Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 กรกฎาคม 2549
CPFผุดโรงงานในรัสเซีย             
 


   
www resources

โฮมเพจ เจริญโภคภัณฑ์อาหาร

   
search resources

เจริญโภคภัณฑ์อาหาร, บมจ.
Agriculture




เจริญโภคภัณฑ์อาหาร รุกขยายตลาดต่างประเทศ ทุ่มเงินทุนกว่า 310 ล้านบาท ตั้ง Charoen Pokphand Foods (Overseas) LLC. เพื่อผลิตอาหารสัตว์และเลี้ยงสัตว์ในประเทศรัสเซีย ดีเดย์ไตรมาส 3 นี้ หลังทำการศึกษาตั้งแต่ปี 48 ผู้บริหารมั่นใจศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ เหตุมีความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์สูงมาก ด้านนักวิเคราะห์แนะซื้อ CPF ราคาเหมาะสมที่หุ้นละ 6.10 บาท ขณะที่ราคาบนกระดานขานรับบวก 2.80% ปิดที่ 5.50 บาท

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจัดตั้ง Charoen Pokphand Foods (Overseas) LLC. ภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตอาหารสัตว์และเลี้ยงสัตว์ในประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจดังกล่าว เนื่องจากมีปริมาณความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ในอัตราที่สูงมาก

โดยการลงทุนในรัสเซียครั้งนี้ CPF ลงทุนผ่าน CPF Europe S.A. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ CPF ถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 99.99 โดยจะให้เงินทุนจำนวน 220 ล้านรัสเซียรูเบิล หรือประมาณ 310 ล้านบาท (คำนวณโดยใช้อัตราในตลาดต่างประเทศ (Financial Times) คำนวณผ่านอัตราขายเงินดอลลาร์สหรัฐ ในตลาดกรุงเทพฯ ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2549 ซึ่งเท่ากับ 1.4088 บาทต่อรัสเซียรูเบิล)

สำหรับการลงทุนดังกล่าวเป็นไปตามแผนการลงทุนของบริษัท ที่ได้เข้าไปศึกษาก่อนที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศ รัสเซียตั้งแต่ปี 2548 เนื่องจากตลาดรัสเซียไม่เข้มแข็ง ซึ่งพบว่าความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ของรัสเซียมีปริมาณสูงมาก และ 80% เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้นบริษัทจึงเห็นโอกาสและช่องทางในการที่จะเข้าไปเจาะตลาดในประเทศดังกล่าว

"จากที่บริษัทได้ศึกษาตลาดรัสเซียมาระยะหนึ่ง พบว่า ตลาดเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสุกร มีโอกาสเติบโตที่สูง เพราะว่ารัสเซียเป็นประเทศที่มีประชากรกว่า 140 ล้านคน ซึ่งมีความต้องการบริโภคเนื้อสุกรประมาณ 2-2.5 ล้านตัน และการบริโภคเนื้อไก่กมีปริมาณใกล้เคียงกัน แต่ไม่สามารถผลิตได้เพียงพอกับความต้องการ จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าเนื้อสัตว์จากประเทศอื่น CPF จึงตัดสินใจลงทุน โดยเริ่มต้นด้วยการผลิตอาหารสัตว์บกที่มีความชำนาญ และคาดว่าจะเริ่มการทำธุรกิจสุกรไปพร้อมๆ กัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวของธุรกิจซีพีเอฟในอนาคต"

นายอดิเรก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2549 CPF มีเงินสำรองไว้สำหรับลงทุนประมาณ 6-7 พันล้านบาท จะเน้นไปที่การขยายในส่วนของ กุ้งแปรรูปส่งออก ที่หมูปรุงสุก เป็ดปรุงสุก ตลอดจนการโรงงานอาหารปลา ตลอดจนการศึกษาการลงทุนในต่างประเทศ ด้วย ซึ่งนอกจากที่รัสเซียแล้ว บริษัทยังสนใจจะเข้าไปลงทุนในประเทศยูเครนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาและต้องการบริโภคสินค้า รวมทั้งฟิลิปปินส์ ปากีสถาน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องการลงทุนภายในปีนี้

"การเบนเข็มสู่ประเทศแถบยุโรป เป็นเหมือนทางออกของ CPF เพราะตลาดนี้ได้รับประโยชน์จากการประกาศลดอัตราภาษีลงตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทำให้การส่งสินค้าออกไปจำหน่ายสะดวกและง่ายขึ้น อันจะทำให้เป้าหมายการเติบโตของรายได้และยอดขายเพิ่มขึ้นตามเป้า"

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า การลงทุนดังกล่าวจะส่งผลดีต่อ CPF ในแง่ของการขยายฐานลูกค้าในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในแถบยุโรป จากปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการส่งออกเนื้อสัตว์ไปแถบยุโรปประมาณ 40% ดังนั้นจึงแนะนำให้นักลงทุนซื้อลงทุน ประเมินราคาที่เหมาะสมไว้ที่หุ้นละ 6.10 บาท

ส่วนกรณีบริษัทประมาณการรายได้รวมปี 2549 นี้ไว้ที่ 1.3 แสนล้านบาท นั้น มีโอกาสเป็นไปได้ และใกล้เคียงกับบทวิเคราะห์ของบริษัทที่ประเมินรายได้รวมไว้ที่ประมาณ 1.25 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันธุรกิจของบริษัทยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง คือมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์ 35% ธุรกิจเนื้อสัตว์ในประเทศ 40% ธุรกิจเนื้อสัตว์ส่งออก 20% พันธุ์สัตว์ 5% และอื่นๆ ประมาณ 2 - 3%

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นวานนี้ (6 ก.ค.) ราคาหุ้นมีการซื้อขายในกรอบแคบๆ โดยมีราคาต่ำสุดที่ 5.25 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ราคาสูงสุดที่ 5.50 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.15 บาท หรือคิดเป็น 2.80% มูลค่าการซื้อขายรวม 54.18 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us