|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หุ้นไอทีวีพุ่งเกือบ 25 % สวนตลาด นักลงทุนเก็งกำไรรับข่าวเพื่อนซี้แม้วรั้งตำแหน่งปลัดสปน.ที่คาดกันว่าจะเข้ามาปกป้องผลประโยชน์ไอทีวี ด้าน “เนติห้อย” ยันตั้ง “รองพล-พีระพันธุ์” ไม่จำเป็นต้องรายงานให้กกต.เห็นชอบก่อน ย้อนกกต.ไม่มีอำนาจแต่งตั้งใคร เชลียร์ “ทักษิณ” โต้ตั้ง “พีระพันธุ์”อุ้มไอทีวี ปล่อยมุขเวลานี้มีแค่ “ยูทีวี” เท่านั้น
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV วานนี้ ( 5 ก.ค.) ราคาเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ระดับ 2.92 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาทหรือ 3.54% ก่อนจะปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 3.66 บาท เพิ่มขึ้น 0.84 บาท หรือ 29.78% เกือบชนเพดานสูงสุด หลังนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรข่าวการแต่งตั้งให้พล.ต.ต.พีระพันธุ์ เปรมภูติ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทนายกรัฐมนตรีเข้าดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) แทนนายรองพล เจริญพันธุ์ ก่อนที่ราคาหุ้นจะปิดที่ 3.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 24.82% โดยราคาต่ำสุดระหว่างวันอยู่ที่ 2.92 บาท มูลค่าการซื้อขาย 509.48 ล้านบาท
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ราคาหุ้น ITV ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงภายหลังสปน.ระบุว่าไอทีวีจะต้องจ่ายค่าผิดสัญญาสัมปทานเป็นเงินรวมกว่า 7.5 หมื่นล้านบาท โดยในวันที่ 9 พ.ค. ปิดที่ 6.55 บาท ลดลง 29.95% ก่อนที่ราคาจะปรับตัวต่ำสุดที่ 2.42 บาท เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา
นางสาวสุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นไอทีวีจนทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นรุนแรงหลังจากการแต่งตั้งพล.ต.ต.พีระพันธุ์ เข้ามารับตำแหน่งปลัดสปน. แทน นายรองพล ซึ่งถือเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรี โดยนักลงทุนมองว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีที่จะเกิดขึ้นกับไอทีวีกรณีค่าปรับสัมปทานที่ไอทีวีจะต้องจ่ายให้แก่สปน.
ทั้งนี้ จะต้องรอดูว่าปลัดสปน.คนใหม่จะมีนโยบายในเรื่องดังกล่าวอย่างไร และจะยืนยันที่จะให้ไอทีวีต้องจ่ายค่าปรับเหมือนกับนายรองพลปลัดสปน.คนเก่า หรือไม่
อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยในการลงทุนบริษัทยังไม่แนะนำให้ซื้อ เนื่องจากยังไม่มีคำตัดสินที่แน่นอนในเรื่องค่าปรับ ซึ่งหากไอทีวีต้องจ่ายค่าปรับและต้องปรับผังรายการใหม่ จะส่งผลกระทบต่อบริษัท
สำหรับราคาเป้าหมายจะต้องมีการปรับใหม่อีกครั้งเนื่องจากราคาเป้าหมายเดิมที่ 5.20 บาท ยังไม่ได้สะท้อนพื้นฐานหากไอทีวีจะต้องโดนจ่ายค่าปรับตามจำนวนที่สปน.ระบุ
นางสาววิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส บล.เกียรตินาคิน เปิดเผยว่า การปรับขึ้นของราคาหุ้น ITV เป็นเพียงการปรับขึ้นรับข่าวการเปลี่ยนแปลงตัวปลัดสปน.แต่ยังประเด็นที่นักลงทุนจะต้องพิจารณาคือเรื่องการจ่ายค่าปรับจากการทำผิดสัญญาสัมปทาน ซึ่งต้องรอคำตัดสินชี้ขาดจากศาลปกครองสูงสุดว่าจะสรุปเรื่องจำนวนค่าปรับออกมาอย่างไร
