ยูนิลีเวอร์ ชู พอนด์ส ไวท์ บิวตี้ ดีท็อกซ์ ขยายตลาดภูธร ทุ่ม 150 ล้านบาท เปิดตัวโครงการ "สถาบันพอนด์สออนทัวร์" จัดกองคาราวานสถาบันวิจัยพอนด์สลงพื้นที่ 73 จังหวัด พร้อมชูทีมงานผู้เชี่ยวชาญผิวพรรณสถาบันสร้างความเชื่อถือ - สร้างความรู้ความเข้าใจ สิ้นปีรั้งบัลลังก์ผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 18.5%

นางวรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกีด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพอนด์ส เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบ 150 ล้านบาท เปิดตัวโครงการ"สถาบันพอนด์สออนทัวร์" โดยจัดกองคาราวานสถาบันวิจัยพอนด์ส จำนวน 10 คัน เพื่อนำเครื่องมือตรวจสอบสภาพผิวรุ่นล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีนำสมัยจากประเทศเยอรมนี และทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณจากสถาบันพอนด์สออกให้บริการตรวจผิวฟรีแก่ผู้หญิงไทยใน 73 จังหวัดทั่วประเทศ ครอบคลุมกว่า 460 ชุมชน 260 สถานศึกษา และ 30 โรงงานอุตสาหกรรม ตลอดเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันนี้ถึงต้นเดือนกันยายน 2549

ทั้งนี้การจัดโครงการสถาบันพอนด์สออนทัวร์ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่นำตราสินค้าพอนด์สไปหาผู้บริโภคถึงตัว อีกทั้งยังเป็นการสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องถึงสภาพผิวหน้าให้แก่ผู้บริโภค เพื่อให้สามารถเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เหมาะสม รวมทั้งยังเป็นการถือโอกาสต่อยอดความสำเร็จรูปของพอนด์ส ไวท์ บิวตี้ ดีท็อกซ์ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องให้ความรู้และความเข้าใจ โดยเฉพาะกับตลาดต่างจังหวัด ซึ่งยังมีอัตราการใช้ในสัดส่วนที่น้อยคือราว 60% เมื่อเทียบกับกรุงเทพฯราว 70% อีกทั้งตลาดต่างจังหวัดยังเป็นตลาดใหญ่มีสัดส่วนถึง 60% ส่วนอีก 40% เป็นกรุงเทพฯและปริมณฑล

"โครงการสถาบันพอนด์สออนทัวร์ถือว่าเป็นกิจกรรมใหญ่ ซึ่งบริษัทได้นำ"สถาบันพอนด์ส"กลับมาสื่อสารกับผู้บริโภคอีกครั้ง เพราะสถาบันพอนด์สถือว่าเป็นพรอบเพอร์ตี้ของแบรนด์ ที่เน้นให้ความรู้แก่ผู้หญิงอยู่แล้วสอดรับกับวัตถุประสงค์ของการจัดงาน อีกทั้งยังสามารถสร้างความน่าเชื่อถือแก่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน 2 แสนคน และส่งผลให้พอนด์ส ไวท์ บิวตี้ ดีท็อกซ์ ครองความเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าขาว หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกมีส่วนแบ่งตลาด 18.5% จากมูลค่าตลาด 2,700 ล้านบาท ส่วนอันดับสองเป็นโอเลย์ มีส่วนแบ่ง 14%"

สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้ามูลค่า 5,400 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 11% โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาวสัดส่วน 50% ของตลาดรวม หรือคิดเป็นมูลค่า 2,700 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 9% ส่วนตลาดลบเลือนริ้วรอยมีสัดส่วน 38.6% ตลาดบำรุงผิวขั้นพื้นฐาน 5.9% ตลาดผลิตภัณฑ์ลดรอยแผลเป็น 5% และกลุ่มผลิตภัณฑ์ควบคุมความมัน 1%