Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 กรกฎาคม 2549
MMEมาร์เกตแคปรูดหลังถูกมาตรการ'กมล'ยอมรับส่งผลต่อภาพลักษณ์หุ้น             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท

   
search resources

Stock Exchange
ไมด้า-เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเมนท์, บมจ.




ไมด้า-เมดดาลิสท์ สุดแกว่งช่วงตลท.สั่งห้ามเน็ทเซ็ทเทิลเมนท์-มาร์จิ้น ราคาสูงสุด-ต่ำสุดห่างสุดกรูถึงเกือบ 500% โดยมาร์เกตแคปจาก 9.1 พันล้านบาทลงไปต่ำสุด 1.8 พันล้านบาท หายไปกว่า 7.3 พันล้านบาท ขณะที่ APURE ไม่น้อยหน้าราคาสูงสุด-ต่ำสุดห่างกันกว่า 2 เท่า ขณะที่"กมล เอี้ยวศิวิกูล"ยอมรับการถูกมาตรการทำให้ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของหุ้น

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท ไมด้า-เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือ MME ในช่วงที่ตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) ครั้งล่าสุดระหว่างวันที่ 5 เมษายน ถึง 6 กรกฎาคม 2549 เป็นเวลา 60 วันทำการ พบว่าราคาปิดวันที่ 4 เมษายนอยู่ที่ 29.50 บาท ก่อนที่ปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 39 บาท เมื่อวันที่ 10 เมษายน ขณะที่ราคาต่ำสุดในช่วงดังกล่าวอยู่ที่ 6.75 บาท เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน โดยหากเทียบเทียบราคาสูงสุดกับราคาต่ำสุดในช่วงเวลาดังกล่าวราคาห่างกันถึง 32.25 บาท หรือเกือบ 500%

ทั้งนี้ หากพิจารณามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ มาร์เกตแคป เมื่อวันที่ 4 เมษายนอยู่ที่ 7,080.00 ล้านบาท ก่อนที่จะปรับไปสูงสุดถึง 9,120 ล้านบาทเมื่อวันที่ 10 เมษายน ขณะที่มาร์เกตแคปเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ตกลงไปอยู่ที่ 1,812 ล้านบาท โดยมาร์เกตแคปลดลงถึง 7,308 ล้านบาท หรือ 80.13% จากวันที่มาร์เกตแคปปรับตัวขึ้นไปสูงสุด ด้านราคาปิด MME วานนี้ ( 6 ก.ค.) ราคาปิดที่ 9.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ 4.20% มูลค่าการซื้อขาย 25.77 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทที่จะครบกำหนดที่ตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) ในวันนี้ (7 ก.ค.) คือบริษัท อกริเพียว โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือAPUREและใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (APURE-W1) จะยังต้องติดตามว่าตลาดหลักทรัพย์มีสรุปในเรื่องการห้ามเน็ทเซ็ทเทิลเมนท์-มาร์จิ้นหรือไม่ โดยตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามเน็ตเซ็ทเทิลเมนท์ ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน ถึง 7 กรกฎาคม 2549

ทั้งนี้ราคาปิดวันที่ 7 เมษายนอยู่ที่ 6.80 บาท ก่อนที่ปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 7.10 บาท ขณะที่ราคาต่ำสุดในช่วงดังกล่าวอยู่ที่ 1.96 บาท เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน โดยหากเทียบเทียบราคาสูงสุดกับราคาต่ำสุดในช่วงเวลาดังกล่าวราคาห่างกันถึง 5.15 บาท หรือกว่า 200%

ทั้งนี้หากพิจารณามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ มาร์เกตแคป เมื่อวันที่ 7 เมษายนอยู่ที่ 1,831.41 ล้านบาท ก่อนที่จะปรับไปสูงสุดถึง1,863.44ล้านบาทเมื่อวันที่ 24 เมษายน ขณะที่มาร์เกตแคปเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ตกลงไปอยู่ที่ 552.13 ล้านบาทลดลงถึง 1,311.31 ล้านบาทหรือ 70.37% จากวันที่มาร์เกตแคปปรับตัวขึ้นไปสูงสุด

อย่างไรก็ตามตลาดหลักทรัพย์ได้ห้ามการซื้อหรือขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท หรือ APURE-W1 ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม2549 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2549 เนื่องจากจะครบกำหนดการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท
(APURE-W1) โดยมีระยะเวลาแสดงความจำนงการใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2549 ถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2549 กำหนดวันใช้สิทธิในวันที่ 31 กรกฎาคม 2549 โดยบริษัทกำหนดปิดสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2549 เวลา 12.00 น. ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2549 ซึ่งจะเป็นผลให้ APURE-W1 พ้นสภาพจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2549 เป็นต้นไป

ด้านราคาปิด APURE วานนี้ ( 6 ก.ค.) ราคาปิดที่ 2.88 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท หรือ 6.67% มูลค่าการซื้อขาย 49.59 ล้านบาท

นายกมล เอี้ยวศิวิกูล ประธานกรรมการ บริษัท ไมด้า-เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MME กล่าวว่า การสั่งห้ามเน็ตเซ็ทเทิลเม้นท์ของตลาดหลักทรัพย์จะยืดเวลาออกไปหรือไม่คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ โดยการโดยใช้มาตรการดังกล่าวแม้ว่าจะไม่กระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัท แต่ก็กระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัท

ทั้งนี้ นักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนควรที่จะยอมรับว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ควรจะรู้สึกแค่ว่าการลงทุนจะสร้างผลตอบแทนเท่านั้นเพราะทุกครั้งที่นักลงทุนขาดทุนก็กลับมาโทษบริษัทโดยไม่เคยพิจารณาถึงผลประกอบการของบริษัทซึ่งที่ผ่านมาบริษัทก็ยังมีกำไรอย่างต่อเนื่อง

"ผมว่าคนเค้าอิจฉาผมตอนนี้ผมมี 3 บริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ผลประกอบการก็ดีการที่หุ้นมันจะขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดผมไม่คิดว่าการขึ้นของหุ้นผมผิดปกติซึ่งใครที่คิดว่ามันผิดปกติก็ไม่ควรที่จะเข้ามาลงทุน บางครั้งหุ้นที่ขึ้นบางตัวผลประกอบการก็แย่ไม่เห็นมีการเข้าไปตรวจสอบบ้างเลย"นายกมลกล่าว

อย่างไรก็ตามแม้ว่าภาพลักษณ์ของตนเองจะได้รับผลกระทบจากการถูกมองว่าเป็นนักลงทุนขาใหญ่แต่ก็ยังมีความสนใจที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มในอนาคตหากมีการขยายธุรกิจ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us