ทั้งนี้ ยังแนะนำให้นักลงทุนเลี่ยงลงทุนเนื่องจากยังมีความเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับความชัดเจน โดยราคาประเมิน ณ ขณะนี้อยู่ที่ 3.56 บาท
**เนติห้อยยันไม่มีปัญหาขั้นตอนแต่งตั้ง
นายเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ระบุว่า การตั้งแต่งนายรองพล เจริญพันธุ์ เป็นเลขาธิการครม.และพล.ต.ต.พีระพันธุ์ เปรมภูติ เป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนนตรี ว่า ขั้นตอนที่ปฏิบัติมาตั้งแต่ยุบสภาเมื่อมีการแต่งตั้งโยกย้ายถ้าเป็นระดับต่ำกว่า 10 หัวหน้าส่วนราชการก็จะทำเรื่องเสนอไปยังกกต.ถ้ากกต.ไม่ขัดข้องก็ให้ถือว่ามีผล ส่วนระดับ 10 ขึ้นไป เมื่อครม.เห็นชอบแล้วก็จะส่งเรื่องไปให้กกต.เห็นชอบ ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะฉะนั้นโดยขบวนการให้เรื่องนี้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะส่งเรื่องไปให้กกต.อีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นขบวนการที่เคยปฏิบัติมา และไม่ใช่ว่าเป็นเพียงการรับทราบ ถ้ามีคนรองคัดค้านการแต่งตั้งโยกย้าย จะมีผลต่อการเลือกตั้ง กกต.ก็จะพิจารณาให้ความเห็นว่าสมควรหรือไม่สมควร
“คิดว่าตำแหน่งเลขาธิการครม.กับตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีส่วนกับการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นจึงไม่น่ามีปัญหาต่อการที่ครม.มีมติ”
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่มีการโต้แย้งว่าจะต้องมีการส่งเรื่องให้กกต.ก่อนที่ครม.จะพิจารณา นายเนวิน กล่าวว่า ไม่ใช่ แนวทางที่รัฐบาลปฏิบัติตลอดมาก็คือเมื่อครม.เห็นชอบแล้ว ก็จะส่งเรื่องไปให้กกต. เป็นขบวนการที่ทำมาปกติ ที่ผ่านมาก็ทำอย่างนี้มาตลอดในระดับ 10 ที่มีการแต่งตั้งหลังจากยุบสภาก็มีเยอะแยะ ขั้นตอนก็คือครม.เห็นชอบก็ส่งไปกกต.เป็นเรื่องปกติ คือขบวนการต้องส่งเรื่องหลังจากที่ครม.มีมติไปแล้ว ซึ่งในกรณีที่เกรงว่าจะมีผลต่อการเลือกตั้งก็ยับยั้งไว้ก่อนรอจนกว่าจะมีการเลือกตั้งแล้วค่อยมีผล แต่กกต.ไม่มีอำนาจที่จะตั้งหรือไม่ตั้งใคร เป็นแต่เพียงว่าจะให้มีผลก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง ตอนแต่งตั้งผู้ว่าฯก็ทำแบบนี้ ไม่มีอะไรที่ขัดรัฐธรรมนูญ เป็นนักกฎหมายอยู่แล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่าการตั้งพล.ต.ต.พีรพันธ์เพื่อต้องการให้ดูเรื่องไอทีวีโดยเฉพาะหรือไม่ นายเนวิน กล่าวว่า พล.ต.ต.พีระพันธ์เป็นประธานสอบ ไม่ใช่คนที่ถูกสอบ วันนี้กำลังสับสนไปกันใหญ่ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามาตั้งคำถามคนที่เป็นกรรมการสอบมาดำรงตำแหน่งหน่วยงานที่ถูกสอบไม่ได้ มันไม่น่าใช่ แต่กลับทำให้ประสิทธิภาพการทำงานเรื่องนี้ดีขึ้นด้วยซ้ำไป หลักวันนี้ต้องบอกว่าไม่มีอะไรที่ พล.ต.ต.พีรพันธ์ ไม่เหมาะสม
เมื่อถามว่าพล.ต.ต.พีรพันธ์ ถูกมองว่ามีความสนิทสนมกับนายกรัฐมนตรีไม่กลัวถูกมองว่าตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องไอทีวี นายเนวิน กล่าวว่า ไม่ใช่หรอก วันนี้ไอทีวีไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรี มีแต่ยูทีวี ไม่มีไอทีวีแล้ว
