สบน.เผยยอดหนี้สาธารณะล่าสุดสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีจำนวน 3.2 ล้านล้านบาท 41.39% ของจีดีพี ส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะยาว ขณะที่ช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 ภาครัฐมีการกู้เงินรวม 105,000 ล้านบาท โดยเกินครึ่งเป็นการกู้จากกระทรวงการคลังเอง
นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่าผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ของภาครัฐประจำเดือนพฤษภาคม 2549 และในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 (ตุลาคม 2548 - พฤษภาคม 2549) การปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐ ในเดือนพฤษภาคม 2549 กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศ วงเงินรวม 59,327 ล้านบาท ประกอบด้วยเงินกู้เดิม 3 รายการ คือเงินกู้ FRN วงเงิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และเงินกู้ ADB และIBRD วงเงิน 156 ล้านเหรียญสหรัฐ และเงินกู้ JBIC วงเงิน 46,826 ล้านเยน โดยวิธีการดังนี้
1.Refinance เงินกู้ 2 รายการแรก ด้วยการออกพันธบัตรเงินบาท วงเงิน 24,500 ล้านบาท และออกตราสาร ECP วงเงิน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 18,863 ล้านบาท พร้อมกับใช้งบชำระหนี้ จำนวน 8.31 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 314 ล้านบาท ชำระหนี้ดังกล่าวคืนก่อนครบกำหนด ซึ่งทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้าง 314 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยได้เป็นเงินรวม 648 ล้านบาท
2.แปลงหนี้เงินกู้ JBIC จากสกุลเงินเยน อัตราดอกเบี้ย 1% เป็นหนี้เงินกู้สกุลเงินบาท จำนวน 15,650 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4.7% สำหรับระยะเงินกู้โดยเฉลี่ย 9 ปี ซึ่งทำให้สามารถปิดความเสี่ยงเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยน โดย ณ วันดำเนินการเป็นช่วงที่เงินเยนมีค่าอ่อนตัวลงมากกว่าปกติเมื่อเปรียบเทียบกับเงินบาท และประมาณว่าจะสามารถลดต้นทุนเงินกู้สุทธิได้เป็นเงิน 1,528 ล้านบาท
ด้านในประเทศ การรถไฟแห่งประเทศไทยได้กู้เงินในประเทศเพื่อ Roll Over หนี้เดิม 1,000 ล้านบาท
สำหรับการกู้เงินของภาครัฐ ในเดือนพฤษภาคม 2549 กระทรวงการคลังได้ออกพันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง (FIDF3) ซึ่งได้รับเงินจากการประมูลพันธบัตรในเดือนนี้ 11,228 ล้านบาท โดยเป็นพันธบัตรออมทรัพย์ 728 ล้านบาท และพันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษ 10,500 ล้านบาท ส่วนรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้กู้เงินในประเทศเพื่อลงทุน 1,860 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 ภาครัฐได้กู้เงินรวม 105,825 ล้านบาท เป็นการกู้ของรัฐวิสาหกิจตามแผนก่อหนี้จากต่างประเทศ 4,955 ล้านบาท และการกู้เงินในประเทศ 100,870 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 66,167 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 34,703 ล้านบาท
ส่วนการชำระหนี้ของภาครัฐ ในเดือนพฤษภาคม 2549 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณ 9,846 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 1,496 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 8,350 ล้านบาท และในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยจากงบประมาณรวม 81,678 ล้านบาท และกองทุนฯ ชำระคืนพันธบัตรที่ครบกำหนดไถ่ถอน 40,000 ล้านบาท
ด้านยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เมษายน 2549 มีจำนวน 3,208,130 ล้านบาท หรือ41.39% ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 1,926,935 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 980,334 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 300,862 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหนี้สาธารณะลดลง 15,116 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้น 11,060 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินลดลง 10,681 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 15,495 ล้านบาท
โดยหนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 543,887 ล้านบาท หรือ 16.95% และหนี้ในประเทศ 2,664,243 ล้านบาท หรือ 83.05% และเป็นหนี้ระยะยาว 2,626,765 ล้านบาท หรือ 81.88% และหนี้ระยะสั้น 581,365 ล้านบาท หรือ 18.12% ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
|