Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 กรกฎาคม 2549
มือกม.อสังหาฯจี้ตรวจแหล่งทุนนอกพบภูเก็ตเข้าข่ายนอมินีกว่า1,000บริษัท             
 


   
search resources

Real Estate
อิทธินันท์ สุวรรณจูฑะ




"มือกฎหมายอสังหาฯ" ชี้คำสั่งตรวจสอบที่มาของเงินบริษัทข้ามชาติ ส่งผลตลาดอสังหาฯป่วน ธุระกรรมเมืองท่องเที่ยวหยุดชะงัก พบภูเก็ตไม่ผ่านการตรวจสอบกว่า 1,000 บริษัท อีกทั้งการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ล่าช้า เป็นเหตุให้เจ้าของริบเงินอ้างโอนไม่ได้ตามกำหนด ในขณะจังหวัดอื่นฝรั่งทำธุระกรรมปกติ วอนใช้มาตรฐานการตรวจสอบเดียวกัน- กำหนดระยะเวลาตรวจสอบชัดเจน แจงกฎหมายเปิดช่องให้เกิดการคอรัปชั่น

นายอิทธินันท์ สุวรรณจูฑะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กิลเบิร์ต รี้ด แอนด์ คอมปานี จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านกฎหมายอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า จากประกาศกระทรวงมหาดไทย ให้เจ้าพนักงานที่ดินตรวจสอบการได้มาซึ่งที่ดินของนิติบุคลต่างด้าวถือหุ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาหลายประการตามมา ทั้งที่กฎหมายดังกล่าวได้ตราไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 แต่เมื่อเกิดกรณีการเข้ามาทำธุรกิจของชาวต่างชาติโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การถือหุ้นโดยใช้คนไทยถือหุ้นแทน หรือที่เรียกว่า นอมินี จึงทำให้รัฐบาลได้ออกมากำชับการตรวจสอบสายการเงินมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ การตรวจสอบสายการเงินเป็นสิ่งที่ดี เพื่อป้องกันการเข้ามาทำธุรกิจโดยมิชอบหรือเอาเปรียบคนไทยของต่างชาติ แต่การตรวจสอบของหน่วยงานรัฐควรมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ และมีระยะเวลาของการตรวจสอบที่แน่ชัด เพราะนับจากที่กระทรวงมหาดไทยได้ส่งหนังสือไปยังสำนักงานที่ดินตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2549 ที่ผ่านมา การตรวจสอบยังไม่มีความคืบหน้าหรือเสร็จเรียบร้อย ส่วนกรณีที่ตรวจสอบเสร็จจะเป็นผู้ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบเท่านั้น

โดยความล่าช้าดังกล่าว ได้ส่งผลให้เกิดปัญหาและกรณีพิพาทตามมา คือ ลูกค้าชาวต่างชาติไม่สามารถโอนกรรมสิทธิได้ตามที่ได้ทำสัญญากับเจ้าของโครงการหรือเจ้าของทรัพย์สิน เนื่องจากต้องรอผลการตรวจสอบสายการเงิน ทำให้ผู้ประกอบการหรือผู้ขายบางรายยึดเงินดาวน์ ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมเพราะไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของผู้ซื้อเอง ซึ่งจากการเข้าไปทำคดีอสังหาฯ ที่จังหวัดภูเก็ตพบว่า ปัจจุบันมีบริษัทต่างชาติไม่ผ่านการตรวจสอบที่มาของเงินสูงถึงกว่า 1,000 ราย แต่เป็นบริษัทที่ไม่ใหญ่มากนัก ส่วนบริษัทรายใหญ่หรือบริษัทที่อยู่ในตลาดไม่มีผลกระทบเพราะกลุ่มนี้รู้จักกฎหมายเป็นอย่างดี

