|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บอร์ดตลท.ปรับโครงสร้างทีมบริหารใหม่ โยก"โสภาวดี"คุมงานศูนย์รับฝากฯ ดัน"วิเชฐ"ขึ้นคุมงานขยายฐานผู้ลงทุนและเพิ่มจำนวนบจ.อย่างเต็มตัว ส่วน"นงราม" นั่งเก้าอี้รองผู้จัดการ ดูแลสายงานกิจกรรมองค์กร มีผลตั้งแต่วัน 1 ก.ค.49 เป็นต้นไป ขณะที่กรรมการและผู้จัดการตลาดคนใหม่"ภัทรียา"ยันไม่มีความขัดแย้งภายในองค์กร
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ภายหลังเข้ารับตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2549 ที่ผ่านมาได้มีการเรียกหารือรองผู้จัดการและผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ทุกคนเพื่อให้รับทราบถึงแผนการปรับโครงสร้างการบริหารงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทย่อย ก่อนที่จะมีการนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการตลาหลักทรัพย์ในวานนี้(28 มิ.ย.)
ทั้งนี้คณะกรรมการได้มีมติอนุมัติให้แต่งตั้งนางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TSD เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนและมีความรู้ความเข้าใจในความต้องการของผู้ประกอบธุรกิจรวมถึงผู้ลงทุน และเชื่อมั่นว่าจะเป็นผู้ที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับศูนย์รับฝากฯ โดยในอนาคตจะต้องมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับงานที่ต้องมีการทำงานเชื่อมโยงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคมากขึ้น ทั้งในด้านของระบบStraight Through Processing การลดระยะเวลาชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ เป็น T+ 2 การผลักดันเรื่อง IPO online และการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ เป็นต้น
"กระแสข่าวที่ระบุว่าเกิดความขัดแย้งขึ้นในกลุ่มผู้บริหารจนทำให้ต้องมีการปรับโครงสร้างเรื่องดังกล่าวขอปฎิเสธว่าไม่เป็นความจริง ขณะที่การโยกงานในครั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นการลดตำแหน่งใครคุณโสภาวดียังคงเป็นรองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เหมือนเดิม ส่วนเรื่องการเสนอชื่อคุณนงรามเป็นซีโอโอดิฉันเป็นคนเสนอเอง"นางภัทรียากล่าว
สำหรับหน้าที่และความรับผิดชอบในบริษัท ศูนย์รับฝากฯ มีสายงานต่าง ๆ รวม 3 สายงานประกอบด้วย สายงานรับฝากหลักทรัพย์และสำนักหักบัญชี สายงานนายทะเบียนและบริการปฏิบัติหลักทรัพย์ และสายงานพัฒนาธุรกิจและข้อมูล นอกจากนี้ ศูนย์รับฝากฯยังมีบริษัทย่อยถึง 4 แห่งประกอบด้วย บริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านการชำระราคาและส่งมอบตราสารอนุพันธ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่จะทวีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากตราสารอนุพันธ์ กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะต้องมีการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับภูมิภาคเพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดอนุพันธ์ด้วย ส่วนบริษัทย่อยอื่น ๆ ประกอบด้วย บริษัทไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด บริษัท สยามดีอาร์ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนต่างด้าว จำกัด
"อาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับการประสานกับบริษัทสมาชิกเรื่องดังกล่าวไม่น่าจะมีปัญหาเพราะคุณนงรามที่เข้ามาทำงานก็คุ้นเคยกับโบรกเกอร์เป็นอย่างดี"นางภัทรียากล่าว
นางภัทรียา กล่าวอีกว่า คณะกรรมการได้แต่งตั้งนางนงราม วงษ์วานิช เดิมดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ ให้ดำรงตำแหน่ง รองผู้จัดการ ดูแลสายงานกิจกรรมองค์กร เนื่องจากมีประสบการณ์ทำงานค่อนข้างนานและที่สำคัญมีความรู้ความสามารถที่จะเข้ามารับตำแหน่งดังกล่าว
ทั้งนี้ หน้าที่ที่จะเข้ามาดูแลงาน ในฐานะ COO (Chief Operating Officer) จะมีหน้าที่ในการเป็นกรรมการในบริษัทย่อยทุกแห่งของตลาดหลักทรัพย์ฯ และทำหน้าที่ประสานงานให้การทำงานระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทย่อยมีความราบรื่น นรวมถึงการดูแลงานด้านการบริหารทรัพยากรของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งด้านงบประมาณ บุคลากร และเงินลงทุนของตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย
ในส่วนของสายงานระดมทุน คณะกรรมการได้แต่งตั้งนายวิเชฐ ตันติวานิช ให้เป็นผู้ดูแลงานด้านการขยายฐานผู้ลงทุนและการเพิ่มจำนวนบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถดำเนินงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายและนโยบายของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้
"การปรับโครงสร้างครั้งนี้จะทำให้ตำแหน่งประธานศูนย์ระดมทุนว่างลง ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหา เราอยากให้คุณวิเชฐทำงานในตำแหน่งอย่างเต็มที่เราจะมีการวางเป้าหมายในช่วง 3 เดือน 6 เดือนต่อจากนี้อีกที"นางภัทรียากล่าว
อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างการบริหารงานในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านการบริหารงานของทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯและบริษัทย่อยให้สามารถพร้อมรับกับปัจจัยภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลง และยังเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของผู้บริหารให้ได้รับประสบการณ์ที่หลากหลายอีกด้วย โดยการปรับโครงสร้างครั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2549 เป็นต้นไป
|
|
|
|
|