**รองพลแกล้งโง่ไม่รู้ต้องผ่านกกต.
นายรองพล เจริญพันธุ์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงขั้นตอนการแต่งตั้งที่กกต.ระบุว่าต้องผ่านกกต.ให้ความเห็นชอบก่อนว่า เรื่องนี้ไม่รู้เรื่อง แต่คิดว่าสามารถทำได้ทั้ง 2 อย่าง คือการ แจ้งให้กกต.รับทราบก่อนเข้าครม. และเข้าครม.แล้วค่อยแจ้งให้กกต.ทราบ ซึ่งจริงๆ แล้วกฎหมายก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะต้องแจ้งก่อนหรือหลังเข้าครม. อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง และไม่อยากให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ ส่วนการเข้ารับตำแหน่งเลขาครม.ยินดีไม่มีปัญหาอะไร เต็มใจและดีใจที่จะรับตำแหน่ง
**ย้ำสัญญาไอทีวีไม่ผ่านมติครม.
นายรองพล ยังกล่าวถึง กรณีที่พล.ต.ต.พีรพันธ์ จะเข้ามารับตำแหน่งต่อจากตน และจะต้องมาสะสางปัญหาไอทีวี ว่า พล.ต.ต.พีรพันธ์ก็คงจะเข้ามาดูแลสัญญาเรื่องของไอทีวี คิดว่าคงเข้ามาเป็นประธานสอบข้อเท็จจริงปัญหาข้อบกพร่องของสัญญาข้อ 5 วรรค 4 ที่มีผู้ร่างสัญญานี้และเสนอโดยไม่ผ่าน ครม. ไม่มีการเห็นชอบของ ครม.ตาม ม.21 ของกฎหมายร่วมทุน เพราะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายสัญญาเป็นโมฆะของมีผู้รับผิดชอบทั้งทางแพ่งและอาญา ทางวินัย ถึงแม้ว่าจะผ่านมาสิบปีแล้ว แต่ยังสามารถส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ดำเนินการได้ ฉะนั้นการสอบสวนของพล.ต.ต.พีระพันธ์ จะมีประโยชน์
ผู้สื่อข่าวถามถึงตามกรอบจะต้องดำเนินการสอบสวนภายในกี่วัน ปลัดสำนักนายกฯ กล่าวว่า ภายใน 30 วัน ซึ่งในส่วนของ พล.ต.ต.พีรพันธ์จะเป็นการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดในอดีต แต่ที่เข้ามาดูสัญญาไอทีวี ซึ่งสัญญาได้ไปสู่การชี้ขาดของศาลปกครองสูงสุดแล้ว ก็ต้องรอผลคำวินิจฉัยก่อน ไม่มีทางเลือก
เมื่อถามว่าที่ระบุว่าต้องมีคนรับผิดในเรื่องสัญญาที่ไม่ผ่านมติครม.หมายถึงใคร นายรองพล กล่าวว่า เป็นข้าราชการในอดีตของสปน.ซึ่งรายละเอียดต้องรอผลการสอบสวน
เมื่อถามว่าสัญญาที่บอกว่าไม่ผ่านครม.เป็นข้อย่อยหรือข้อหลักของสัญญา นายรองพล กล่าวว่า เป็นสัญญาข้อใหญ่และข้อสำคัญเกี่ยวกับเงื่อนไขการเรียกค่าชดเชยของไอทีวี ซึ่งระบุว่าถ้าหลังการทำสัญญารัฐไปให้สถานีวิทยุโทรทัศน์ใดมีโฆษณาไอทีวีสามารถเรียกค่าชดเชยได้ ซึ่งมติที่ไม่ผ่านครม.ซึ่งเราค้นพบว่าสัญญาไอทีวีไม่ผ่านมติครม.ในปี 2547 จึงต้องสู้ในประเด็นนี้โดยส่งเรื่องให้อัยการไปดำเนินการ ซึ่งเราชนะไปแล้ว
