|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หุ้นบริษัทเอเวอร์แลนด์ฉุดไม่อยู่ ราคาวิ่งพุ่งต่ออีก 22.58% เมินถูกตรวจสอบ โบรกเกอร์แนะตลท.ให้นำมาตรการห้ามมาร์จิ้นและเน็ตเซ็ทเทิลเมนท์มาใช้ดับร้อน หวั่นนักลงทุนจะได้รับความเสียหาย ระบุราคาวิ่งแรงทั้งที่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
"ภัทรียา"ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ยังมั่นใจกระบวนการตรวจสอบความผิดปกติในการซื้อขายหุ้น
วานนี้(6 ก.ค.)การซื้อขายหุ้นบริษัทเอเวอร์แลนด์ จำกัด(มหาชน)หรือ EVER ราคายังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าตลาดหลักทรัพย์จะออกมาเผยว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยขอข้อมูลการซื้อขายจากโบรกเกอร์ก็ตาม โดยราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก โดยปิดที่ระดับ 11.40 บาทเพิ่มขึ้น 2.10 บาทหรือ 22.58% ซึ่งในระหว่างวันราคาได้เคลื่อนไหวขึ้นมาสูงสุดที่ 11.80 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายจำนวน 284.82 ล้านบาท
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงมาตรการในการเข้าไปตรวจสอบและดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนว่า ตลาดหลักทรัพย์ยังมีความมั่นใจในกระบวนการตรวจสอบความผิดปกติในการซื้อขายหุ้นบริษัทจดทะเบียน แต่การตรวจสอบอาจจะต้องใช้เวลาในการพิจารณา
ทั้งนี้การที่นักลงทุนจะเข้ามาลงทุนในหุ้นที่มีลักษณะเก็งกำไร ราคาหุ้นปรับขึ้นลงค่อนข้างรุนแรงนักลงทุนจะต้องพิจารณาให้ดีก่อนที่จะลงทุน ขณะเดียวกันบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งเป็นหน้าด่านที่สำคัญก็จะต้องให้ความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ในเรื่องข้อมูล และจะต้องมีการให้ความรู้นักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนด้วย
"เรื่องที่เรายังไม่การฟ้องร้องกับบางบริษัทเกี่ยวกับการซื้อขายที่ผิดปกติไม่ได้มีผลต่อการตรวจสอบหุ้นอื่นที่มีความผิดปกติ แต่ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน และที่สำคัญมีหุ้นที่ต้องดูแลเป็นพิเศษก็มีไม่กี่บริษัท"นางภัทรียากล่าว
อย่างไรก็ตามกรณีที่หลายฝ่ายมีความกังวลในมาตรการการตรวจสอบหุ้นบางบริษัทที่ใช้เวลาค่อนข้างนาน จากการสอบถามทีมงานที่หน้าที่ดูแลยืนยันว่าทุกอย่างอยู่ในขั้นตอน และยังไม่มีการเสนอให้มีการใช้นโยบายใหม่เพื่อเพิ่มการดูแล โดยเหตุผลที่ตลาดหลักทรัพย์ยังไม่มีเพิ่มมาตรการเนื่องจากจำนวนบริษัทที่มีพฤติกรรมการซื้อขายที่ผิดปกติไม่มากเมื่อเทียบกับจำนวนบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า สาเหตุที่หุ้นบริษัทเอเวอร์แลนด์ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก คาดว่าเกิดจากนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาไล่ราคาหุ้น ซึ่งถ้านักลงทุนแห่เข้าไปเก็งกำไรตามก็อาจจะมีความเสี่ยงในการลงทุนได้ เพราะจะเห็นได้ว่าราคาหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับราคาหุ้นละ 4 บาทเศษปรับขึ้นมาอยู่ในระดับเกือบ 12 บาทถือว่าเป็นระดับราคาที่สูงกว่าปัจจัยพื้นฐานมาก และที่ผ่านมาบริษัทเอเวอร์แลนด์ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านปัจจัยพื้นฐานจนถึงขนาดส่งผลทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมากขนาดนี้
ทั้งนี้เห็นว่าตลาดหลักทรัพย์น่าจะมีการนำมาตรการห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) เพราะถ้านำมาตรการดังกล่าวมาใช้ อาจจะทำให้นักลงทุนแห่เข้าไปเก็งกำไรมากขึ้น ซึ่งจะทำให้นักลงทุนเกิดความเสียหายจากการลงทุนได้เช่นกัน
"การที่ตลาดหลักทรัพย์ยังไม่ใช้มาตรการห้ามมาร์จิ้นและเน็ตเซทเทิลเมนท์ในหุ้นบริษัทเอเวอร์แลนด์นั้น อาจจะเกิดจากตลาดหลักทรัพย์ต้องการตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจเสียก่อนว่ามีความผิดปกติในการซื้อขาย ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ต้องการดำเนินการอย่างรอบคอบ เพราะเกรงว่าอาจจะถูกฟ้องร้องได้เหมือนในกรณีหุ้นไออีซีที่ฟ้องร้องต่อศาลปกครองในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการที่ตลาดหลักทรัพย์ยังปล่อยให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแรงเช่นนี้ ก็อาจจะทำให้มีนักลงทุนบางส่วนมองว่าตลาดหลักทรัพย์มีมาตรฐานในการพิจารณาที่ไม่เหมือนกันได้เช่นกัน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่จะต้องระมัดระวัง"แหล่งข่าวกล่าว
|
|
|
|
|