" การตรวจสอบสายการเงินเป็นสิ่งที่ดีและเห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ควรบอกให้ชัดเจนว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ เพราะเรื่องที่ส่งไปตั้งแต่เริ่มตรวจสอบยังไม่เสร็จซักราย และเจ้าหน้าที่เองยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ ทำให้วุ่นวายกันไปหมด ตอนแรกก็ไม่มีผลกระทบอะไร แต่เมื่อนานเข้าทุกอย่างมันชะงักไปหมด และเรื่องแบบนี้จะเกิดเฉพาะในเมื่อท่องเที่ยวใหญ่ ๆอย่าง ภูเก็ต สมุย หัวหิน พัทยา แทบจะไม่มีการโอนกรรมสิทธิเลยที่ตรวจสอบเสร็จก็จะเป็นพวกที่ไม่ผ่าน แต่ถ้าเป็นจังหวัดอื่นทุกอย่างปกติโอนกันสบายๆ ซึ่งไม่ควรเลือกปฏิบัติ " นายอิทธินันท์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบสายการเงินของบริษัทต่างชาตินั้น เชื่อว่าจะทำให้เกิดการคอรัปชั่นมากขึ้นอีกด้วย กล่าวคือ จะมีเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบเอกสารที่มีของเงินและคุณสมบัติของบริษัทต่างชาติ ก่อนเสนอไปยังเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจเซ็นอนุมัติอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นในกรณีที่เจ้าหน้าที่ไม่สุจริตยอมรับสินบนยอมเซ็นให้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติก็ย่อมทำได้

นายอิทธินันท์ กล่าวต่อว่า นอกจากปัญหาการตรวจสอบที่มาของเงินของบริษัทต่างชาติ จนเป็นเหตุให้เกิดกรณีพิพาทแล้ว ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ยังมีปัญหาที่ควรระวังและควรทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนโดยเฉพาะกฎหมายผังเมือง, สีผังเมือง, อัตราส่วนการใช้ประโยชน์ที่ดินต่อพื้นที่ก่อสร้าง FAR , อัตราส่วนพื้นที่ว่างต่อพื้นที่อาคาร OSR โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพซึ่งเป็นกฎข้อบังคับใหม่ที่พึ่งคับใช้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ซื้อที่ดินมาก่อนหน้านี้ ควรทำการศึกษาถึงการใช้ประโยชน์ในที่ดินของโวนนั้นๆ อีกครั้งก่อนลงมือพัฒนา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา อีกทั้งผู้ที่ต้องการซื้อที่ดินมาพัฒนาใหม่ควรตรวจสอบเรื่องดังกล่าวก่อนอย่างละเอียดเพือไม่ให้เงินสูญเปล่า

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมา นายอิทธินันท์ ได้เตือนทั้งคนไทยและต่างชาติว่า การทำสัญญาจะซื้อจะขายกับบริษัทต่างชาติควรมีความรอบครอบ และควรระบุให้ชัดเจนว่ากรณีความล่าช้าที่เกิดจากการตรวจสอบสายการเงินของเจ้าพนักงานที่ดิน จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิได้ตามกำหนด ไม่มีผลต่อการยึดเงินมัดจำหรือเงินดาวน์คืน

นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีกรณีพิพาทของการทำธุรกรรมอสังหาฯ อีกจำนวนมาก ดังนั้นก่อนทำสัญญาควรระบุรายละเอียดให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อป้องกันข้อผิดพลาด อีกทั้งการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ควรตรวจสอบที่มา ภาระผูกพันธ์ในที่ดิน เพื่อป้องกันกรณีมีบุคคลภายนอกเข้ามาเรียกร้องสิทธิในภายหลัง และอีกประการคือการตรวจสอบคดีความในที่ดินซึ่งถือเป็นการตรวจสอบที่ยากที่สุดเพราะหากคดีความที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ในเขตที่ตั้งของที่ดินย่อมเป็นการยากแก่การตรวจสอบ อีกทั้งระบบศาลของเมืองไทยยังไม่สามารถตรวจสอบได้ง่ายนอกจากไปสืบค้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us