Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มิถุนายน 2538








 
นิตยสารผู้จัดการ มิถุนายน 2538
ณัฐวุฒ จิตะสมบัติ ภารกิจใหม่ที่สยามทีวี ที่คงไม่ไม่ซ้ำรอยสยามกล             
 


   
search resources

สยามทีวี แอนด์ แมเนจเมนต์
ณัฐวุฒ จิตะสมบัติ
News & Media




ชื่อของณัฐวุฒ จิตะสมบัติ ถูกรือฟื้นสู่ความทรงจำอีกครั้งในงานแถลงข่าวการดำเนินโครงการโทรทัศน์เสร ระบบยูเอชเอฟ ของกลุ่มสยามทีวี ด้วยตำแหน่งผู้อำนวยการบริหาร โครงการสถานีโทรทัศน์ยูเอชเอฟ หลังจากที่เงียบหายไปเกือบ 1 ปี พร้อมกับการถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการใหญ่/ซีอีโอ กลุ่มสยามของคุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช

งานใหม่ในครั้งนี้นับเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งสำหรับเขา

ณัฐวุฒ เป็นหนึ่งใน "สมอง" ที่ไหลออกจากไอบีเอ็ม ประเทศไทย ในช่วง 5 ปีที่แล้ว เพื่อนร่วมรุ่นของเขาที่ออกมาในช่วงเวลาเดียวกัน และโลดแล่นอยู่ในแวดวงธุรกิจไอทีมีหลายคน เช่น สมประสงค์ บุญยะชัย กรรมการผู้อำนวยการบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (เอไอเอส) บริษัทในเครือชินวัตร รับสัมปทานโทรศัพท์มือถือระบบเซลลูลาร์ 900 พัลลภ นาคพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทล็อกซบิท ในเครือล็อกซเล่ย์

ตลอดชีวิตการทำงาน 10 ปีในไอบีเอ็ม ณัฐวุฒยืนยันว่าเขาไม่ใช่เทคนิคัล แต่เขาเติบโตมาจากเซลส์แมนโดยภาคราชการเป็นลูกค้ากลุ่มแรกที่ถูกมอบหมายให้ ซึ่งในเวลานั้นนิวัฒน์ บุญทรง ที่ปัจจุบันนั่งเก้าอี้ใหญ่ในบริษัทชินวัตรเป็นผู้ดูแลกลุ่มลูกค้านี้อยู่ หลังจากนั้นได้รับมอบหมายให้ดูแลกลุ่มลูกค้าอื่นๆ ทั้งภาคธนาคาร ตลอดจนบริษัทคู่ค้า สินค้าพีซี และลูกค้าภาคอุตสาหกรรม ซึ่งตำแหน่งสุดท้ายก่อนลาออกคือ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดภาคอุตสาหกรรม

"ผมเป็นหนึ่งในพนักงานของไอบีเอ็มไม่กี่คน ที่มีโอกาสได้รับผิดชอบลูกค้าทุกกลุ่มของไอบีเอ็ม" ณัฐวุฒเล่า

กรณีการไปร่วมงานกับกลุ่มสยามกลการ เนื่องมาจากการที่เขาได้มอบหมายให้ดูแลกลุ่มลูกค้าภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะต้องรับผิดชอบกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นทุกกลุ่มที่เข้ามาลงทุนในไทย รวมทั้งสยามกลการด้วย จากจุดนี้เองทำให้เขาได้พบกับคุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช และถูกชักชวนให้มาร่วมงานในบริษัทสยามกลการ ซึ่งกำลังมีโครงการใหม่เกิดขึ้น

ชื่อเสียงของณัฐวุฒเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการพร้อมกับกิจกรรมใหม่ของสยามกลการ เพราะเขาได้รับความไว้วางใจจากคุณหญิงพรทิพย์ให้เป็นผู้บุกเบิกโครงการสำคัญๆ อาทิ การจัดตั้งกลุ่มสยาม, การวางระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อให้คุณหญิงสามารถเรียกดูข้อมูลได้ตลอดเวลา

แต่ในที่สุดความขัดแย้งระหว่างพี่น้องในตระกูลพรประภา ทำให้คุณหญิงพรทิพย์ต้องพ้นไปจากสยามกลการ ซึ่งส่งผลให้ชีวิตการทำงานของณัฐวุฒในสยามกลการต้องสิ้นสุดไปด้วย

หลังลาออกจากกลุ่มสยาม ณัฐวุฒได้ใช้เวลา 1 ปีเต็มช่วยงานคุณหญิงพรทิพย์ดูแลกิจการสยามซูบารุ, สยามวิลสัน, เอสซีเอสคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นกิจการของคุณหญิงและเกษม ณรงค์เดช ผู้เป็นสามี

กลุ่มสยามทีวี แอนด์ แมเนจเมนต์ เป็นสถานที่ทำงานแห่งที่ 4 ที่ณัฐวุฒได้เลือกเริ่มต้นชีวิตการทำงานอีกครั้งตามการชักชวนของบรรณวิทย์ บุญญรัตน์ ประธานกรรมการบริหารของสยามทีวี ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สำนักทรัพย์สินได้พุ่งเป้าขยายกิจการทางด้านธุรกิจมีเดีย และสื่อสารโทรคมนาคมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการทีวีเสรีระบบยูเอชเอฟ อันเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มสยามทีวีเพื่อก้าวไปสู่ธุรกิจมัลติมีเดียจึงต้องการบุคลากรไปร่วมบุกเบิกกิจการใหม่ๆ นี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งบรรณวิทย์ได้ใช้สายสัมพันธ์เดิมดึงมืออาชีพไว้ได้หลายวงการ

