|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
*ครม.ไฟเขียว พ.ร.บ.สุวรรณภูมินคร รัฐบาลทำเพื่อใคร เพื่อพวกพ้อง หรือประชาชน?
*เผยส่งคนคุมพื้นที่ 4 เขต ทั้งลาดกระบัง ประเวศ บางพลี ยันบางเสาธง ยึดพื้นที่รอบสนามบิน ก่อนหมดอำนาจในระดับประเทศ
*ชี้แค่เปลี่ยนสีผังเมือง เพิ่มการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ก็สร้างกำไรมหาศาล ทั้งที่ยังไม่ต้องลงทุนโครงการด้วยซ้ำ
ในที่สุดแผนปั่นราคาที่ดินรอบสนามบินสุวรรณภูมิรอบใหม่ก็ได้ฤกษ์เปิดฉากขึ้นแล้ว หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไฟเขียวเห็นชอบในหลักการร่าง พ.ร.บ.สุวรรณภูมิมหานคร พร้อมทั้งส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความก่อนจะส่งกลับมาให้ ครม.พิจารณาอีกครั้ง หาก ครม.เห็นชอบ ให้รอ ครม.ชุดใหม่ยืนยัน ก่อนส่งให้สภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่พิจารณา ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้
การปั่นราคาที่ดินของรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เริ่มตั้งแต่การใช้กระแสจุดพลุการลงทุนก่อสร้างโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ และโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่จะขนคนเข้า-ออกจากเมือง เพื่อไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ จนทำให้ราคาที่ดินถีบตัวสูงกว่าราคาในช่วง 3-4 ปีก่อนมาก บางแปลงราคาสูงขึ้นเกือบ 100% หรือบางแปลงสูงขึ้น 20-30% โดยเฉลี่ยราคาที่ดินในย่านสุวรรณภูมิสูงขึ้นราวๆ 50%
มาครั้งนี้ รัฐบาลพยายามที่จะผลักดันให้บริเวณสนามบิน เป็นเขตปกครองพิเศษ เพื่อที่จะได้ทุ่มงบประมาณไปพัฒนาพื้นที่อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม ว่านำเงินภาษีประชาชน ไปพัฒนาในพื้นที่ที่ตัวเองและพวกพ้องเป็นเจ้าของ แต่การทุ่มงบประมาณลงไป เพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง เพราะเป็นเขตปกครองพิเศษ
แน่นอนว่า เมื่อเป็นเขตปกครองพิเศษ ทุกอย่างจะต้องเพียบพร้อม ทั้งโครงการข่ายคมนาคม ถนนหนทาง หน่วยงานราชการ สาธารณูปโภค สาธารณูปการ ซึ่งหากมีการลงทุนในส่วนนี้ จะทำให้เมืองเติบโตอย่างรวดเร็ว และจะมีผลให้ราคาที่ดินถีบตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
เซ็นทิ้งทวน
แหล่งข่าวในวงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผย”ผู้จัดการรายสัปดาห์”ว่า การที่ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการร่างพ.ร.บ.สุวรรณภูมิมหานคร เสมือนเป็นการเซ็นทิ้งทวนก่อนที่อำนาจและบารมีจะหมดไป เพราะต้องการทำเพื่อตัวเอง ทั้งนักการเมือง เครือญาติ พวกพ้อง โดยเฉพาะคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ที่ไปกว้านซื้อที่ดินบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิไว้เรียบร้อยแล้ว ในช่วงที่ราคายังไม่ถูกปั่นขึ้นไป หรือในช่วง 3-4 ปีก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่านักการเมืองบางคนจะบอกว่า ที่ดินที่มีอยู่ซื้อไว้นานแล้ว ไม่ได้พึ่งมาซื้อในช่วงที่รัฐบาลจะลงทุนโครงการสนามบินให้แล้วเสร็จ แต่ด้วยความที่มีอำนาจ จึงพยายามที่จะสร้างความเจริญไปยังพื้นที่ที่เป็นเจ้าของอยู่ อีกทั้งยังมีการซื้อเพิ่มเติม เมื่อแน่ใจว่าโครงการก่อสร้างสนามบินเดินหน้าอย่างต่อเนื่องและมีกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ก.ย.นี้
กลุ่มนักการเมืองที่เป็นเจ้าของที่ดินในย่านสุวรรณภูมิ นำโดยนายกฯทักษิณ ที่ถือที่ดินผ่านนอมินี .สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการ พรรคไทยรักไทย และรองนายกรัฐมนตรี ,ประยุทธ์ มหากิจศิริ แกนนำพรรคไทยรักไทย ,เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ เจ๊แดงรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และน้องสาวนายกรัฐมนตรี และกลุ่มบริษัท กฤษดามหานคร ที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับคนในครอบครัวนายกรัฐมนตรี มีที่ดินราว 4,000-5,000 ไร่
