Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์10 กรกฎาคม 2549
"ทิพ" หันหัวรบขยายฐานกลุ่มนิชมาร์เก็ต จับตลาดน้ำมันพืชพรีเมียม             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท น้ำมันพืชทิพ จำกัด

   
search resources

Food and Beverage
Marketing
น้ำมันพืชทิพ, บจก.
สุภาณี ดิศกุล, ม.ร.ว




น้ำมันพืชทิพ หนีสงครามราคา แตกซับแบรนด์ “ทิพไวส์” เปิดศึกน้ำมันพืชในเซกเมนต์กลุ่มพรีเมียมเพื่อสุขภาพที่มีน้ำมันรำข้าว ทานตะวัน ข้าวโพด และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 10 % ต่อปี

“ทิพไวส์” ใช้กลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยชูจุดขายของน้ำมันพืช 5 ประเภทที่เหมาะกับชนิดอาหารแต่ละประเภทเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดคือ 1.น้ำมันเมล็ดฝ้ายเหมาะสำหรับอาหารประเภททอด 2.น้ำมันข้าวโพดและ3.น้ำมันดอกทานตะวันเหมาะสำหรับอาหารประเภทผัด 4.น้ำมันสลัดเป็นน้ำมันถั่วเหลืองเหมาะสำหรับการทำน้ำสลัดและการผัด 5.น้ำมันถั่วเหลืองผสมน้ำมันปาล์ม เหมาะทั้งอาหารประเภททอดหรือผัด

นอกจากคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในด้านโภชนาการที่เป็นจุดเด่นแล้ว ยังมีการชูจุดเด่นที่รูปแบบผลิตภัณฑ์ซึ่งมีความโดดเด่นและทันสมัย ได้รับ รางวัลบรอนซ์ อวอร์ด สาขาการสื่อสารการตลาด ด้านการออกแบบกราฟฟิคประเภทบรรจุภัณฑ์ จากการประกวดรางวัล Adman Awards 2006

ทั้งนี้ การสร้างเทรนด์ใหม่ในผู้บริโภคเลือกใช้น้ำมันพืชอย่างถูกชนิดดังกล่าว เป็นการเดินเกมเพื่อขยายขอบเขตการทำตลาดน้ำมันพืชทิพ เพราะที่ผ่านมาผู้บริโภคไม่มีความภักดีต่อแบรนด์ อีกทั้งมีความเชื่อว่าน้ำมันพืชจะเป็นกลุ่มสินค้าที่ไม่ได้ให้ผลในการประกอบอาหารที่แตกต่างกัน โดยดึงจุดเด่นคุณลักษณะของน้ำมันพืชที่เหมาะสมกับการปรุงอาหารแต่ละชนิดออกมาเป็นจุดขาย

พร้อมกับให้ความรู้เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้ในด้านฟังก์ชันนัลที่ชัดเจน เพราะที่ผ่านมาผู้บริโภคยังไม่มีความรู้ที่ชัดเจนเช่น น้ำมันพืชปาล์มสำหรับทำอาหารทอด ส่วนน้ำมันถั่วเหลืองเหมาะสำหรับอาหารผัด โดยใช้งบการตลาด 60-70 ล้านบาท ผ่านกลยุทธ์แบบบีโลว์เดอะไลน์ เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภครับรู้ถึงคุณสมบัติของน้ำมันพืชที่มีประโยชน์แตกต่างกัน

เพราะปัจจุบันผู้บริโภคยังเชื่อว่า น้ำมันพืชขวดเดียวสามารถปรุงอาหารได้ทุกอย่าง โดยจะเดินสายโรดโชว์แนะนำผลิตภัณฑ์และเมนูอาหารในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ 3 แห่ง โดยในกรุงเทพฯ จะจัด 3 ครั้ง และจะเดินสายจัดกิจกรรมที่เชียงใหม่และชลบุรีต่อไป

ม.ร.ว.สุภาณี ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำมันพืชทิพ จำกัด กล่าวว่า ตั้งเป้าการทำตลาดที่เน้นเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพที่ยอดขาย 280 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของเป้ายอดขายน้ำมันรวม 700 ล้านบาทในปีนี้

