Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 กรกฎาคม 2549
โออิชิหืดจับตลาดชาเขียวตก30% รายย่อยล้มตาย ไสช้างลุยตปท.             
 


   
www resources

โฮมเพจ โออิชิ กรุ๊ป

   
search resources

โออิชิ กรุ๊ป, บมจ.
ตัน ภาสกรนที
Marketing
Soft Drink




“โออิชิ” กัดฟันสู้กำไรชาเขียวปี 49 หด อัดฉีด 600 ล้านบาท เดินเกมครึ่งปีหลังรักษายอดขายเข้าเป้า 4,000 ล้านบาท พร้อมรั้งบัลลังก์ผู้นำตลาด ระเบิดศึก 6 เดือนหลังอัดงบสื่อโฆษณา 30-40 ล้านบาท ปั้นรสชาติใหม่กระทุ้งยอดขาย 2,500 ล้านบาท หลังไตรมาสแรกพลาดเป้า ล่าสุดเตรียมรุกตลาดอเมริกา ขอมีเอี่ยวต่อยอดเบียร์ช้างเปิดตลาด ด้วยการส่งโออิชิเข้าทำตลาด นำร่อง สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย แย้มซุ่มปั้นเครื่องดื่มตัวใหม่

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ เปิดเผยว่า จากสภาพตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมูลค่า 5,000 -6,000 ล้านบาท เกิดภาวะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกตลาดหดตัวลง 30% สืบเนื่องจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจและกระแสข่าวลบชาเขียวในช่วงปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงคาดว่าทั้งปีตลาดชาเขียวจะมีอัตราการเติบโต 10-20% ทำให้นโยบายการทำตลาดของชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิครึ่งปีหลังนี้ เน้นรักษายอดขายและตำแหน่งผู้นำตลาดเป็นหลัก ในขณะที่กำไรคาดว่าปีนี้อาจจะลดลงไปบ้าง เนื่องจากต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น

อีกทั้งปีนี้บริษัทฯยังทุ่มงบในการทำตลาดมากขึ้นจากเดิม 10-12% เพิ่มเป็น 15-20% ของรายได้รวมปีที่ผ่านมา 3,084 ล้านบาท หรือคิดเป็นงบการตลาดที่ใช้ราว 600 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทฯจะควบคุมด้านการใช้งบการตลาดให้ได้ราว 15% ของรายได้รวม หรือคิดเป็น 450 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุน เพื่อลดต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น ด้วยการสั่งซื้อวัตถุดิบที่ใช้ใกล้เคียงกับเบียร์ช้างในลอตเดียวกัน ทำให้การผลิตชาเขียวโออิชิลดลง 30-40 สตางค์ต่อขวด

ทั้งนี้ปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทฯต้องรุกทำตลาดมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิมียอดขายลดลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้เพียง 500 ล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการครึ่งปีแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในครึ่งปีหลังบริษัทฯจะต้องทำตัวเลขยอดขายให้ได้ 2,500 ล้านบาท ถึงจะได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้คือ 3,500-4,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 20%

ส่วนสินค้าคู่แข่งในช่วงไตรมาสแรก ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยยอดขายลดลง 40-50% ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการหลายรายเริ่มออกจากตลาดแล้ว โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีส่วนแบ่งตลาดไม่ถึง 5% ไม่ว่าจะเป็น ทิปโก้ บีทาเก้น ซากุระ และชิเซน พลัส จากค่ายโค้ก และคาดว่าสิ้นปีนี้จะเหลือแบรนด์ที่เคลื่อนไหวทางการตลาด 3-5 แบรนด์เท่านั้น

สำหรับแผนการทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯจะทุ่มงบในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ 30-40 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมเปิดตัวรสชาติใหม่ชาเขียวและเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาใหม่ ขณะเดียวกันยังได้เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ในเซกเมนต์เครื่องดื่ม นอกจากนี้ยังหันมาให้ความสำคัญกับการขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งล่าสุดบริษัทฯได้เตรียมส่งออกชาเขียวโออิชิไปทำตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกาในอีก 4-5 เดือนข้างหน้านี้ โดยให้บริษัทอีสแลนด์ เป็นตัวแทนกระจายสินค้าภายในประเทศ

นอกจากนี้ยังได้เตรียมขยายไปยังประเทศที่เบียร์ช้างทำตลาด ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง และอังกฤษ จากปัจจุบันโออิชิส่งออกไปแล้ว 12 ประเทศ คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 5 % ของรายได้ และคาดว่าหลังจากที่บริษัทฯส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเพิ่มเป็น 10%

นายตันกล่าวต่อว่า หลังจากบริษัทฯได้เปิดตัวแคมเปญ “รวยฟ้าผ่า กับโออิชิ” ในช่วงหน้าร้อน ส่งผลให้ยอดขายมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 30% โดยมีผู้ที่ส่งฝามาชิงโชค 3 ล้านชิ้น และทำให้ส่วนแบ่งเพิ่มจาก 60% เมื่อปีที่ผ่านมาเป็น 66% ในรอบเดือนมีนาคม –เมษายน และล่าสุดได้จับมือร่วมกับพันธมิตรเซเว่น อีเลฟเว่น จัดแคมเปญ “กินไป เชียร์ไป” ชอป 40 บาท แลกซื้อเครื่องดื่มโออิชิ และอะมิโน โอเค ราคา 10 บาท ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน – 24 กรกฎาคม 2549 ส่งผลให้ยอดขายโต 300% หรือคิดเป็นยอดขายในเชิงปริมาณ 3 แสนขวดต่อวัน จากปกติจำหน่าย 1 แสนขวดต่อวัน และคาดว่าในช่วง 10 วันสุดท้ายยอดขายจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 500 % หรือ 5 แสนขวดต่อวัน โดยบริษัทฯตั้งเป้าว่าส่วนแบ่งตลาดรอบเดือนมิถุนายน - กรกฏาคม จะเพิ่มจาก 66% เป็น 70%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us