซองทุกรสชาติ ซึ่งรีลอนซ์แพ็กเกจจิ้งใหม่ครั้งนี้ถือเป็นการปิดจุดอ่อนเดิม
และจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดของควิกเพิ่มขึ้น จาก7 % เมื่อออกสินค้าใหม่ตั้งเป้าหมายเพิ่มอีก 2-3% เป็น 10% ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดรวมของไวไว จากเดิมประมาณ 20-21 % คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลังเช่นกัน และทั้งสองแบรนด์รวมกันจะทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดรวม 28 % เพิ่มขึ้นอีก 3-5 % โดยปัจจัยการออกสินค้าใหม่จะเป็นตัวเพิ่มส่วนแบ่งตลาด
แต่หากเปรียบเทียบการเติบโตทั้ง 2 แบรนด์ระหว่างไวไว กับควิกแล้ว ควิกมีการเติบโตมากกว่า เพราะที่ผ่านมามีการออกแคมเปญการทำตลาด และการดีไซน์แพ็กเก็จจิ้งที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักของควิก ที่อายุ 18-25 ปี และมีพฤติกรรมทันสมัย ชอบลองของใหม่ และกลุ่มรองอายุ 26-35 ปี โดยการดีไซน์นั้นมีความโดดเด่น แปลก ดูทันสมัยกว่าบะหมี่ซองที่วางขายอยู่ในท้องตลาด
สำหรับตลาดรวมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 หมื่นล้านบาท ที่แบ่งเป็นชนิดซอง 95% และ ชนิดถ้วยและชาม5% นั้น คาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า บะมี่รูปแบบชามจะมีการขยายตัวมากขึ้น โดยการขยายตลาด บะหมี่ถ้วย (Cup Noodle) และบะหมี่ชาม(Noodle Bowl) เป็นกลยุทธ์ขยายเซกเมนต์รองรับพฤติกรรมการบริโภคแต่ละช่วงเวลา โดย Functional Benefit Ready to go
สุชัย บอกอีกว่า ในปีหน้าบริษัทจะลงไปเล่นในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ชนิดชาม ในเซกเมนต์ชาม จับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูง ที่มีผู้เล่นในตลาดหลักๆคือมาม่า และแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ มีราคาประมาณ 30 บาท และมีการราคาลดลงเหลือ 20 บาท และเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมามีหลายรายพยายามเข้ามาในตลาด ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างศึกษาตลาดดูความเป็นได้ทางด้านราคา ซึ่งปัจจุบันบะหมี่ชามในตลาดที่มีราคามีตั้งแต่ 15-25 บาท และนั่นยังเป็นข้อด้อยเพราะมีราคาที่ใกล้เคียงกับร้านก๋วยเตี๋ยว
ขณะที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดถ้วย ที่เหลือผู้เล่นในตลาดเพียง 3 แบรนด์ โดยเน้นผ่านช่องทางการขายหลัก80%คือโมเดอร์นเทรด และคอนวีเนี่ยนสโตร์นั้น ปัจจุบันควิก เป็นเบอร์สองในตลาดบะหมี่ถ้วย ด้วยส่วนแบ่งตลาด 31% มาม่า 49% และนิชชิน 20%
ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 หมื่นล้านบาท
- เปิดซอง 95%
- ชนิดถ้วยและชาม 5%
สัดส่วนรายได้รวมโรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย
- ไวไว 59%
- ควิก 24%
- เส้นหมี่อบแห้ง 14%
- อื่นๆ 3%
ส่วนแบ่งตลาดบะหมี่ถ้วย
- มาม่า 49%
- ควิก 31%
- นิชชิน 20%
สัดส่วนการขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปควิก
- ชนิดซอง 75%
- ชนิดถ้วย 25%
|
|
|
|
|