“การที่ที่ประชุมครม.ไฟเขียวเรื่องการจัดตั้งสุวรรณภูมิมหานคร ถือเป็นการเซ็นทิ้งทวน ก่อนที่จะหมดอำนาจทางการเมือง เพราะไม่แน่ใจว่าสถานการณ์ทางการเมืองในอนาคตจะไปในทิศทางไหน อีกทั้งแผนการที่เตรียมผลักดันให้บริเวณสนามบินกลายเป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ และรองรับการเปิดใช้สนามบินมีความเป็นไปได้โดยเร็วที่สุด เพื่อผลักดันให้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น”แหล่งข่าวคนเดิมให้ความเห็น
ขณะเดียวกัน หากบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิเป็นเขตปกครองพิเศษ การดำเนินการทุกอย่างจะง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการ หรือหน่วยงานต่าง ๆ เหมือนกับการปกครองระดับประเทศ ที่การทำนิติกรรมต่าง ๆ จะต้องผ่านกระบวนการกลั่นกรอง และต้องใช้เวลานาน ส่วนเขตปกครองพิเศษ ผู้ที่ตัดสินใจขั้นสุดท้ายคือนายกที่ปกครองสุวรรณภูมิมหานครที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง
ส่งคนคุมสนามเล็กยันสนามใหญ่
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า “ทุกวันนี้ผู้ที่ดูแลพื้นที่ในเขตสนามบินทั้ง 4 เขต ได้แก่ ลาดกระบัง ประเวศ และอีก 2 เขตของจังหวัดสมุทรปราการ ได้แก่ บางพลีและบางเสาธง ล้วนเป็นคนของรัฐบาลเกือบทั้งหมด ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น จนถึงระดับประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการวางตัวบุคคลไว้เรียบร้อย และหากพื้นที่รอบสนามบินถูกยกระดับให้เป็นเขตปกครองพิเศษ การทำนิติกรรมทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับคนกลุ่มเดียวเท่านั้น คือ แก๊งไทยรักไทย ”
ทั้งนี้ การผลักดันให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นเขตปกครองพิเศษ จะต้องใส่เม็ดเงินจำนวนมหาศาลลงไป เพื่อให้เป็นเมืองที่สมบูรณ์ ทั้งสาธารณูปโภค การขนส่ง การคมนาคม รวมถึงจะต้องวางแผนการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเป็นระเบียบ เพื่อให้เมืองเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ ทางกรมโยธาธิการและผังเมือง พยายามที่จะควบคุมการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ในย่านสนามบินให้เป็นระเบียบ เพื่อให้เมืองสวยงาม น่าอยู่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเหมือนกับเมืองเวนิช อิตาลี ที่โด่งดังไปทั่วโลกถึงความสวยงามของเมือง เพราะมีลักษณะคล้ายกับอิตาลี
อย่างไรก็ตาม หากสนามบินสุวรรณภูมิเป็นเขตปกครองพิเศษ จะทำให้ราคาที่ดินพุ่งสูงกว่านี้หลายเท่า เพราะจากที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของกรุงเทพฯและสมุทรปราการ ราคาที่ดินยังถูกปั่นจนสูงขึ้นเฉลี่ยถึง 50% และหากพื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นเขตปกครองพิเศษ ก็เชื่อว่าราคาที่ดินจะสูงกว่านี้อีก ซึ่งเจ้าของที่ดินบริเวณดังกล่าวจะร่ำรวยกันทั่วหน้า ทั้งที่ยังไม่ต้องลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างมูลค่าเลย
“แม้ว่ายังไม่ได้ลงทุนก่อสร้างโครงการ เพียงแค่ให้ผู้ที่ดูแลเขตปกครองพิเศษ เปลี่ยนสีผังเมืองบางแปลง เพื่อให้สามารถลงทุนโครงการขนาดใหญ่และมีมูลค่า ก็จะทำให้ราคาที่ดินวิ่งขึ้นทันที เช่นเดียวกับการประกาศใช้ผังเมืองทั่วไป ที่ราคาที่ดินหลายแห่งขยับขึ้นไป จากการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งหากมีการลงทุนก่อสร้างโครงการไว้รองรับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสนามบิน จะยิ่งสร้างมูลค่าให้กับเจ้าของที่ดินมหาศาล”แหล่งข่าวระบุ
|
|
|
|
|