ชนายเกลนน์ ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารภาคพื้นเอเชีย บริษัท มอเตอร์ อิมเมจ เอนเตอร์ไพร์ส จำกัด ประเทศสิงคโปร์ ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ซูบารุในภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยว่า ในช่วงระยะ 1-2 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นในการยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์สินค้า โดยเฉพาะเรื่องการบริการหลังการขาย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแบรนด์ระยะยาว เหตุนี้จึงได้มีการทำโชว์รูมครบวงจร เพื่อนำไปใช้ในประเทศต่างๆ ที่บริษัทฯ ถือสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ สิงคโปร์, มาเลเซีย, ไทย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, จีน และฮ่องกง

“โชว์รูมครบวงจรนี้ได้เริ่มแห่งแรก ที่ประเทศมาเลเซียเมื่อประมาณเกือบ 2 ปีที่แล้ว จากนั้นมาเป็นจีน และอินโดนีเซีย ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ Subaru Hub และในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าจะเปิดตัวที่ฟิลิปปินส์ ส่วนเมืองไทยขณะนี้กำลังก่อสร้างคาดว่าจะเปิดตัวได้ในต้นปีหน้า และปลายปีนี้น่าจะมีการลงทุนในจีนเพิ่มอีกแห่ง รวมการลงทุนประมาณกว่าพันล้านบาท”

การที่บริษัทฯ เน้นการลงทุนในเรื่องของการบริการครบวงจร ตั้งแต่ขาย บริการหลังการขาย และอะไหล่ หรือ 3S (Sale, Service, Spar Parts) ถือเป็นนโยบายบายหลัก เพราะหากจะผลักดันยอดขายให้มีปริมาณ ที่สามารถรองรับแผนประกอบรถยนต์ซูบารุในภูมิภาคนี้ได้ จะต้องมียอดขายที่มีปริมาณที่มากพอสมควร ดังนั้นจะเน้นเพียงการขายอย่างเดียว คงไม่สามารถช่วยผลักดันได้มากนัก การสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้า โดยเฉพาะการบริการหลังการขาย จึงน่าจะทำให้มีความมั่นคงมากที่สุด

นายตันกล่าวว่า ทั้งนี้แผนประกอบซูบารุในภูมิภาคเอเชีย น่าจะเริ่มได้ภายใน 1-2 ปีข้างหน้านี้ โดยใช้โรงงานประกอบของตันจงกรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์รายใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของมอเตอร์ อิมเมจฯ ที่ประเทศมาเลเซียในการประกอบ ซึ่งขณะนี้มีโรงงานประกอบอยู่ 2 โรง โดยโรงงานแห่งแรกปัจจุบันประกอบรถยนต์นิสสัน ยูดี และเรโนลต์ ส่วนโรงงานที่สองเพิ่งสร้างเสร็จ เบื้องต้นเป็นการช่วยเพิ่มกำลังการผลิตโรงงานแห่งแรก หากจะประกอบซูบารุจึงไม่ยากเพียงปรับไลน์การผลิตก็ดำเนินการได้ทันที

“หากขึ้นไลน์ประกอบซูบารุในมาเลเซีย คาดว่าจะเริ่มประกอบซูบารุ ฟอร์เรสเตอร์ เป็นโมเดลแรก ซึ่งหากประกอบแล้ว และใช้สิทธิประโยชน์จากอาฟต้า ที่มาเลเซียจะเริ่มปรับลดภาษีในเร็วๆ นี้ ส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ที่เราเป็นตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาคนี้ และผลของการประกอบซีเคดีในอาเซียน จะทำให้ราคารถยนต์ซูบารุที่ขายในภูมิภาคนี้ รวมทั้งประเทศไทยมีอัตราที่ต่ำลง และได้รับการตอบรับจากลูกค้ามากขึ้น”

ส่วนเป้าหมายการขายรถยนต์ซูบารุในภูมิภาคนี้ นายตันกล่าวว่า ปีนี้ซูบารุได้รับการตอบรับที่ดีมาก มียอดขายเติบโตสูงเกือบ 50% โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมียอดขายไปแล้วประมาณ 1,600 คัน ซึ่งคาดว่าสิ้นสุดปีนี้น่าจะทำยอดขายในภูมิภาคนี้ไม่ต่ำกว่า 3,500 คัน เติบโตมากกว่าปีที่แล้วที่มียอดขาย 2,500 คัน โดยตลาดใหญ่สุดอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และจีนเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงมาก ปัจจุบันมียอดขายเป็นอันดับสองของภูมิภาค

“ไทยเป็นอีกตลาดที่มีอัตรายอดขายเป็นที่น่าพอใจ โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ประมาณ 150 คัน จากปีที่แล้วที่มียอดขายประมาณ 80 คัน นับว่าเติบโตเกือบเท่าตัว เหตุนี้บริษัทฯ จึงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในไทย โดยเฉพาะในส่วนของโชว์รูมครบวงจร ที่ถนนเสรีไทย ลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ในต้นปีหน้า” นายตันกล่าว