Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน4 กรกฎาคม 2549
เงินเฟ้อมิ.ย.ไม่ขยับ-การุณยันทั้งปี4-4.5%             
 


   
www resources

โฮมเพจ กระทรวงพาณิชย์

   
search resources

กระทรวงพาณิชย์
Economics




“การุณ”คาดเงินเฟ้อครึ่งปีหลังชะลอตัวลงแน่ เพราะฐานน้ำมันปีก่อนสูง แถมพาณิชย์อัดโครงการธงฟ้าช่วยดึงราคาสินค้า ยืนยันเงินเฟ้อ 4-4.5% แต่อาจปรับเป้าใหม่หลังเดือนก.ค. “สมคิด” สั่งทำโครงการธงฟ้านำสินค้าราคาถูกขายถึงที่ทำงานข้าราชการและผู้ใช้แรงงาน ลดค่าครองชีพ พร้อมผุดสถานพยาบาลธงฟ้า คิดค่ารักษาถูกๆ

นายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) เดือนมิ.ย.2549 เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.2549 ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.2548 สูงขึ้น 5.9% และเทียบเฉลี่ย 6 เดือนแรกของปี 2549 (ม.ค.-มิ.ย.) กับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สูงขึ้น 5.9%

เงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ที่ไม่เปลี่ยนแปลงทั้งที่เดือนพ.ค.สูงขึ้นถึง 0.7% นั้น แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้ออ่อนตัวลงค่อนข้างมาก โดยดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลง 1.1% สินค้าที่มีราคาลดลง เช่น มะนาวลดลง 64% ผลไม้สด ลดลง 1.1% รวมถึงนมข้นหวาน ครีมเทียม น้ำมันพืชที่มีราคาลดลง ส่วนข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียวและไข่ไก่ ราคาสูงขึ้น ขณะที่ดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น 0.5% ซึ่งสาเหตุหลักยังคงเป็นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น 2.4% ค่ากระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากการปรับค่า Ft 9.60 สตางค์ต่อหน่วย ค่าโดยสารเครื่องบินภายในประเทศเพิ่มขึ้น 1.9%

แต่ทั้งนี้ จากมาตการธงฟ้าของกระทรวงพาณิชย์ที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทำให้สินค้าหลายชนิดมีราคาลดลง เช่น น้ำมันใส่ผม ครีมนวดผม น้ำยาปรับผ้านุ่ม แปรงสีฟัน และผ้าอนามัย เป็นต้น

“แรงกดดันเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา ตัวหลักคือน้ำมัน และสิ่งที่ต่อเนื่องจากน้ำมัน เช่น ค่าโดยสาร ค่าไฟฟ้า และสินค้าที่ขึ้นอยู่กับฤดูกาล เช่น ผักสด ผลไม้สด โดยบางเดือนก็มีปัจจัยอื่นๆ เข้ามากดดันเงินเฟ้อ เช่น ค่าธรรมเนียมรถด่วน ค่าอุปกรณ์การเรียน ซึ่งก็เกิดขึ้นครั้งเดียวแล้วจบ”

อย่างไรก็ตาม คาดว่าเงินเฟ้อหลังจากเดือนก.ค.เป็นต้นไป จะมีแนวโน้มลดต่ำ เพราะฐานราคาน้ำมันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นฐานที่น้ำมันมีการปรับขึ้นราคาแล้ว ผิดกับช่วงต้นปี ที่ฐานน้ำมันยังต่ำ ขณะที่สินค้าฤดูกาล ก็เริ่มมีราคาลดลง ประกอบกับกระทรวงพาณิชย์มีโครงการธงฟ้าออกมาตลอด ก็จะดึงให้ราคาสินค้าถูกลง ทำให้เงินเฟ้อช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวขึ้นไม่มาก ทั้งนี้ เงินเฟ้อทั้งปียังคาดว่าจะอยู่ในระดับ 4-4.5% โดยจะมีการปรับประมาณการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อทั้งปีอีกครั้งหลังจากเดือนตัวเลขในเดือนก.ค.แล้ว

สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งหักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสดและสินค้ากลุ่มพลังงานจำนวน 107 รายการ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 24% ของสัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมด เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.2549 สูงขึ้น 0.1% เทียบกับเดือนมิ.ย.สูงขึ้น 2.7% และเทียบเฉลี่ย 6 เดือนแรกของปีนี้กับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วสูงขึ้น 2.7%

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในไปดำเนินการจัดทำโครงการธงฟ้า ขยายไปสู่กลุ่มข้าราชการและผู้ใช้แรงงาน โดยขอให้จัดโมบายนำสินค้าราคาถูกและสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพไปจำหน่ายถึงสถานที่ๆ ทำงาน เพราะคนกลุ่มนี้ลำบากมากเมื่อเทียบกับภาคส่วนอื่นๆ ในสังคม จึงต้องหาทางลดค่าครองชีพให้ด้วย

“ที่ผ่านมา โครงการธงฟ้าถือว่าประสบผลสำเร็จ สามารถช่วยลดแรงกดดันด้านราคาสินค้า จนทำให้ค่าครองชีพของประชาชนลดลง โดยดูได้จากอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเพียง 5.9% หลังจากที่เคยปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่กระทรวงพาณิชย์ดูแลได้ดี ทั้งๆ ที่น้ำมันเป็นตัวกดดันอย่างหนัก แต่สินค้าก็ปรับขึ้นราคาไม่มาก ”นายสมคิดกล่าว

นอกจากนี้ ยังได้ขอให้กรมการค้าภายในไปหารือกับสมาคมที่เกี่ยวข้องทางการแพทย์ และโรงพยาบาลใหญ่ๆ เพื่อให้ส่งหมอที่พร้อมจะเสียสละมาเข้าร่วมโครงการสถานพยาบาลธงฟ้า โดยจะจัดสถานที่รักษาพยาบาลโรคทั่วๆ ไปในราคาถูกมากๆ เพื่อบรรเทาภาระให้กับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับประชาชน นอกเหนือจากโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us