ดีทแฮล์ม วางแผนลึก หวังปลุกปั้นแบรนด์ขึ้นทำเนียบรองเท้าในไทยใหม่ หลังเพิ่งเข้ามารับผิดชอบเมื่อปีที่แล้ว ชูแผนบุกธุรกิจรีเทลเล็งเปิดชอปในลักษณะขายสิทธิ์แฟรนไชส์ เผยประเดิมเปิดร้านคลากส์ไปแล้ว 3 แห่ง ปรับภาพลักษณ์ใหม่สู่รองเท้าทันสมัย ตอบสนองทุกกลุ่มเป้าหมาย มั่นใจปีนี้ยอดขายเพิ่ม 15% ครองแชร์กลุ่มรองเท้าพรีเมี่ยม 20%

นายสมบุญ ประสิทธิ์จูตระกูล รองประธานอำนวยการบริหาร บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ในปีนี้บริษัทฯดีทแฮล์ม ในฐานะที่เป็นผู้จัดจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ คลากส์ (CLARKS) จากประเทศอังกฤษรายเดียวในประเทศไทยจะวางแผนการทำตลาดอย่างเต็มที่หลังจากที่ได้เริ่มจัดจำหน่ายมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2547 เป็นต้นมา และได้ทำการศึกษาตลาดและวางแผนการตลาดพร้อมกับบุกตลาดมาระยะหนึ่งแล้วเพื่อผลักดันให้คลากส์กลับมาเป็นผู้นำในตลาดในไทยให้ได้

โดยที่ผ่านมาได้ใช้งบการตลาดไปแล้วไม่ต่ำกว่าปีละ 50 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ก็จะใช้งบประมาณไม่น้อยไปกว่าเดิม ซึ่งที่ผ่านมาสามารถผลักดันยอดขายและสร้างชื่อเสียงของคลากส์ให้กับมาอยู่ในใจผู้บริโภคอันดับต้นๆได้เหมือนในอดีต โดยคาดว่าปีนี้ยอดขายจะเติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 15% และจะมีส่วนแบ่งในตลาดรองเท้าระดับพรีเมี่ยม 20% จากมูลค่าตลาดรวมในกลุ่มนี้กว่า 650 ล้านบาท ซึ่งตลาดรวมมีการเติบโตเฉลี่ย 15% ทั้งนี้คู่แข่งในตลาดเดียวกันเช่น เอคโค่ ฮัทช์ปั๊ปปี้ เป็นต้น

"แม้ว่าตลาดโดยรวมจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการเมืองในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้สร้างผลกระทบกับยอดขายของคลากส์โดยตรง เนื่องจากคลากส์เป็นสินค้าสำหรับกลุ่ม เป้าหมายระดับกลางถึงสูง ปัจจัยดังกล่าวจึงถือได้ว่ามีผลต่อกำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมายเล็กน้อย"

ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะรุกธุรกิจในเชิงค้าปลีกด้วยโดยการเปิดชอปของ คลากส์ ให้มากขึ้นในลักษณะการขายสิทธิ์เหมือนแฟรนไชส์ ให้ผู้สนใจมาลงทุนเปิดร้านคลากส์ ซึ่งรูปแบบนี้ส่งผลให้แบรนด์คลากส์ประสบความสำเร็จมาแล้วในต่างประเทศเช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย

ปัจจุบันชอปคลากส์มีเปิดบริการแล้วประกอบด้วย ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพระรามสาม เปิดปีที่แล้ว และปีนี้เพิ่งเปิดที่กาดสวนแก้วเชียงใหม่ อย่างไรก็ตามยังมีแผนที่จะปรับโฉมของสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ใหม่ให้เป็นสาขาต้นแบบเป็นไปตามคอนเซ็ปท์เดียวกับทั่วโลกคือ "Global Design Concept" และจะทยอยเปลี่ยนสาขาอื่นด้วย ซึ่งจะเป็นโฉมใหม่เหมือนกันทั่วโลกที่เน้นความสดใสและความทันสมัย โดยใช้งบลงทุนกว่า 5 ล้านบาท นอกจากนั้นก็มีจุดขายเป็นคอร์เนอร์ในแผนกรองเท้าตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปกว่า 100 จุด ล่าสุดเพิ่งเปิดจุดขายเพิ่มที่เชียงใหม่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 4 จุดขายในเชียงใหม่เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ

แผนการขยายชอปในลักษณะขายสิทธิ์นี้ อยู่ระหว่างการเริ่มต้น และคาดว่าจะสามารถเห็นเป็นรูปเป็นร่างได้ในปีนี้ โดยรายละเอียดคือ ให้ผู้ที่สนใจเป็นคู่ค้ากับบริษัทฯ จะเป็นผู้ลงทุนร่วมกับบริษัทในการเปิดชอป โดยที่บริษัทฯจะเป็นผู้สนับสนุนทางด้านผลิตภัณฑ์ การออกแบบ การตกแต่งร้านค้า สนับสนุนทางด้านการตลาดให้

อย่างไรก็ตามในช่วงแรกนี้บริษัทฯยังไม่มีการเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ ค่าแรกเข้า ค่ามาร์เกตติ้งฟีต่างๆ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้ามาร่วมเปิดธุรกิจในช่วงแรกก่อน หลังจากนั้นจึงจะพิจารณาอีกครั้ง

สำหรับผลิตภัณฑ์ของคลากส์ ในปัจจุบันนี้ได้มีการขยายไลน์ออกไปมากขึ้นเพื่อรุกทำตลาดในไทยได้กว้างขึ้นกว่าเดิมและยังได้ปรับภาพลักษณ์ให้ดูเป็นรองเท้าของคนรุ่นใหม่ เป็นแฟชั่นมากขึ้นและตอบสนองได้ทุกกลุ่มตลาด จากเดิมที่คนทั่วไปมักจะคิดว่า คลากส์เป็นรองเท้าของผู้ใหญ่เท่านั้น

ทั้งนี้สินค้ารอเท้า คลากส์ ที่จำหน่ายในไทย จะเป็นการนำเข้ามาจากโรงงานในต่างประเทศหลายแห่งต่างกันไปตามประเภทของรองเท้าแต่ก็มีคุณภาพมาตรฐานเดียวกันเช่น โรงงานที่อังกฤษ จีน เวียดนาม บราซิล เป็นต้น และมีระดับราคาจำหน่ายตั้งแต่ 2,000 กว่าบาทขึ้นไป แล้วแต่ประเภทและรุ่น ซึ่งปัจจุบันรองเท้าคลากส์ที่จำหน่ายในไทยมีมากกว่า 400 ดีไซน์แบ่งเป็น 4 ประเภทหลักคือ รองเท้าทำงาน รองเท้าลำลอง รองเท้าลำลองกีฬา และรองเท้าแตะ ครอบคลุมทั้งวัยทำงาน วัยเริ่มทำงาน วัยรุ่น ซึ่งคลากส์จะวางจำหน่ายสินค้าคอลเลกชั่นใหม่ 2 ครั้งต่อปี

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า รองเทาแบรนด์คลากส์ก่อนหน้านี้เคยมีผู้จัดจำหน่ายรายเดิมทำตลาดอยู่ในไทย แต่ในช่วงหลังไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวมากนัก และภาพลักษณ์ของคลากส์ก็ค่อนข้างอ่อนลงไป ทางเจ้าของแบรนด์จึงมีการเปลี่ยนแปลงและในที่สุดทางดีทแฮล์มก็ได้เข้ามารับจัดจำหน่าย