Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน30 มิถุนายน 2549
เมโทรฯเร่งออกแรงปั๊มรายได้คาดครึ่งปีแผ่วคงเป้า1.5พันล.             
 


   
search resources

เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้, บมจ.
Real Estate
รัตนชัย ผาตินาวิน




ค่ายเมโทร พร็อพเพอร์ตี้ฯมีแว่วไตรมาส2ผลงานอาจไม่หวือหวา แต่มั่นใจทั้งปีโกยรายได้ 1,500ล้านบาทตามเป้า หลังมีทาวเฮาส์และคอนโดฯ รอโอนครึ่งปีหลัง พร้อมเข็น 2 โครงการใหม่ มูลค่า 2,000ล้านบาทออกขายช่วงไตรมาส3 เล็งปรับราคาขายทาวน์เฮาส์-คอนโดฯใหม่อีก 5-10% หลังต้นทุนวัสดุก่อสร้างสูงขึ้น

นายรัตนชัย ผาตินาวิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ METRO เปิดเผยถึงโอกาสการสร้างรายได้ในปี 2549 ว่า บริษัทยังมั่นใจที่จะมีรายได้ตามเป้าที่วางไว้ที่ 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 845.65 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้จาก 3 โครงการหลัก ประกอบด้วยโครงการสีลม แกรนด์ เทอเรส มูลคา 1,250 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ประมาณ 10% หรือประมาณ 100 กว่าล้านบาท โครงการเซ็นต์หลุย แกรนด์ เทอเรส มูลค่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ 100% และโครงการทาวน์เฮาส์บ้านรวิภา มูลค่า 400 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ 70-100% โดยการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวจะทำให้รายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

" ส่วนใหญ่บริษัทมีการโอนบ้านและคอนโดมิเนียมในครึ่งปีหลัง ซึ่งทำให้รับรู้รายได้เต็มที่ แม้ครึ่งปีแรกจะรับรู้รายได้ไม่มากแต่มั่นใจทั้งปีเป็นไปตามเป้า"นายรัตนชัย กล่าว

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/49 อาจทรงตัวจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา เนื่องจากมีคอนโดมิเนียมรอโอนเล็กน้อย หลังจากคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่รอโอนในครึ่งปีหลัง อนึ่งตามงบการเงินของบริษัท ระบุไว้ไตรมาสแรกมีรายได้รวม 161.01 ล้านบาท (ช่วงเดียวกันของปี 48 มีรายได้รวม 845.64 ล้านบาท) มีกำไรสุทธิลบ 34.35 ล้านบาท (ช่วงเดียวกันของปี 48 กำไรสุทธิ231.95 ล้านบาท)

นายรัตนชัย กล่าวว่า ในไตรมาส 3/2549 บริษัทฯ มีแผนเปิด 2 โครงการใหม่มูลค่ารวม 2 ,000 กว่าล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยโครงการบ้านรวิภา สุขุมวิท (ซอยอุดมสุข) เป็นโครงการทาวน์เฮาส์มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท และโครงการสาทร เทอเรส ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม 32 ชั้นมูลค่า 1,560 ล้านบาท โดยมั่นใจว่าโครงการดังกล่าวจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี เนื่องจากอยู่บนทำเลใจกลางเมืองที่การคมนาคมสะดวก รวมถึงราคาขายเหมาะสม

อย่างไรก็ดี ในปี 2549 บริษัทฯ วางงบลงทุนรวมไว้ที่ 6,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ 5,000 ล้านบาท และซื้อที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาต่ออีก 1,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเริ่มก่อสร้างโครงการสาทร แกรนด์ เทอเรส คอนโดมิเนียม 28 ชั้นมูลค่า 1,500 ล้านบาท และโครงการสาทร แกรนด์ แมนชั่น เป็นเซอร์วิส อพาร์ทเม้น 38 ชั้น มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท โดย 2 โครงการดังกล่าวจะเปิดขายในช่วงปีหน้า อย่างไรก็ดี งบลงทุนซื้อที่ดินทยอยซื้อต่อเนื่อง โดยเน้นทำเลใจกลางเมืองและการคมนาคมสะดวกเป็นหลัก

ปัจจุบันบริษัทฯ มีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) 1.2 เท่า โดยปีนี้จะรักษา D/E ดังกล่าวให้ไม่เกิน 2 เท่าตามเป้าหมายที่วางไว้ เพื่อให้มีความสามารถกู้ยืมเงินมาลงทุนโครงการในอนาคตได้

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนจะปรับขึ้นราคาทาวน์เฮาส์และคอนโดมิเนียมที่เตรียมเปิดตัวในครึ่งปีหลัง หลังพบว่าราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นคาดว่าจะปรับขึ้นในอัตรา 5-10% สอดรับกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นส่งผลให้ต้นทุนวัสดุก่อสร้างปรับเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) โดยคาดว่าเฉลี่ยปีนี้ลดลงเหลือ 34% จาก 38-39% ในปีก่อน

อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงบ้าง แต่ก็ถือว่าสูงกว่าผู้ประกอบการอสังหาฯรายอื่นที่เฉลี่ยไม่ถึง 30% ส่วนราคาหุ้นบนกระดานที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามภาวะตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่ค่อยดี หลังจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง และความไม่ชัดเจนในสถานการณ์ทางการเมือง แต่ยืนยันว่าผลประกอบการยังเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องแม้จะไม่สะท้อนในราคาหุ้นก็ตาม

นายรัตนชัย กล่าวถึง ความคืบหน้าการหาพันธมิตรใหม่เพื่อร่วมลงทุนธุรกิจว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทั้งในส่วนของสิงคโปร์ ,ญี่ปุ่น และเยอรมัน โดยทางบริษัทฯ ไม่ได้รีบร้อนในการหาพันธมิตรแต่อย่างใด เนื่องจากจะพิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งพันธมิตรใหม่จะต้องเข้ามาช่วยเสริมให้ธุรกิจแข่งแกร่งยิ่งขึ้น โดยยืนยันว่าจะได้เห็นความชัดเจนในปี

ในส่วนของความคืบหน้าการออกหุ้นกู้มูลค่า 1,200 ล้านบาทว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งต้องเลื่อนการขายหุ้นกู้ดังกล่าวจากแผนเดิม ที่คาดว่าจะออกขายปลายเดือนมิ.ย.เป็นเดือนก.ค.เนื่องจากยังติดปัญหาเจรจาเงื่อนไขไม่ลงตัว โดยมอบหมายให้ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)บัวหลวงเป็นผู้ดำเนินการจัดหานักลงทุน ซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีนักลงทุนหลายรายแสดงความสนใจติดต่อขอซื้อแล้ว ทั้งนี้ บริษัทฯ จะขายหุ้นกู้ดังกล่าวให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) เพื่อนำเงินไปซื้อที่ดินพัฒนาโครงการใหม่อีก 1-2 โครงการ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us