Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2538








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2538
เดคคอร์มาร์ทความพยายามครั้งหใม่ของคำว่า "ครบวงจร"             
 


   
search resources

เดคคอร์ มาร์ท
ประดิษฐ สินธวณรงค์
Furniture
ประสิทธิ์ จิระพงษ์วัฒนา
ราชัญ ทยานุวัฒน์
ชัชวาลย์ สินธวณรงค์




เมื่อตลาดที่อยู่อาศัยเติบโตขึ้น สิ่งที่ตามมาคือบรรดาเฟอร์นิเจอร์ วัสดุตกแต่งก็พลอยขายดิบขายดีตามไปด้วย

เช่นเดียวกัน จากบทเรียนในอดีตก็ทำให้เจ้าของบ้านเบื่อหน่ายกับการขับรถตระเวนไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อซื้อวัสดุตกแต่ง เช่น ถ้าซื้อผ้าม่านหรือโคมไฟต้องไปสุขุมวิท หาซื้อวัสดุภัณฑ์ต้องไปโชว์รูมของบริษัทต่างๆ ที่ถนนรัชดาภิเษก ซื้อเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้านต้องไปศูนย์การค้าหลายแห่ง เป็นต้น

ปัจจุบันมีนักลงทุนพยายามขจัดปัญหานี้ โดยการสร้างบริการแบบ "ครบวงจร" คือไปแห่งเดียวซื้อได้ทุกอย่าง เช่น ศูนย์เฟอร์นิเจอร์ที่มาบุญครอง และศูนย์การค้าเกือบทุกแห่ง ซึ่งมักจะเน้นเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่, โชว์รูมของรอยัล โฮมมาร์ท ที่บางนา-ตราด เน้นของตกแต่งและประดับบ้าน และล่าสุด "เดคคอร์มาร์ท" ที่มีความคิดฉีกแนวออกไปอีก

ห้างสรรพสินค้าเดคคอร์มาร์ทซึ่งตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์กม.ที่ 14 นับว่ายังเป็นชื่อที่ใหม่มากๆ เมื่อใช้คำว่า "ห้างสรรพสินค้า" มานำหน้า อีกทั้งยังมีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างไปจากห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ที่มีอยู่มากมายในเมืองไทยอีกด้วย คือแทนที่จะเป็นห้างที่ขายสินค้าหลากหลายทั่วไป กลับขายเพียงวัสดุตกแต่งให้ครบวงจรเพียงอย่างเดียว

ห้างเดคคอร์มาร์ทเกิดจากการรวมตัวถือหุ้นของประสิทธิ์ จิระพงษ์วัฒนา กรรมการผู้จัดการบริษัทบุญประสิทธิ์ ซึ่งเป็นบริษัทซัปพลายเออร์จากประเทศญี่ปุ่นมานั่งเป็นประธานบริษัท ราชัญ ทยานุวัฒน์ จากบริษัทแกรนด์โฮมมาร์ท เป็นรองประธาน ชัชวาลย์ สินธวณรงค์ จากบริษัทโรงงานน้ำตาลไทยรุ่งเรืองเป็นกรรมการบริษัท และกระหยิ่ม ศานติตระกูล นายกสมาคมอุตสาหกรรมลำปาง จากกลุ่มไทเกอร์กรุ๊ปเป็นกรรมการ โดยมีประดิษฐ สินธวณรงค์ เป็นกรรมการผู้จัดการ และเป็นผู้รับผิดชอบหลักที่จะทำความฝันของผู้ถือหุ้นให้เป็นจริง

ประดิษฐไม่ใช่ผู้ที่อยู่วงการห้างสรรพสินค้าหรือวงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยมาก่อน แต่ก่อนหน้านี้เขาเป็นคุณหมอหนุ่มโสดวัย 36 ปี และรับราชการมาเกือบ 10 ปี ตำแหน่งสุดท้ายก็คือ ผู้อำนวยการศูนย์สารสนเทศ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ความรู้ และประสบการณ์ทางด้านคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่เขาบอกว่าเอามาใช้ได้ในงานบริหาร ถ้าถามถึงสาเหตุที่เขาเปลี่ยนงานก็จะได้คำตอบว่า โครงว่าโครงการที่อยู่อาศัยกำลังเติบโตแนวความคิดของผู้ถือหุ้นจึงสอดคล้องกับสภาพตลาดในช่วงนี้ และที่สำคัญมองว่ามันเป็นงานที่ท้าทายดี