ณัฐวุฒได้รู้จักกับบรรณวิทย์มานานแล้ว ตั้งแต่สมัยทำงานอยู่ในไอบีเอ็ม และถูกมอบหมายให้ดูแลลูกค้าธนาคาร ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับโครงการเอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่บรรณวิทย์เป็นเจ้าของไอเดียเกิดขึ้นและไอบีเอ็มได้ถูกเลือกให้เป็นผู้วางระบบงาน

ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ มูลค่าหลายหมื่นล้าน คือ ภารกิจที่ณัฐวุฒได้รับมอบหมายซึ่งได้สร้างความแปลกใจให้กับใครหลายคน เพราะเขาไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาก่อน

ทีวีช่องใหม่ระบบยูเอชเอฟ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะต้องมีสถานีถ่ายทอด 30 สถานี ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ให้ประชาชนรับชมได้ถึง 96.7% ของทั้งหมดและต้องทดลองออกอากาศภายใน 18 เดือน และแพร่ภาพอย่างเป็นทางการภายใน 24 เดือน รวมทั้งการวางผังรูปแบบรายการให้สอดคล้องกับผู้ชม เพื่อหาผลประโยชน์ตอบแทนให้กับรัฐ รวม 25,000 ล้านบาท ตลอดอายุสัมปทาน 30 ปีไม่รวมรายได้ที่ต้องมีอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสิ่งท้าทายอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มสยามทีวี และตัวณัฐวุฒเอง

ณัฐวุฒชี้แจงกับ "ผู้จัดการ" ว่าภารกิจของเขานั้นไม่ใช่นายสถานีโทรทัศน์ หรือผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ แต่เขาเป็นผู้ประสานงาน และจัดการโครงการเพื่อให้ทีวีเสรีเกิดขึ้นได้ตามที่ระยะเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น

หน้าที่ของผู้ประสานงาน คือ การที่ต้องจัดการให้แต่ละฝ่ายที่จะประกอบมาเป็นสถานีโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ อาทิ ฝ่ายเทคนิค ฝ่ายรายการ ฝ่ายอุปกรณ์ ฝ่ายการตลาดที่มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอยู่แล้วนั้น ทำงานไปตามที่กำหนดไว้

"ฝ่ายเทคนิคจะมีผู้เชี่ยวชาญจากภายในองค์กรและได้ฝ่ายวิศวกรรมจากบีบีซีลอนดอน มาช่วยในการวางแผนติดตั้งทั่วประเทศ รวมทั้งการคัดเลือกอุปกรณ์ จะมีผู้ชำนาญมาช่วยในการคัดเลือก หรือฝ่ายรายการจะมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ จะมาจากกลุ่มและผู้ถือหุ้นที่จะตั้งเป็นคณะอนุกรรมการขึ้นมา เพื่อคัดเลือกรายการและการตลาดจะต้องวางแผนไว้ว่า จะทำอย่างไรที่จะให้มีการผลิตโทรทัศน์ที่จะรับสัญญาระบบยูเอชเอฟหรือมีการผลิตเสาอากาศระบบนี้ และให้ประชาชนติดตั้งซึ่งผมต้องเป็นผู้ประสานงานให้กับแต่ละฝ่ายเดินหน้าไปตามที่กำหนดไว้ เพราะแต่ละฝ่ายทำหน้าที่ของเขาเอง" ณัฐวุฒชี้แจง

แม้จะไม่ต้องลงมือปฏิบัติงาน แต่การเป็นผู้บริหารโครงการใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นให้เดินหน้าไปอย่างลงตัว และต้องเปิดบริการให้ทันภายใน 24 เดือนจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

แต่ณัฐวุฒเชื่อว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคนัก เพราะจากประสบการณ์ในการบริหารโครงการใหญ่ๆ ในสมัยที่อยู่ไอบีเอ็มจะเป็นประโยชน์ที่ทำให้เขาสามารถทำงานในตำแหน่งนี้ได้

ภารกิจของเขากับการบริหารโครงการโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟนี้จะเริ่มหมดลง เมื่อเริ่มเปิดให้บริการในอีก 24 เดือนข้างหน้านี้ และเมื่อบริษัทสยามอินโฟร์เทนเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนระหว่างผู้ถือหุ้น 12 ราย ที่จะถูกจัดตั้งขึ้นมารับหน้าที่บริหารโครงการทีวีระบบยูเอชเอฟต่ออย่างเป็นทางการ

ทว่า หน้าที่ของเขาในบริษัทสยามทีวี แอนด์ แมเนจเมนท์ ยังไม่หมด เพราะเขาจะต้องไปเริ่มต้นบริหารโครงการใหม่ในสายธุรกิจมีเดีย ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และคงหนีไม่พ้นเคเบิลทีวี และเมื่อถึงวันนี้ชื่อของณัฐวุฒคงปรากฏขึ้นอีกครั้งในภารกิจที่คล้ายคลึงกันนี้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us