Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน5 กรกฎาคม 2549
เค.ซี.ชิมลางตลาดคอนโดฯเล็งผุด 2 ทำเลราคาล้านเศษรับแนวรถไฟฟ้า             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้, บมจ.
อภิสิทธิ์ งามอัจฉริยะกุล
Real Estate




เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ ทนกระแสตลาดคอนโดฯไม่ไหว เตรียมผุด 2 ทำเล รามคำแหง-รัชดาภิเษก มูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท พร้อมปรับแผนธุรกิจใหม่ลดบ้านเดี่ยวลง ชูทาวน์เฮาส์ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ระบุรองรับภาวะกำลังซื้อผู้บริโภคลด

นายอภิสิทธิ์ งามอัจฉริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่ภาครัฐจะดำเนินโครงการรถไฟฟ้า จำนวน 10 เส้นทางตามที่เป็นข่าวมาแล้วนั้น ถึงแม้วันนี้โครงการจะยังไม่มีความชัดเจน แต่อย่างไรเสียโครงการรถไฟฟ้าจะต้องเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน

ดังนั้น บริษัทจึงได้ปรับแผนการพัฒนาใหม่ โดยได้เตรียมแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม อิงตามแนวรถไฟฟ้า 2 โครงการ โดยโครงการแรกอยู่ในย่านถนนพระรามเก้า-รามคำแหง บนพื้นที่โครงการทั้งหมด 3 ไร่ มีจำนวน 2 อาคาร ขนาดอาคารสูงประมาณ 8 ชั้น รวม 300 ยูนิต จับกลุ่มผู้มีรายได้ระดับกลางที่ทำงานอยู่ในย่านถนนพระรามเก้าและรามคำแหง ราคาเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาทเศษๆ เฉลี่ยราคาอยู่ที่ 40,000 บาทต่อตารางเมตร ขนาด 28-40 ตารางเมตรต่อห้อง ประกอบด้วยห้องชุด 2 แบบ คือ สตูดิโอ และ 1 ห้องนอน ส่วนอีกโครงการอยู่ในทำเลถนนรัชดา ติดทางลงทางด่วนรัชดาภิเษก พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ เช่นกัน มีจำนวน 2 อาคาร ขนาดอาคารสูง 8 ชั้น จำนวนยูนิต รวม 300 ยูนิต มีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 32-60 ตารางเมตร ราคาขายอยู่ที่ตารางเมตรละ 37,000-38,000 บาท โดยทั้งสองโครงการอยู่ระหว่างการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งจะยื่นให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประมาณเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ และคาดว่าจะสามารถพัฒนาได้ประมาณปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าโดยจะให้บริษัท ฮาริสัน (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้บริหารงานขาย รวมทั้งสองโครงการมีมูลค่าการขายกว่า 800 ล้านบาท

สำหรับที่ดินทั้งสองแปลงนั้น บริษัทเพิ่งซื้อเข้ามาโดยในขั้นตอนแรกขอความร่วมมือกับเจ้าของที่ดินเพื่อทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมยื่นต่อสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติฯ ก่อน เมื่อผ่านการอนุญาตแล้วจึงจะทำสัญญาซื้อขายที่ดิน โดยที่ดินดิบในย่านรามคำแหงได้ซื้อมาในราคาตารางวาละ 40,000 กว่าบาท ส่วนรัชดาภิเษกซื้อมาในราคาตารางวาละ 50,000 บาท

อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในอนาคตนอกจากที่บริษัทจะพัฒนาบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์แล้ว ยังต้องพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าควบคู่กันไปด้วย แต่ ณ ปัจจุบัน บริษัทได้ลดการพัฒนาบ้านเดี่ยวลงเหลือสัดส่วน 35-40% จากเดิม 80% และปรับเพิ่มทาวน์เฮาส์เป็น 65% ทั้งนี้เป็นเพราะว่าทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย ผู้บริโภคจะซื้อบ้านหลังเล็กลงเป็นผลมาจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นขณะที่รายได้กลับคงที่

สำหรับตลาดบ้านจัดสรรในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 2 ทำเล คือ โครงการเค.ซี. คลัสเตอร์ รามอินทรา พื้นที่ทั้งหมดมี 40 ไร่ จำนวนยูนิตรวมทั้งหมด 450 หลัง แต่บริษัทจะทยอยพัฒนาที่ละเฟส ราคาขายประมาณ 900,000-1,000,000 บาท มูลค่าโครงการทั้งหมด 500 ล้านบาท และโครงการ เค.ซี.คลัสเตอร์ นิมิตใหม่ พื้นที่ทั้งหมด 33 ไร่ จำนวนรวม 460 ยูนิต ราคายูนิตละ 900,000 - 1,000,000 บาท เช่นเดียวกัน จะทยอยพัฒนาที่ละเฟสเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นแล้ว บริษัทยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดการขายตั้งแต่ปี 2548 อยู่อีกจำนวน 5 โครงการด้วยกัน ซึ่งแต่ละโครงการมียอดขายตั้งแต่ 10-50% ลดหลั่นตามโครงการที่เปิดก่อนเปิดหลัง และอีก 28 โครงการที่เปิดขายตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งโดยส่วนใหญ่เหลือขายอยู่ 5-15% และมี 4 โครงการที่เหลือขายมากกว่า 50% ด้านยอดขาย คาดว่าจะได้ 600 ล้านบาทในไตรมาสที่สอง ส่วนไตรมาสแรกได้ 450 ล้านบาท โดยในส่วนกำไรสุทธิในไตรมาสแรกตกไปประมาณ 3-4% ลงมาเหลืออยู่ที่ 14% จาก 17% ในปีที่ผ่านมา   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us