ไทยฟิล์มอินดัสตรี่ ขายหุ้นพ่วงวอร์แรนต์ "ไทยคอปเปอร์ฯ" ให้นักลงทุนญี่ปุ่น "MARUBENI" มูลค่ารวมกว่า 188 ล้านบาท หวังนำเงินไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนและลดภาระดอกเบี้ยจ่าย หลังเพิ่มกำลังการผลิตจาก 7.7 หมื่นตัน เป็นกว่า 1 แสนตันต่อปี
นายวัลลภ คุณานุกรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยฟิล์มอินดัสตรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TFI กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 7 /2549 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2549 อนุมัติให้บริษัทขายหุ้นสามัญและใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) ของบริษัท ไทยคอปเปอร์ อินดัสตรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TCI ให้กับ MARUBENI CORPORATION (MARUBENI) จากประเทศญี่ปุ่น โดยแบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 18,885,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 3.04% ของทุนจดทะเบียน ในราคาหุ้นละ 10 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 4 ก.ค. 49 อยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 37.77 บาท) หรือประมาณ 188.85 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ได้ขายใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) ที่จะซื้อหุ้นของ TCI จำนวน 944,250 หน่วย หรือคิดเป็นสัดส่วน 2.35% ในราคาหน่วยละ 1 สตางค์ มูลค่าประมาณ 9,442.50 บาท โดยใบสำคัญแสดงสิทธิ์ 1 หน่วยสามารถซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ในราคาหุ้นละ 1 สตางค์ จากราคาพาร์ที่หุ้นละ 10 บาท บนเงื่อนไขที่ TCI ต้องเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation) แล้วเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี และหุ้น TCI ได้จดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องใช้สิทธิแปลงสภาพภายในเวลา 3 เดือนหลังจากที่เงื่อนไขข้างต้นสมบูรณ์แล้ว
หลังจาก TFI ขายหุ้นสามัญและใบสำคัญแสดงสิทธิของ TCI ดังกล่าว ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ TFI ลดลงจากเดิมที่ถืออยู่ 170,898,138 หุ้น หรือ 27.47% เหลือ 152,013,138 หุ้น หรือ 24.43% ขณะที่ใบสำคัญแสดงสิทธิลดจาก 5,511,530 หน่วย หรือ 13.71% เหลือ 4,567,280 หน่วย หรือ 11.36%
สำหรับวัตถุประสงค์ของการเสนอขายหุ้นจำนวนดังกล่าวนั้น TFI คาดว่าจะได้รับเงินรวมทั้งสิ้นประมาณกว่า 188 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและเพิ่มสภาพคล่อง หลังจากที่ได้เพิ่มกำลังการผลิตจากปีละ 77,000 ตัน ในปี 2547 เป็น 107,000 ตันในปี 2548
"การเพิ่มกำลังการผลิต ทำให้บริษัทมีความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มสูงขึ้น หากบริษัทไม่สามารถขายหุ้นดังกล่าว อาจจำเป็นต้องกู้ยืมเงินเพิ่มเติม เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทต้องแบกรับาระดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเงิน บวกกับการพิจารณาวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนของสถาบันการเงินล่าช้าไม่ทันความต้องการในการขยายธุรกรรมของ TFI ดังนั้นการขายหุ้นเพื่อนำเงินที่ได้รับชำระมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนจึงเป็นแนวทางที่เกิดประโยชน์ต่อบริษัท"
ทั้งนี้ คณะกรรมการและกรรมการตรวจสอบ ได้สนับสนุนการทำรายการดังกล่าว เนื่องจากราคาขายเป็นราคาต้นทุนที่ซื้อมาหุ้นละ 10 บาท และสูงกว่าราคาตามมูลค่าทางบัญชีที่หุ้นละ 8.62 บาท รวมทั้งบริษัทจะได้นำเงินสดที่ได้จากการขายหุ้นไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน เพื่อขยายกำลังการผลิตให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
บริษัท ไทยคอปเปอร์ อินดัสตรี่ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจถลุงหัวแร่ทองแดง (Smelter) และแยกแร่ทองแดง (Refinery) เพื่อให้ได้ทองแดงบริสุทธิ์ 99.99% รวมถึงการหลอมและหล่อหรือรีดทองแดงให้เป็นแผ่นหรือเป็นเส้นเพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ทุนจดทะเบียน 6,623,269,400 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 662,326,940 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท เรียกชำระแล้ว 6,221,356,400 บาท จำนวน 622,135,640 หุ้น และใบสำคัญแสดงสิทธิรวม 40,191,300 หน่วย
ด้านฐานะการเงิน ณ 31 มีนาคม 2549 TCI มีสินทรัพย์รวม 24,632 ล้านบาท หนี้สินรวม 19,266 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 5,366 ล้านบาท มูลค่าทางบัญชีหุ้นละ 8.62 บาท ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาสแรก ปี 2549 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 988 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 988 ล้านบาท
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ TCI ก่อนที่จะเสนอขายหุ้นให้กับ MARUBENI มีกลุ่มนายประยุทธ มหากิจศิริ ถือหุ้นในสัดส่วน 33.00% บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย 29.61% TFI 27.47% และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 9.87%
ขณะที่โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ TFI นั้น ผู้ถือหุ้นใหญ่ 5 อันดับแรก ประกอบด้วย นายประยุทธ มหากิจศิริ ถือหุ้น 2,623,650,172 หุ้น หรือ 38.69% นางสุวิมล มหากิจศิริ 993,012,050 หุ้น หรือ 14.64% น.ส.อุษณา มหากิจศิริ 348,226,088 หุ้น หรือ 5.13% นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ 340,000,000 หุ้น หรือ 5.01% และน.ส.อุษณีย์ มหากิจศิริ 340,000,000 หุ้น หรือ 5.01%
|