เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ ทนกระแสตลาดคอนโดฯไม่ไหว เตรียมผุด 2 ทำเล รามคำแหง-รัชดาภิเษก มูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท พร้อมปรับแผนธุรกิจใหม่ลดบ้านเดี่ยวลง ชูทาวน์เฮาส์ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ระบุรองรับภาวะกำลังซื้อผู้บริโภคลด
นายอภิสิทธิ์ งามอัจฉริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่ภาครัฐจะดำเนินโครงการรถไฟฟ้า จำนวน 10 เส้นทางตามที่เป็นข่าวมาแล้วนั้น ถึงแม้วันนี้โครงการจะยังไม่มีความชัดเจน แต่อย่างไรเสียโครงการรถไฟฟ้าจะต้องเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน
ดังนั้น บริษัทจึงได้ปรับแผนการพัฒนาใหม่ โดยได้เตรียมแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม อิงตามแนวรถไฟฟ้า 2 โครงการ โดยโครงการแรกอยู่ในย่านถนนพระรามเก้า-รามคำแหง บนพื้นที่โครงการทั้งหมด 3 ไร่ มีจำนวน 2 อาคาร ขนาดอาคารสูงประมาณ 8 ชั้น รวม 300 ยูนิต จับกลุ่มผู้มีรายได้ระดับกลางที่ทำงานอยู่ในย่านถนนพระรามเก้าและรามคำแหง ราคาเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาทเศษๆ เฉลี่ยราคาอยู่ที่ 40,000 บาทต่อตารางเมตร ขนาด 28-40 ตารางเมตรต่อห้อง ประกอบด้วยห้องชุด 2 แบบ คือ สตูดิโอ และ 1 ห้องนอน ส่วนอีกโครงการอยู่ในทำเลถนนรัชดา ติดทางลงทางด่วนรัชดาภิเษก พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ เช่นกัน มีจำนวน 2 อาคาร ขนาดอาคารสูง 8 ชั้น จำนวนยูนิต รวม 300 ยูนิต มีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 32-60 ตารางเมตร ราคาขายอยู่ที่ตารางเมตรละ 37,000-38,000 บาท โดยทั้งสองโครงการอยู่ระหว่างการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งจะยื่นให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประมาณเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ และคาดว่าจะสามารถพัฒนาได้ประมาณปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าโดยจะให้บริษัท ฮาริสัน (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้บริหารงานขาย รวมทั้งสองโครงการมีมูลค่าการขายกว่า 800 ล้านบาท
สำหรับที่ดินทั้งสองแปลงนั้น บริษัทเพิ่งซื้อเข้ามาโดยในขั้นตอนแรกขอความร่วมมือกับเจ้าของที่ดินเพื่อทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมยื่นต่อสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติฯ ก่อน เมื่อผ่านการอนุญาตแล้วจึงจะทำสัญญาซื้อขายที่ดิน โดยที่ดินดิบในย่านรามคำแหงได้ซื้อมาในราคาตารางวาละ 40,000 กว่าบาท ส่วนรัชดาภิเษกซื้อมาในราคาตารางวาละ 50,000 บาท
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในอนาคตนอกจากที่บริษัทจะพัฒนาบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์แล้ว ยังต้องพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าควบคู่กันไปด้วย แต่ ณ ปัจจุบัน บริษัทได้ลดการพัฒนาบ้านเดี่ยวลงเหลือสัดส่วน 35-40% จากเดิม 80% และปรับเพิ่มทาวน์เฮาส์เป็น 65% ทั้งนี้เป็นเพราะว่าทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย ผู้บริโภคจะซื้อบ้านหลังเล็กลงเป็นผลมาจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นขณะที่รายได้กลับคงที่
สำหรับตลาดบ้านจัดสรรในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 2 ทำเล คือ โครงการเค.ซี. คลัสเตอร์ รามอินทรา พื้นที่ทั้งหมดมี 40 ไร่ จำนวนยูนิตรวมทั้งหมด 450 หลัง แต่บริษัทจะทยอยพัฒนาที่ละเฟส ราคาขายประมาณ 900,000-1,000,000 บาท มูลค่าโครงการทั้งหมด 500 ล้านบาท และโครงการ เค.ซี.คลัสเตอร์ นิมิตใหม่ พื้นที่ทั้งหมด 33 ไร่ จำนวนรวม 460 ยูนิต ราคายูนิตละ 900,000 - 1,000,000 บาท เช่นเดียวกัน จะทยอยพัฒนาที่ละเฟสเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นแล้ว บริษัทยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดการขายตั้งแต่ปี 2548 อยู่อีกจำนวน 5 โครงการด้วยกัน ซึ่งแต่ละโครงการมียอดขายตั้งแต่ 10-50% ลดหลั่นตามโครงการที่เปิดก่อนเปิดหลัง และอีก 28 โครงการที่เปิดขายตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งโดยส่วนใหญ่เหลือขายอยู่ 5-15% และมี 4 โครงการที่เหลือขายมากกว่า 50% ด้านยอดขาย คาดว่าจะได้ 600 ล้านบาทในไตรมาสที่สอง ส่วนไตรมาสแรกได้ 450 ล้านบาท โดยในส่วนกำไรสุทธิในไตรมาสแรกตกไปประมาณ 3-4% ลงมาเหลืออยู่ที่ 14% จาก 17% ในปีที่ผ่านมา
|