นอกจากนั้น ยังเป็นการมองหาช่องว่างในตลาด เพราะหากโฟกัสเแนวทางการทำตลาดน้ำมันพืชในตลาดรวมมูลค่า 9 พันล้านบาท ที่แบ่งสัดส่วนตลาดเป็นน้ำมันปาล์มประมาณ 65% และกลุ่มน้ำมันพืชเพื่อสุขภาพน้ำมันถั่วเหลือง 25% น้ำมันรำข้าว 6% และน้ำมันแบรนด์นำเข้าและน้ำมันอื่นๆ 4% แต่ละค่ายจะมีการชูฟังก์ชันนัลสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยวิตามินเอ หรือว่าวิตามินอี รวมทั้งโอเมก้า ทรี ที่ช่วยบำรุงสมองขึ้นมาเป็นจุดขายเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า

ที่สำคัญ ผู้เล่นในตลาดน้ำมันพืชแต่ละค่าย ยังเข้าไปจับจองพื้นที่ครอบครองความเป็นผู้นำตลาดในแต่ละเซกเมนต์แล้ว โดยแบรนด์ “องุ่น” เป็นผู้นำตลาดน้ำมันถั่วเหลือง ด้วยส่วนแบ่งตลาด 50% ตามลำดับด้วยกุ๊ก 15% และ ทิพ 7% ส่วนน้ำมันปาล์มนั้น มีแบรนด์ “มรกต” ครองอันดับหนึ่ง มีส่วนแบ่งการตลาด 60% และตลาดน้ำมันรำข้าวมี “คิง” เป็นผู้นำมีส่วนแบ่งการตลาด 70%

การเบนเข็มทิศลงไปเล่นในตลาดพรีเมียมครั้งนี้ นับว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการตลาดครั้งใหญ่ก็ว่าได้ เพราะก่อนหน้านี้เมื่อปี 2547 “ทิพ”เคยวางเป้าหมายที่จะเบียดน้ำมันพืชแบรนด์ “องุ่น” ขึ้นเป็นผู้นำในตลาดน้ำมันมันพืชถั่วเหลือง โดยได้มีการวางกลยุทธ์เชิงรุกในทุกด้านอย่างต่อเนื่อง

เริ่มตั้งแต่ก็ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง โดยการรีแบรนดิ้ง (Rebranding) เปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความทันสมัยและดูเป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้นโดยมี โสภิตนภา ชุ่มภานี เป็นพรีเซ็นเตอร์ รวมทั้งมีการปรับแพ็กเก็จจิ้ง ฉลากติดขวด เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายลดลงมาที่อายุ 25 ปีขึ้นไป จากกลุ่มเดิมที่เป็นลูกค้าอายุ 45 ปีขึ้นไป ซึ่งมีอัตราส่วนเพียง 14% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ

ด้านช่องทางขายมีการแต่งตั้งให้สหพัฒน์ฯ เป็นผู้กระจายสินค้า เพื่อพัฒนาการจำหน่ายให้สินค้าครอบคลุมพื้นที่ร้านค้าย่อยที่อยู่ในเขตปริมณฑลได้มากขึ้น หลังจากนั้นในครึ่งปีหลังปีที่ผ่านมา ยังได้ออกแคมเปญ "หยิบทิพ หยิบล้าน" ซึ่งเป็นรายการชิงโชคทองคำมูลค่า 1 ล้านบาท และรางวัลอื่นๆ รวมถึง จัดโครงการเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ตราสินค้าทิพ แจกรถเข็นขายไข่เจียวพร้อมกับอุปกรณ์ และขายน้ำมันพืชทิพในราคาถูกแก่กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย ที่สนใจจำนวนทั้งสิ้น 100 คัน โดยค่ายน้ำมันพืชทิพ หวังผลจากทำตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่องจะสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 100%

การรบแบบเต็มรูปแบบรุกทั้ง 4 P’ ปรับทั้ง Product Price place Promotion ก็ยังไม่สามารถเข้าไปต่อกรกับภาวะการแข่งขันด้านราคารุนแรง ที่ราคาขาย 34-35 บาทต่อลิตร แต่ทว่าช่วยกระตุ้นยอดขายน้ำมันทิพให้เพิ่มขึ้นได้เพียงในระยะสั้นเท่านั้นเอง ซึ่งนั่นเป็นที่มาของการเบนเขมสู่ตลาดน้ำมันพืช ในเซกเมนต์เพื่อสุขภาพล่าสุด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us