Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มิถุนายน 2538








 
นิตยสารผู้จัดการ มิถุนายน 2538
"โอเอซิส" ของวีรเดช เตชะไพบูลย์ ขายยกตึกง่ายกว่าเก็บไว้ให้เช่า             
 


   
search resources

ศรีนครแลนด์
วีระเดช เตชะไพบูลย์
Real Estate




วีระเดช เตชะไพบูลย์ กรรมการบริษัทศรีนครแลนด์ จำกัด กำลังประกาศขายโครงการโอเอซิสอาคาร 1 เหมายกทั้งตึกบนถนนเพชรบุรีในราคา 400 กว่าล้านบาท

บนที่ดินติดถนนจำนวน 1 ไร่ครึ่งบริเวณแยกอโศก-เพชรบุรี ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางที่เชื่อมถนนสุขุมวิท รัชดาภิเษก และพระราม 9 ไว้ด้วยกันนั้น เป็นทำเลที่วีรเดชเลือกไว้ทำโครงการที่อยู่อาศัย โอเอซิสในนามบริษัทคริสตัลซิตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ โดยวาดแผนการไว้ว่าจะทำเป็นตึกสูง 2 ตึก ตึกแรกจะสูง 25 ชั้น ตึกที่ 2 สูง 35 ชั้น แต่ละชั้นจะมีที่อยู่อาศัยเพียง 8 ยูนิตเท่านั้น และได้เริ่มงานขายตึกหลังที่ 2 ก่อนเมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมาในราคาเริ่มต้นที่ 1.6 ล้านบาทในขนาด 42 ตร.ม.

ในขณะที่ความคืบหน้าทางด้านการขายเดินหน้าไปกว่า 50% งานก่อสร้างจะเริ่มลงมือตอกเสาเข็มในเดือนเมษายนที่ผ่านมา วีรเดชก็ประกาศขายตึกแรกที่อยู่ด้านหน้า โดยผ่านทางบริษัทโจนส์ แลงก์ วูธทั่น เขาให้เหตุผลว่า

"ถ้าขายไม่ได้ก็ไม่มีปัญหาก็สร้างต่อไป ขายไม่หมดก็เอาไว้ปล่อยเช่าแต่ที่ผมประกาศขายยกตึก ก็เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและจะได้เงินสดหมุนเวียนเข้ามาด้วย"

วีรเดชหรือที่รู้จักกันดีว่า "เสี่ยจุ๊บ" ลูกชายคนเล็กของอุเทนไม่ใช่หนุ่มน้อยหน้าใส อ่อนประสบการณ์ด้านพัฒนาที่ดินที่คอยเดินตามหลังพ่อ เหมือนเมื่อ 6-7 ปีก่อนเมื่อคราวจบการศึกษาและกลับมาเมืองไทยใหม่ๆ อีกแล้ว แต่วันนั้ เขาคือทายาทของอุเทนที่ถูกวางบทบาทให้เป็นผู้ดูแลธุรกิจด้านพัฒนาที่ดินในบริษัทศรีนครแลนด์ และเป็นกรรมการในบริษัทต่างๆ ด้านพัฒนาที่ดินทั้งส่วนตัวและของบริษัทในเครืออีกประมาณ 11 บริษัท รวมทั้งยังมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายประจำสำนักประธานกรรมการธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) อีกด้วย

การพลิกพลิ้วในเรื่องกลยุทธ์ในการทำธุรกิจจึงมีอยู่พอตัว หลายโครงการของเขาอาจจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม แต่ก้ไม่มีโครงการไหนที่เจ็บตัวอย่างหนักหนา

"ทุกวันนี้ในเรื่องของการทำโครงการคุณพ่อไม่เคยมายุ่ง ถ้ายุ่งก็จะเป็นเรื่องใหญ่ไปเลย หรือไม่ก็เรื่องเล็กกระจิริดไปเลย" สำหรับเรื่องที่เป็นเรื่องเล็กๆ นั้นถูกขยายความต่อว่า เช่นเรื่องของการติดตั้งป้ายชื่อในโครงการก็จะถูกทักท้วงว่าวางตรงนั้น ตรงนี้ ไม่สวย ย้ายไปวางตรงโน้นจะเข้าท่ากว่า อะไรอย่างนั้น

