ค่ายนิสสันปลุกตลาด ส่งรุ่นใหม่ นิสสัน ทีด้า (Nissan Tiida) ลงตลาดกู้ยอดขาย หวังผลักดันกลับสู่ลำดับต้นๆของตลาดเก๋งขนาดเล็ก ด้วยแชร์ 30% จากขณะนี้ที่เหลือแค่ 7% เคาะราคาเริ่มต้นที่ 6.69 แสนบาท ยืนยันยังไม่ปรับลดเป้ารวมที่ 4.8 หมื่นคัน เผยครึ่งแรกยอดขายต่ำเป้าหมาย
นายโคซาคุ โฮโซคาวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากนิสสันเปิดตัว SHIFT_challenge เมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อขับเคลื่อนปรัชญาแนวคิดนี้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัวรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ นิสสัน ทีด้า (Nissan Tiida) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดดังกล่าว และจะช่วยให้นิสสันกลับมาอยู่ในอันดับต้นๆ ของตลาดเก๋งคอมแพ็กต์ หรือเก๋งขนาดกลางอีกครั้ง
“เรามั่นใจว่าทีด้าจะช่วยผลักดันให้นิสสัน กลับมามีส่วนแบ่งทางการตลาด 30% ในกลุ่มเก๋งขนาดกลาง หรือคอมแพ็กต์คาร์ หลังจากที่ปัจจุบันมีอยู่เพียง 6-7% เท่านั้น โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายรถรุ่นนี้ ในช่วงเวลาที่เหลือครึ่งปีหลัง ไว้ที่ 11,400 คัน โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่อายุ 25 ปีขึ้นไป ”
จุดสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นต่อ นิสสัน ทีด้า เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่สามารถตอบสนองลูกค้าได้ครบถ้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมรรถนะ ความกว้างขวาง และสะดวกสบาย มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัด ซึ่งหากเทียบกับ ซันนี่ นีโอ ที่ทีด้าจะมาทำตลาดแทนประหยัดกว่า 20% หรือเทียบกับรถคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันประหยัดกว่าถึง 10% และลูกค้ายังสามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย จากการจัดตั้งบริษัทนิสสันลิสซิ่งเมื่อเร็วๆ นี้
“ที่สำคัญไม่เพียงเป็นเจ้าของได้ง่ายจากบริการด้านไฟแนนซ์แล้ว ราคาที่ของ นิสสัน ทีด้า ยังมีความเหมาะสม โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 6.69 แสนบาท ในรุ่นต่ำสุดเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร แบบ 4 ประตู ซึ่งถือว่าราคาต่ำกว่ารุ่นนีโออีก และหากเทียบกับคู่แข่งในตลาด ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า อัลติส, ฮอนด้า ซีวิค, ฟอร์ด โฟกัส และมาสด้า3 ราคาของทีด้าน่าสนใจมากกว่าอีก” นายโฮโซคาวากล่าวและว่า
สาเหตุที่ทำให้สามารถตั้งราคาได้จูงใจเช่นนี้ เนื่องจากรถยนต์รุ่นนี้ได้ใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศเป็นจำนวนมาก และกระบวนการผลิตได้นำเทคโนโลยีระดับสูงเข้ามาช่วย ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้มาก ราคาจำหน่ายที่เปิดออกมาจึงมีความน่าสนใจกับลูกค้าเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้นิสสัน ทีด้า มีด้วยกันทั้งหมด 2 โมเดล คือ รุ่น 4 ประตู มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ HR16DE ขนาด 1600 ซีซี 109 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 669,000 บาท สูงสุด 782,000 บาท และรุ่นเครื่องยนต์ HR18DE ขนาด 1800 ซีซี 126 แรงม้า ราคา 839,000 บาท ส่วนอีกโมเดลเป็นแบบ 5 ประตู หรือแฮ็ทช์แบ็ก 3 รุ่น มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้ง 1600 ซีซี และ1800 ซีซี เช่นเดียวกัน โดยราคาเริ่มต้น 737,000 บาท และสูงสุด 866,000 บาท
สำหรับราคานิสสัน ทีด้า หากเทียบกับคู่แข่งแล้ว โดยเฉพาะรถยนต์กลุ่มคอมแพ็กต์ที่เป็นเจ้าตลาด ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า อัลติส, ฮอนด้า ซีวิค และมาสด้า 3 แล้ว ถือเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าก็ใกล้เคียงคู่แข่ง ที่สำคัญราคารุ่นเริ่มต้นของนิสสัน ทีด้า ยังลงแข่งขันกับรถซับคอมแพ็กต์ตัวบน ทั้งโตโยต้า ยาริส-วีออส และฮอนด้า แจ๊ส-ซิตี้ด้วย แต่ทีด้าได้เปรียบในเรื่องของเครื่องยนต์และขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่า
นายโฮโซคาวากล่าวต่อว่า สำหรับสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และความผันผวนทางเมืองในปัจจุบัน จะยังไม่ทำให้บริษัทฯ ลดเป้าหมายการขายล่าสุดตลอดปีนี้ที่ 4.6-4.8 หมื่นคันลง หลังจากได้มีการปรับเป้าหมายลงมาแล้ว จากเมื่อต้นปีที่ตั้งไว้ประมาณกว่า 5 หมื่นคัน ส่วนในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา นิสสันมียอดขายต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ประมาณ 8 พันคัน
“การเปิดตัวของนิสสัน ทีด้า ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าเป้าหมายที่วางไว้ 4.6-4.8 หมื่นคัน น่าจะช่วยผลักดันให้บรรลุได้ และเชื่อว่าสถานการณ์ทางการเมืองน่าจะชัดเจนในช่วงเดือนตุลาคม ประกอบกับช่วงไตรมาสสุดท้ายเป็นช่วงฤดูขาย ตัวเลขที่ตั้งไว้จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
ส่วนกลยุทธ์การตลาดที่จะรองรับการเปิดตัว นิสสัน ทีด้า นอกจากจะมีจัดโรดโชว์ในหัวเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศแล้ว ได้มีการจัดรถทดลองขับแก่ลูกค้า และผู้ที่สนใจในทุกโชว์รูมทั่วประเทศ บริการช่วยช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง กับลูกค้าที่ซื้อนิสสัน ทีด้าทุกคัน
|