**เลขาฯกกต. เสียงอ่อย
วานนี้ ( 5 ก.ค.) พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการ กกต. แถลงชี้แจงถึงแนวทางในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงซึ่งกำลังสับสนเพราะ ครม.ได้แต่งตั้งนายรองพล เจริญพันธ์ เป็น เลขาธิการ ครม. และแต่งตั้ง พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ เป็น ปลัดสำนักนายกฯ อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 215 วรรค 2 ได้ระบุว่า ครม.ที่พ้นจากตำแหน่งจากการยุบสภา หากจะแต่งตั้งหรือย้ายข้าราชการ พนักงงานรัฐวิสาหกิจ จะต้องได้รับความเห็นชอบจาก กกต. เสียก่อน ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่เคยปฏิบัติมา เมื่อครม.มีมติแต่งตั้งโยกย้ายแล้ว ต้องส่งเรื่องมาให้ กกต.พิจารณาเห็นชอบเสียก่อน โดย กกต. จะพิจารณาจากความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง ซึ่งหาก กกต.เห็นชอบก็จะส่งเรื่องคืนไปให้ ครม.เพื่อที่จะเสนอเรื่องทูลเกล้าต่อไป แต่หาก กกต. ไม่เห็นชอบ ก็ไม่มีสิทธิที่จะแต่งตั้งหรือโยกย้ายโดยเด็ดขาด และที่ผ่านมาก็มีหลายครั้งที่ กกต.ไม่ให้ความเห็นชอบ
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้หลังครม.มีมติแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดเมื่อช่วงต้นมิ.ย. ก็ได้มีการส่งเรื่องมาให้กกต.พิจารณา และกกต.ก็ได้ให้ความเห็นชอบไปแล้ว ซึ่งตามกฎหมายการแต่งตั้งข้าราชการตั้งแต่ระดับ 9 ขึ้นไปต้องส่งให้ กกต. พิจารณาเห็นชอบด้วย โดยกกต.ไม่มีหน้าที่ไปกำหนด ระยะเวลาในการที่รัฐบาลจะต้องส่งมาให้กกต.พิจารณาว่าควรใกล้ หรือห่างจากช่วงฤดูกาลโยกย้ายแค่ไหนเพียงไร เพราะถึงมีการเสนอมาที่กกต.แล้วไม่ได้รับการเห็นชอบ งานก็ไม่สะดุด เช่น ตำแหน่งผู้ว่าฯ ถ้ากกต.ไม่เห็นชอบด้วย รองผู้ว่าฯก็สามารถทำงานได้แทนอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมากกต.จะใช้เวลาในการพิจารณาเรื่องประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น
เมื่อถามว่า กกต.เคยมีหนังสือเวียนว่าช่วงระหว่างมี พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งไม่ให้หน่งวยงานใดแต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการแต่เหตุใดจึงมีการแต่งตั้งในช่วงนี้ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ขณะนี้ พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งไม่ได้บังคับใช้แล้ว การแต่งตั้งโยกย้ายจึงทำได้ แต่ในส่วนของ พระราชกฤษฎีกายุบสภายังคงอยู่ การแต่งตั้งหรือโยกย้ายจึงต้องขอความเห็นชอบจาก กกต. เหมือนเดิม ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่หากมี พรฎ.เลือกตั้ง กกต. ก็จะใช้มาตรฐานเดิมคือออกหนังสือเวียนไม่ให้มีการโยกย้ายในช่วง 60 วันเช่นเคย
“มีข่าวไปลงว่าผมให้สัมภาษณ์ว่าการแต่งตั้งเลขาธิการ ครม. อาจเป็นโมฆะ สื่อไปเขียนอย่างนี้ได้อย่างไร เมื่อเช้าทางสำนักนายกฯก็โทรมาต่อว่าผม แต่ผมไม่กลัวหรอก” เลขาธิการ กกต.กล่าว
**คณิน ติง ข้ามขั้นตอน
นายคณิน บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)กล่าว ว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า จะแต่งตั้งก่อน แล้วแจ้งให้ กกต.ทราบภายหลัง เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 215
