หลังจากก่อตั้งและดำเนินการมาเกือบ 26 ปี สุรินทร์ ออมย่า เคมิคอล (ประเทศไทย) เพิ่งแถลงข่าวเปิดตัวอย่างจริงจังเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา เหตุผลสำคัญที่ศศิศ มนต์เสรีนุสรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออกมาเปิดตัวบริษัทครั้งนี้เนื่องจากเห็นว่าแคลเซียม คาร์บอเนต สินค้าของบริษัทเริ่มมีการใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น

สุรินทร์ ออมย่า ทำธุรกิจผลิตแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งมีคุณสมบัติในการให้ความขาวและความสว่างจึงเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมสำคัญหลายประเภท ตั้งแต่กระดาษ พลาสติก ยางและสี นอกจากนี้ยังใช้เป็นส่วนผสมในยาสีฟัน ผงซักฟอก ยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ด้วย โดยบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในผลิตภัณฑ์ระดับคุณภาพสูงในประเทศกว่า 60%

ถึงแม้แคลเซียมคาร์บอเนตจะไม่เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคโดยทั่วไปมากนัก แต่ปริมาณการใช้งานในประเทศไทยมีอัตราการเติบโต เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด ตามอัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมปลายน้ำที่ใช้แคลเซียมคาร์บอเนตเป็นวัตถุดิบ ปัจจุบันประเทศไทยมีกำลังผลิตแคลเซียมคาร์บอเนตประมาณปีละ 8 แสนตัน จากผู้ผลิตในประเทศกว่า 10 ราย และผลผลิตกว่า 95% ใช้กับอุตสาหกรรมในประเทศ

สุรินทร์ ออมย่า เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในไทยด้วยกำลังการผลิต ปีละ 3.6 แสนตัน แต่ความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้บริษัทลงทุนขยายกำลังผลิตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 10 ปีด้วยวงเงินรวม 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นการเพิ่มกำลังผลิตในประเทศอีกปีละ 2 แสนตัน ใช้เงินลงทุน 550 ล้านบาท ซึ่งจะเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้ กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นนอกจากจะรองรับการขยายตัวของลูกค้ากลุ่มเดิมแล้ว ยังช่วยเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาการใช้งานแคลเซียมคาร์บอเนตในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการผลิตวัสดุใช้ในการก่อสร้างหรือนำไปใช้เป็นสารเคมีปรับปรุงดินเพื่อการเกษตรกรรม

การลงทุนในประเทศอีกโครงการหนึ่งของสุรินทร์ ออมย่า ได้แก่ การสร้างโรงแต่งแร่แคลไซต์ขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทยและยังเป็นโรงแต่งแร่ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ด้วยเงินลงทุน 250 ล้านบาท โรงแต่งแร่แห่งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้แร่อย่างคุ้มค่า ด้วยการรักษาระดับความบริสุทธิ์ของแร่และลดการสูญเสียวัตถุดิบในการผลิต มีกำลังผลิตเริ่มต้นปีละ 7 แสนตันขยายได้สูงสุดถึง 2 ล้านตัน

"การสร้างโรงแต่งแร่จริงๆ แล้วทำให้ผลกำไรเราลดลง เพราะต้นทุนดำเนินการในปัจจุบันยังสูง แต่จะมีความคุ้มค่าในระยะยาว โรงแต่งแร่จะช่วยให้ yield เพิ่มขึ้นได้ปีละประมาณ 20% และแหล่งแร่ที่มีอยู่ก็จะใช้ได้นานขึ้น" ศศิศ มนต์เสรีนุสรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สุรินทร์ ออมย่า กล่าว

แหล่งแร่และโรงงานของสุรินทร์ ออมย่า อยู่ที่ จ.ลพบุรี คาดว่าปริมาณที่มีอยู่จะเพียงพอต่อการผลิตมากกว่า 50 ปี

นอกจากนี้ยังมีโครงการลงทุนต่างประเทศแห่งแรกที่เวียดนาม โดยสุรินทร์ ออมย่า กำลังก่อสร้างโรงงานผลิตแคลเซียมคาร์บอเนต ขนาดกำลังผลิตปีละ 1 แสนตัน ด้วยมูลค่าลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งมีกำหนดเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อส่งให้กับโรงงานอุตสาหกรรมในเวียดนามและส่งออกไปยังประเทศใกล้เคียง