|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เปิดแผนปรับโครงสร้างหนี้ไดโดมอน กรุ๊ป เตรียมหาพันธมิตรเข้ามาถือหุ้นใหญ่ หลังจากเจ้าหนี้ให้ความเห็นชอบในแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว วงการลือมี 3 รายที่สนใจ 1 ในนั้น"ฮอทพอทจับมือบล.ภัทร" สนใจเข้าร่วมถือหุ้นใหญ่ในบริษัทไดโดมอน กรุ๊ป เหตุหวังสาขาไดโดมอนที่อยู่ในทำเลที่ดีในกรุงเทพ
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า จากการประชุมเจ้าหนี้ของบริษัทไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ Daido เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนนี้ ซึ่งเจ้าหนี้ก็ได้มีมติให้ความเห็นชอบในแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งศาลล้มละลายกลางนัดพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้ดังกล่าวในวันที่ 4 กันยายน 2549 นั้น ซึ่งในแผนฟื้นฟูกิจการนั้นส่วนหนึ่งจะมีการดึงพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท
ทั้งนี้ ได้มีกระแสข่าวลือในช่วงที่ผ่านมาได้มีผู้ที่สนใจที่จะเข้ามาถือหุ้นใหญ่ในบริษัทได้โดมอน กรุ๊ป ซึ่งได้มีการเจรจา 3ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นได้แก่บริษัทฮอทพอท จำกัด (HOTPOT) ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจให้บริการทางด้านร้านอาหารทั้งในรูปแบบร้านสุกี้ยากี้ และร้านอินเตอร์บุฟเฟ่ต์ ซึ่งผู้ถือหุ้นของบริษัทฮอทพอทมองว่าธุรกิจของบริษัทไดโดมอนกรุ๊ปสามารถเกื้อหนุนในธุรกิจร่วมกันได้ โดยเฉพาะจุดเด่นของบริษัทไดโดมอน กรุ๊ปที่มีสาขาที่อยู่ทำเลที่ดีมากในกรุงเทพ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฮอทพอท ไม่ได้เข้าไปถือหุ้นเพียงรายเดียว เพราะจะมีบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) สถาบันการเงินด้านหลักทรัพย์ขนาดใหญ่เข้าร่วมถือหุ้นด้วย เพราะปัจจุบันนี้บล.ภัทรเป็นบริษัทที่มีสภาพคล่องเป็นจำนวนมากหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) เพื่อที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ดังนั้นบล.ภัทรจะเข้าไปช่วยสนับสนุนในแง่ของเงินทุนให้กับบริษัทไดโดมอน กรุ๊ป เพื่อที่จะได้ขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นได้ หลังจากที่ได้มีการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว เพราะบล.ภัทรเองก็มีพอร์ตเพื่อการลงทุนทั้งบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์และบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์บริษัทฮอทพอท จำกัดคือบริษัทที่ประกอบธุรกิจในกลุ่มร้านอาหาร ประเภทสุกี้และชาบู ซึ่งให้บริการทางด้านอาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้แบรนด์ฮอท พอท สุกี้ ชาบู เรสโตรองต์ ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการในปี 2538 โดยมีสาขามากกว่า 50 สาขาซึ่งสาขาแรกเปิดที่ตะวันออกคอมเพล็กซ์
แหล่งข่าวกล่าวว่า นอกจากรายของบริษัทฮอทพอทที่ร่วมกับบล.ภัทรแล้ว ยังมีอีก 2 รายที่สนใจจะเข้าร่วมเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทไดโดมอน กรุ๊ป ซึ่งเป็นนักลงทุนในประเทศ ดังนั้นขณะนี้ผู้บริหารแผนยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกผู้ร่วมทุนรายใด เพราะจะต้องรอผลการเจรจาว่าถ้าร่วมกับรายใดที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทไดโดมอน กรุ๊ป,ผู้ถือหุ้นของบริษัทและเจ้าหนี้ของบริษัทอีกด้วย ซึ่งผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่จะเข้ามาถือหุ้นนั้น จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งจะเข้ามาร่วมในการบริหารงานด้วย
ก่อนหน้านี้ บริษัทไดโดมอน กรุ๊ป แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549 ปรากฏว่า บริษัทขาดทุนสุทธิ 23.12 ล้านบาทขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.44 บาท ขาดทุนลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ151.25 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 2.91 บาทส่วนในงวด 6 เดือนของปี 2549 ขาดทุนสุทธิ 151.25 ล้านบาทขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 2.91 บาทขาดทุนลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 430.33 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 8.38 บาทปัจจุบันบริษัท ไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการตามคำสั่งศาลล้มละลายกลางและศาลดังกล่าวมีคำสั่งตั้งบริษัทฯ เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2548 ดังนั้นบริษัทฯ ในฐานะผู้ทำแผนได้
รายงานผลการดำเนินงานสำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2548 มีผลประกอบการที่ดีขึ้น ผลประกอบกิจการมีผลขาดทุนสุทธิ 151.25 ล้านบาท ขาดทุนจากผลการดำเนินงาน 36.68 บาท เนื่องจากในงวด 6 เดือน ปี 2548 ยอดขายเมื่อเปรียบเทียบกับงวด 6 เดือนปี 2547 ลดลง 75.08 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา 33.45% โดยที่ต้นทุนสินค้าเพื่อขายลดลง 112.75 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา 45.10% ค่าใช้จ่ายลดลง 40.54 ล้านบาทคิดเป็นอัตรา 40.41%
นอกจากนี้ บริษัทฯ บันทึกผลขาดทุนจากรายการพิเศษที่บริษัทฯ ได้ตั้งค่าเผื่อการลดมูลค่าสินทรัพย์ถาวรไว้เป็นมูลค่า 72.23ล้านบาท มีรายละเอียดดังนี้ผลขาดทุนจากค่าเผื่อและสิทธิการเช่า 69.85 ล้านบาท,ผลขาดทุนจากสำรองภาษีมูลค่าเพิ่มรอขอคืน 2.38 ล้านบาท
|
|
|
|
|