Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 มิถุนายน 2549
ส.รับสร้างบ้านเพิ่มช่องทางตลาด จัดสรรโครงการเก่าหันสร้างบ้านใหม่             
 


   
search resources

Real Estate
Construction
ศักดา โควิสุทธิ์




"รับสร้างบ้าน" ฟุ้งตลาดอสังหาฯ ชะลอไม่กระทบ แจงยังมีคนสร้างบ้านราคาแพงอยู่ ชี้ช่องทางตลาดใหม่กลุ่มลูกค้าในโครงการจัดสรรเก่าเริ่มทุบบ้านเก่าทิ้งสร้างใหม่ เชื่ออีก 5 ปีเริ่มเห็นอีกเพียบ พร้อมระบุแบงก์ปล่อยกู้ง่ายและมากกว่าบ้านจัดสรรเหตุมีที่ดินค้ำประกันอยู่แล้ว

นายศักดา โควิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทรอยัล เฮ้าส์ จำกัด และนายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ธุรกิจรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีหลังมีคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแตกต่างจากธุรกิจบ้านจัดสรร เนื่องจาก 60% ของผู้ซื้อใช้เงินตัวเองแทนการกู้สร้างบ้านนอกจากนี้กลุ่มลูกค้ารับสร้างบ้านส่วนใหญ่เป็นคนอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปซึ่งกลุ่มนี้จะมีเงินเก็บอีกทั้งลูกค้าส่วนใหญ่ยังมีที่ดินเป็นของตนเองหากต้องการใช้สินเชื่อก็เฉพาะสร้างบ้านเท่านั้น

สำหรับปัจจัยลบยังเป็นตัวเร่งการตัดสินใจสร้างบ้านเร็วขึ้น เนื่องจากผู้บริโภครู้ว่าเมื่อราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นจะส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้าง ค่าแรง และราคาสร้างบ้านปรับสูงขึ้นตามและมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ หากตัดสินใจสร้างบ้านในวันนี้ย่อมถูกกว่าปีหน้าอย่างแน่นอน

นอกจากนี้สร้างบ้านเองกับซื้อบ้านในโครงการจัดสรรยังแตกต่างกันคือ สร้างบ้านเองจะเป็นผู้ที่มีที่ดินอยู่แล้วหากขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินจะได้ง่ายกว่าเนื่องจากมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นที่ดิน และส่วนใหญ่จะได้สินเชื่อ 100% ของราคาค่าก่อสร้าง ส่วนการขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านจัดสรรจะต้องวางเงินดาวน์ อีกทั้งสินเชื่อที่ได้จะมีวงเงินประมาณ 70-80% ซึ่งลูกค้าต้องมีเงินก้อน ซึ่งก่อนหน้านี้สถาบันการเงินไม่ค่อยรู้จักบริษัทรับสร้างบ้านเท่าใดนัก จะรู้เพียงว่าเป็นผู้รับเหมามากกว่า ทำให้ไม่ค่อยไว้วางใจเมื่อปล่อยสินเชื่อ แต่เมื่อมีการรวมตัวเป็นสมาคมทำให้เป็นที่รู้จักในนามขององค์กรวิชาชีพเกิดความไว้วางใจมากขึ้น การปล่อยสินเชื่อง่ายขึ้น

"ที่ผ่านมาตลาดบ้านจัดสรรชะลอลงอย่างมากซึ่งดูได้จากยอดขายของบริษัทเองมที่มีโครงการบ้านจัดสรรอยู่ คือบ้านราคา 3-5 ล้านบาท ชะลอตัว ในขณะที่บ้าน 5 ล้านบาทขึ้นไปแถบจะขายไม่ได้ แต่เมื่อมาดูลูกค้ารับสร้างบ้านกลับพบว่ายังมีลูกค้าสั่งสร้างบ้านราคา 5-10 ล้านบาทอยู่อย่างต่อเนื่อง และถ้าไปดูสถิติในอดีตแม้ว่าจะเกิดวิกฤตแต่ธุรกิจรับสร้างบ้านก็ยังคงโตอย่างต่อเนื่องแต่ไม่หวือหวาเท่านั้น ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าธุรกิจรับสร้างบ้านไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดโดยรวมเป็นส่วนใหญ่ เป็นความต้องการที่แท้จริงมากกว่า และขึ้นอยู่กับว่าเราจะสร้างบ้านได้ถูกใจลูกค้าได้หรือไม่" นายศักดากล่าว

นายศักดา กล่าวว่าต่อว่า นอกจากการสร้างบ้านในที่ดินเปล่าของลูกค้าแล้ว เทรนด์การสร้างบ้านเริ่มมีทิศทางที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ มีช่องทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงปีที่ผ่านมาพบว่า มีลูกค้าในบ้านจัดสรรโครงการเก่าๆ เริ่มทุบบ้านเดิมทิ้งแล้วสร้างใหม่ เนื่องจากต้องการขยายครอบครัว พื้นที่ประโยชน์ใช้สอยไม่เพียงพอเพราะการออกแบบในอดีตไม่ได้ให้ความสำคัญสำหรับเรื่องดังกล่าว หรือต้องการเปลี่ยนบ้านใหม่เพื่อให้ทันสมัยมากขึ้น

ทั้งนี้การเปลี่ยนบ้านใหม่นี้จะพบในโครงการจัดสรรเก่าอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และเชื่อว่าบริษัทรับสร้างบ้านจะมีลูกค้าในลักษณะนี้เพิ่มมากขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า เนื่องโครงการจัดสรรเริ่มเกิดเมื่อประมาณ 25 ปีที่ผ่านมา โครงการสร้างบ้านแม้ว่าจะยังสามารถใช้งานได้แต่พื้นที่อื่นเริ่มทรุดโทรม ซึ่งช่วงเวลาที่จะต้องเริ่มเปลี่ยนจะประมาณ 30 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตามการสร้างบ้านโดยความเป็นจริงสามารถอยู่ได้นานถึง 50-100 ปี

"อีก 5 ปี ต่อจากนี้จะเริ่มเห็นคนที่อาศัยอยู่ในบ้านจัดสรรที่มีอายุนานกว่า 20 ปีเริ่มทุบบ้านเก่าทิ้งทำใหม่ แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีลูกค้ากลุ่มนี้มากน้อยแค่ไหน เพราะในความเป็นจริงตัวโครงสร้างบ้านจะอยู่ได้เป็น 100 ปี แต่ที่เปลี่ยนเพราะต้องการขยายและเพื่อให้ทันสมัย และจะเริ่มเห็นเทรนด์นี้เป็นเอเรีย เช่น ย่านนนทบุรี ชินเขต เสนา โชคชัยสี่ เพราะย่านดังกล่าวมีบ้านจัดสรรเกิดขึ้นเป็นที่แรกๆของไทย" นายศักดา กล่าว

นอกจากนี้ จะเริ่มเห็นสถาบันการเงินนำที่ดินเปล่าออกมาให้บริษัทรับสร้างบ้านหรือผู้รับเหมาเข้าไปทำการก่อสร้างแล้วขายเป็นโครงการ หรือขายให้กับลูกค้าและพ่วงกับการสร้างบ้านให้ เพราะปัจจุบันที่ดินเปล่าในสถาบันการเงินมีเป็นจำนวนมาก อีกทั้งราคาขายของสถาบันการเงินยังถูกมาก อีกทั้งยังสามารถซับพอร์ตในเรื่องของสินเชื่อได้อีกด้วย จึงทำให้เชื่อว่าตลาดนี้จะเริ่มมาแรงในระยะเวลาอันใกล้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us