ในช่วงที่วงการก่อสร้างกำลังบูมๆ เมื่อประมาณปี 2532 เป็นต้นมา จะพบว่าได้มีผู้ประกอบการหลายรายหยั่งเชิงเข้ามาจะลองทำแต่ก็เงียบหายไป ส่วนใหญ่ร้านค้าพวกนี้จะไปปรากฏตามพื้นที่ของห้างสรรพสินค้าดังๆ สาขาใหม่ๆ ซึ่งจะให้ความสำคัญของพื้นที่ขายเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องเรือนมากขึ้นแทน เช่น ห้างมาบุญครอง หรือซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์

สำหรับจุดขายที่แปลกใหม่ เพื่อทำให้ห้างเดคคอร์มาร์ทแตกต่างไปจากการขายสินค้าของร้านค้าย่อยบนศูนย์การค้านั้น เป็นเรื่องที่กลุ่มผู้บริหารจำเป็นต้องระดมความคิดกันอย่างหนัก และสรุปได้ว่า อย่างแรกก็คือตัวห้างต้องอยู่ในพื้นที่ที่กว้างขวางและมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย

ดังนั้นตัวห้างจึงได้สร้างขึ้นในพื้นที่ 8 ไร่ เป็นอาคาร 2 หลังๆ แรกสูง 3 ชั้น มีพื้นที่ขายประมาณ 7,000 ตารางเมตร โดยชั้นล่างและชั้น 2 จะมีสินค้าประเภทกระเบื้องเซรามิก สุขภัณฑ์ห้องน้ำ ห้องครัว และเครื่องครัว ชุดตกแต่งภายใน ผ้าม่าน พรม โคมไฟ อุปกรณ์ประตู เฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องนอน ห้องนั่งเล่น ชั้น 3 เป็นที่เก็บของส่วนชั้นลอย คือแผนกบริการลูกค้า ด้านออกแบบ คอฟฟี่ชอป ห้องสมุดการจัดบ้านแบบต่างๆ

ส่วนอาคารอีกหลังทั้ง 2 ชั้นเป็นโชว์รูมของหินอ่อนและแกรนิตประเภทต่างๆ ในพื้นที่ประมาณ 800 ตารางเมตร

ของที่มีอยู่จำนวนมากมายนั้นยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ในทันที แต่ผู้ที่มีส่วนกระตุ้นเงินในกระเป๋าของลูกค้าได้ คือพนักงานขาย และการบริการ เดคคอร์มาร์ทตั้งเป้าจำนวนพนักงานขายและพนักงานทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 150 คน "ส่วนใหญ่แล้วพนักงานแต่ละคนที่จะรู้เฉพาะเรื่องราคา หากคนซื้อจะขอคำแนะนำในเรื่องสินค้าที่เขาจะตัดสินใจซื้อ ก็ไม่สามารถให้คำตอบที่ดีได้ การเน้นพนักงานขายเป็นมืออาชีพที่มีประสิทธิภาพคือหัวใจสำคัญที่ผู้บริหารได้วางไว้ ดังนั้นพนักงานขายของที่นี่ทุกคนต้องผ่านการฝึกอบรมจากผู้ผลิตสินค้าต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของวัสดุตัวที่ขายรวมทั้งการดูแลรักษาด้วย" ประดิษฐกล่าว

นอกจากนั้นยังมีแผนกดีไซน์ที่จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง โดยดึงเอาคอมพิวเตอร์มาช่วยสาธิตการออกแบบห้องในโชว์รูม ซึ่งช่วยให้ลูกค้ามองเห็นภาพในการตกแต่งห้องโดยเร็ว

"แผนกนี้จะไม่มีการเก็บค่าบริการใดๆ ทั้งสิ้น และคาดว่าลูกค้าคงให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะสามารถมองภาพของบ้านได้ชัดเจนขึ้น"

หลังจากนั้นก็ยังมีแผนกที่คอยดูแลความสะดวกให้แก่ลูกค้า เพื่อช่วยแก้ปัญหาและบริการหลังการขาย

ส่วนเรื่องของราคาไม่ใช่จุดเด่นในการตัดสินใจของลูกค้า เพราะจะใช้ระบบการจำหน่ายแบบเดียวกับห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีราคาปานกลางต่อรองไม่ได้

จากจุดขายทั้งหมดนี้ ประดิษฐและกลุ่มผู้บริหารมั่นใจว่าเดคคอร์มาร์ทจะสามารถเติบโตและขยายสาขาได้ถึง 3 ทำเลใน 5 ปี โดยสาขาแรกจะเปิดบริการประมาณเดือนพฤษภาคมนี้ แต่จะเป็นไปได้หรือไม่นั้นต้องดูฝีไม้ลายมือของคนกลุ่มนี้กันต่อไป

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us