|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ กรกฎาคม 2549
|
|
ปรารถนาเฝ้าดูพัฒนาการของพรสรรค์ที่ปูรณ์ หรือปูนปั้น ลูกชายคนเดียวที่แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ในงานศิลปะการออกแบบ จนทำให้เธอเริ่มมั่นใจว่าปูนปั้นที่กำลังเรียนชั้นเกรด 10 ใน Shrewbery International School น่าจะไปได้ดีกับงานสาย Design Technology
ตั้งแต่เล็กมาแล้วที่เด็กชายปูนปั้นฉายแววดังกล่าวออกมาผ่าน presentation งบการเงินในรูป power point ที่เขาชอบทำให้แม่เพื่อนำไปใช้ในที่ประชุมคณะผู้บริหารบริษัทเสมอ ขนาดว่าบิล ไฮเน็คกี้ ประธานกรรมการ ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ยังต้องเอ่ยปากชมลูกชายของเธอ ซึ่งตอนนั้นยังอายุน้อยเกินกว่าจะแน่ใจได้ว่าจะมาทางนี้ได้จริงหรือเปล่า
แววด้านความคิดสร้างสรรค์นี้เริ่มมาโดดเด่นเมื่อ 3 ปีก่อน หลังปูนปั้นย้ายมาเรียนที่ Shrewbery ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สอนให้เด็กหัดคิดมากขึ้น การบ้านส่วนใหญ่ของปูนปั้นจึงเป็นการวาดภาพโปสเตอร์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ อย่างสงครามโลกครั้งที่สองหรือวงจรชีวิตสัตว์
ปรารถนามีความคาดหมายอย่างมากกับเรื่องการเรียนของปูนปั้น ซึ่งเป็นเด็กหัวดีเหมือนญาณศักดิ์ ทั้งที่เกรงจะกดดันลูกจนเกินไป แต่ก็ทนไม่ค่อยจะได้หากเห็นเกรดลูกชายตกลงบ้างในบางวิชา
"ปูนปั้นเคยสอบได้ A ทุกวิชา มีครั้งหนึ่งที่เกรดวิชา Art เขาตกลงมา แม่ร้องไห้เลย ไม่เข้าใจทำไมลูกไม่ได้ A ส่วนพ่อ-ลูกกลับนั่งหัวเราะ ฝ่ายคุณตาก็บอกว่า ปล่อยให้มันนั่งร้องไห้ไป เพื่อจะได้ปรับตัวให้ได้ และต้องรู้จักหัดเผชิญความจริงซะบ้างว่าใครมันจะสอบได้ A ตลอด" ปรารถนาเล่าให้ฟัง
ปรารถนาไม่ได้ใส่ใจเพียงเรื่องเรียนของปูนปั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการศึกษาของพี่เลี้ยงของลูกชาย เพราะรู้ว่าตัวเธอไม่อาจอยู่สอนการบ้านลูกเองได้ทุกวัน เธอจึงสนับสนุนให้พี่เลี้ยงของปูนปั้นเรียนหนังสือต่อ ปัจจุบันกำลังเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง
แม้ปูนปั้นจะเป็นลูกคนเดียว แต่ดูเหมือนแม่จะไม่ลังเลกับการลงโทษลูกชายเมื่อทำความผิด
"จำได้ว่าพี่เคยตีลูกมา 4 ครั้ง แต่ความผิดที่จะยอมไม่ได้เลยคือโกหก ทำเมื่อไรนี่ ถอดกางเกงเลย ใช้มือฟาด จะบอกลูกว่าถ้าปูนปั้นเจ็บ แม่ก็เจ็บด้วย"
ฝ่ายปูนปั้นช่วยเสริมว่าวิธีลงโทษของแม่ที่เขากลัวเป็นที่สุดคือไม่พูดด้วย เพราะเขาจะรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อแม่เริ่มลงโทษเขาแบบนี้ ปูนปั้นมักต้องโทรขอลุงและป้าสะใภ้คนโตมาช่วยเป็นสะพานเชื่อมให้เขาได้คุยกับแม่ทุกครั้ง
|
|
|
|
|