ทั้งนี้ มาตรา 215 วรรค 2 หากคณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ในกรณีที่พ้นจากตำแหน่งตาม (2) จะใช้อำนาจแต่งตั้ง หรือย้ายข้าราชการ ซึ่งมีตำแหน่ง หรือเงินเดือนประจำ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งมิได้ เว้นแต่จะได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง
"การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ขอความเห็นชอบจาก กกต.ก่อน อาจเป็นเพราะเห็นว่า องค์ประกอบของ กกต.มีปัญหาความชอบด้วยกฎหมาย จึงข้ามขั้นตอนดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะหากเห็นว่าองค์ประกอบของ กกต.มีปัญหาจริง ก็ต้องไม่แต่งตั้งผู้ใดเลย ในช่วงเวลาที่เป็นสุญญากาศเช่นนี้ ไม่ใช่ข้ามขั้นตอน แล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯ เลย" นายคณิน กล่าว
นายคณิน กล่าวว่า การแต่งตั้งข้าราชการระดับ 11 เป็นเรื่องสำคัญ และเป็นพระราชอำนาจ โดยปกติรัฐบาลรักษาการจะไม่ฉวยโอกาสแต่งตั้ง เพราะมีส่วนได้-เสียอย่างสำคัญ แต่รัฐธรรมนูญ มาตรา 215 วรรค 2 บัญญัติไว้ เพื่อให้เป็นทางออกในคราวที่มีความจำเป็นจริงๆ เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง แต่ต้องขอความเห็นชอบจาก กกต.ก่อน เพราะ กกต.อยู่ในฐานะที่จะต้องดูแลไม่ให้เกิดการได้เปรียบ เสียเปรียบทางการเมือง ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง
"พ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะตระหนักในความจริงว่า สถานภาพของตัวเอง และคณะรัฐมนตรีรักษาการมีปัญหา สถานภาพของ กกต.มีปัญหา รวมทั้งสถานภาพของวุฒิสภา และกลไกตรวจสอบทุกองค์กรก็มีปัญหา เมื่อเป็นเช่นนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำเหมือนว่า ทุกอย่างไม่มีปัญหาคงไม่ได้ โดยเฉพาะถ้าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะทำ เชื่อมโยงกับสถาบันสูงสุด และพระราชอำนาจ จะต้องใช้ความรอบคอบ และระมัดระวังอย่างยิ่ง" นายคณิน กล่าว
นายคณิน กล่าวด้วยว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ จะนำรายชื่อของบุคคลที่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการตามรัฐธรรมนูญอย่างครบถ้วน ขึ้นทูลเกล้าฯ เท่ากับเป็นการนำเรื่องที่ไม่ถูกต้องขึ้นทูลเกล้าฯ ดังนั้น จึงอยากขอร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชะลอการนำชื่อบุคคลทั้งสองขึ้นทูลเกล้าฯ และปล่อยให้ผู้รักษาการเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทำหน้ที่ดังกล่าวต่อไปก่อน จนกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้กลับมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
|
|
|
|