ถ้าจะดูกลยุทธ์ในการทำงานของเขาจะพบได้ว่า เขาเป็นคนหนุ่มที่ค่อนข้างระมัดระวังในการทำธุรกิจ จะเห็นได้จากการเข้าร่วมหุ้นกับกลุ่มต่างๆ ในวงการเดียวกันเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงเป็นเรื่องที่เขาได้ทำมานานแล้วในหลายโครงการ นับตั้งแต่เข้ามารับผิดชอบเต็มตัวในบริษัทพัฒนาที่ดิน เช่น เข้าร่วมทุนกับถนอม อังคณะวัฒนา เพื่อนรุ่นพี่เพื่อตั้งบริษัทสาธรคอร์เปอเรชั่น ทำโครงการสินสาธรร่วมกับกลุ่มเพื่อนฝูงตั้งบริษัทภูมิทรัพย์ ทำโครงการมาสเตอร์วิว เอ็กซ์คลูซีฟ ร่วมกับกลุ่มเคว กรุ๊ป จากฮ่องกง ทำโครงการโอเอซิส และเมื่อกลางปีที่ผ่านมาก็ร่วมกับกลุ่มเพื่อนตั้งบริษัทไบรตั้นโฮลดิ้ง เพื่อทำโครงการเกี่ยวกับเรื่องอสังหาริมทรัพย์

จากการร่วมทุนผลพวงที่ได้ตามมาก็คือ เป็นการสร้างพันธมิตรไปด้วย นอกจากนั้นวีรเดชยังให้ความสำคัญในการเข้าไปร่วมทำกิจกรรม และเป็นกรรมการในสมาคมต่างๆ ทางด้านที่อยู่อาศัย เช่น สมาคมการค้าอาคารชุด และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร

ส่วนเรื่องการเข้าตลาดหลักทรัพย์นั้นวีรเดชบอกว่าศรีนครแลนด์คงไม่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เขามีความเห็นว่าเจ้าของกิจการที่ยอมผันตัวเองเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์นั้นมีอยู่ 2 เหตุผลใหญ่ๆ คือ 1. ต้องการโตและขยายกิจการอย่างรวดเร็ว 2. ต้องยอมให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นวิจารณ์การทำงานของตนได้เต็มที่ เพราะเป็นบริษัทที่เป็นของมหาชนแล้ว

"สำหรับผมไม่ต้องการที่จะขยายงานมากกว่านี้ มูลค่าการลงทุนที่ทำอยู่ปีหนึ่งไม่กี่พันล้านบาทยอดขายประมาณ 600-700 ล้านบาท ผมก็พอใจแล้ว และการยอมให้คนอื่นซึ่งไม่ได้เข้ามาทำงานมาชี้หน้าว่าก็คงยอมรับยากนอกจากเป็นคนในครอบครัวเราเท่านั้น"

ก็นับว่าความคิดของเขาแตกต่างจากคนอื่นในตระกูล เพราะไม่ว่าโครงการเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ที่วิรุฬ เตชะไพบูลย์ รับผิดชอบ หรือโครงการนิคมอุตสาหกรรมบางปู ที่พี่เขยรับผิดชอบต่างกำลังเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ทั้งสิ้น

ทุกวันนี้วีรเดชกำลังมีโครงการที่รับผิดชอบอยู่ในมือหลายโครงการนอกเหนือจากโอเอซิส เช่น โครงการศรีราชานคร โครงการแฮมป์ตันเพลส ในซอยลาดพร้าว 126 โครงการไบรตั้นเพลสในซอยศูนย์วิจัย เขาบอกว่าปีนี้เขาคงไม่พัฒนาโครงการอื่น นอกจากนี้เพราะภาวะการแข่งขันรุนแรงเหลือเกิน การหันมาพัฒนาองค์กรข้างในในเรื่องประสิทธิภาพของงาน และต้นทุนเป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่าสร้างโครงการแล้วขายไม่ออก

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us