ยักษ์ใหญ่ 3 บริษัท “บีอีซี เทโร – ปิโก - เอเชียคอนเกรส” ผนึกกำลังร่วมทุนเปิดบริษัทบีอีซี-เทโร เอ็กซ์ซิบิชั่นส์ ดำเนินธุรกิจจัดเอ็กซ์ซิบิชั่นส์ –คอนเสิร์ต ฉีกแนวตลาดเจาะคอนซูเมอร์ระดับบน ทุ่ม 50-100 ล้านบาท ผุดฮอลล์ใหญ่ย่านใจกลางเมือง เล็งอาร์ซีเอหรือรัชดา ปีแรกกวาดรายได้ 100 ล้านบาท บ่นอุบธุรกิจจัดคอนเสิร์ตซบ ด้านไทยทิกเก็ต มาสเตอร์โกอินเตอร์ ขายแฟรนไชส์ต่างประเทศ สิ้นปีรายได้บีซีอี เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์โต 10-15% กวาด 1,500 ล้านบาท

นายไบรอัน แอล.มาการ์ ประธานกรรมการ บริษัท บีอีซี – เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจการจัดแสดงสินค้าและเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อว่า บริษัทบีอีซี-เทโร เอ็กซ์ซิบิชั่นส์ จำกัด เกิดขึ้นจากการร่วมทุน 3 บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ประกอบด้วย บริษัท บีอีซี – เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) มีความเชี่ยวชาญด้านบันเทิงซึ่งมีด้วยกัน 8 แผนก ได้แก่ คอนเสิร์ต ดนตรี มัลติมีเดียและ รายการโทรทัศน์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 51%

ส่วนบริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) มีความเชี่ยวชาญการจัดนิทรรศการชั้นนำ การออกแบบและตกแต่งบูธแสดงสินค้า มีสัดส่วนการถือหุ้น 39% และบริษัท เอเชียคอนเกรส อีเว้นท์ (จำกัด) มีความเชี่ยวชาญจัดนิทรรศการและการประชุมทั้งในและต่างประเทศ มีสัดส่วนการถือหุ้น 10% ทั้งนี้ บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็กซ์ซิบิชั่น มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท

“ปัจจัยที่ตั้งบยริษัทร่วมทุนนี้ เนื่องจากตลาดเอ็กซ์ซิบิชั่นส์เป็นตลาดใหญ่ และมีอัตราการเติบโตที่ดี อีกทั้งที่ผ่านมาสถานที่จัดงานของคู่แข่งที่มีอยู่ในตลาด ส่วนใหญ่จะไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองมากนัก แต่สำหรับบีอีซี – เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์มีสถานที่จัดงาน คือ บีอีซี เทโร ฮอลล์ อยู่ใจกลางเมือง”

ล่าสุดได้ทุ่มงบ 50-100 ล้านบาท เพื่อสร้างสถานที่จัดงานขึ้นใหม่ หลังจากสถานที่เดิม “บีอีซี เทโร ฮอลล์” พื้นที่ 1 หมื่นตารางเมตรที่สวนลุมไนท์บาซ่าร์ จะหมดสัญญาลงในช่วงเดือนมีนาคมปีหน้านี้ โดยขณะนี้ได้เตรียมพิจารณาสถานที่ใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ พื้นที่ในย่านอาร์ซีเอซึ่งเป็นพื้นที่ของบีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์เป็นเจ้าของ มีจำนวนทั้งหมด 10 ไร่ และ ย่านรัชดา ในเบื้องต้นได้วางขนาดของสถานที่จัดงาน 1.5 หมื่นตารางเมตร สามารถจุคนได้ 1 หมื่นคน โดยคาดว่าจะสรุปผลได้ในช่วงปลายปีนี้

แนวทางการดำเนินธุรกิจจะเน้นการจัดเอ็กซ์ซิบิชั่นส์ และการจัดคอนเสิร์ตเป็นหลัก ภายใต้แนวคิดหลักของงานแสดงสินค้า คือ Innovative หรือ ความแปลกใหม่, Informative หรือพร้อมด้วยสาระ และInspirational หรือจุดประกายแห่งแรงบันดาลใจ เจาะกลุ่มคอนซูเมอร์ระดับบนมีรายได้ 4-5 หมื่นบาทต่อเดือน เนื่องจากมีคู่แข่งขันน้อยโดยมากจะเจาะกลุ่มคอนซูเมอร์ระดับแมส

นายไบรอันกล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯคาดว่าทั้งปีนี้จะเป็นผู้จัดงานเอ็กซ์ซิบิชั่นส์ 4-5 งาน ล่าสุดคว้า 2 งาน คือ งานแรก “เวิลด์ ฟอร์ วีแมน งานแสดงสินค้าและบริหารสำหรับผู้หญิงวันนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 สิงหาคมนี้ โดยคาดว่าจะมีผู้ออกร้านกว่า 100-150 ร้านค้า บนพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร และผู้เข้าชมกว่า 3-5 หมื่นคน ส่วนอีกงาน “ฮิพ ฮิพ โชว์” ภายในงานจะมีโซนไฮเทคและเทคโนโลยี โซนแฟชั่น เป็นต้น ตั้งเป้ามีผู้ร่วมออกร้านกว่า 100-150 ร้านค้า ผู้เข้าชมงาน 3.5 หมื่นคน จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคม นี้ ทั้งสองงานมีผู้สนใจออกบูธแล้ว 60% ส่วนอีก 3 งาน ได้แก่ เอ็กซ์ซิบิชั่นส์สปา สุขภาพ และกิจกรรมกลางแจ้ง ที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะสรุปได้ในเดือนกรกฎาคม นี้ โดยรายได้ในปีแรกคาดว่า 100 ล้านบาท

ชี้ภาพรวมธุรกิจคอนเสิร์ตไทยหดตัว

นายไบรอันกล่าวต่อถึงภาพรวมธุรกิจคอนเสิร์ตในช่วงครึ่งปีแรกว่า อยู่ในสภาพที่ซบเซาไม่ได้รับการตอบรับที่ดีมากนัก เนื่องจากคนไทยมีกำลังซื้อที่ลดลง ส่งผลให้รายได้ธุรกิจจัดคอนเสิร์ตลดลงบ้างแต่ไม่มากนัก โดยสัดส่วนรายได้บริษัทฯยังคงเป็น 50% รายการทีวี 50% โดยภายในครึ่งปีหลังนี้ได้เตรียมจัด 5 คอนเสิร์ตศิลปินจากต่างประเทศเข้ามาแสดง เช่น ร็อบบี้ วิลเลียม,แบล็ก อายพี ฯลฯ ส่วนธุรกิจขายตั๋วภายใต้ไทยทิกเก็ต มาสเตอร์ ขณะนี้บริษัทได้ขายแฟรนไชส์ไปยังตลาดต่างประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย ส่วนอินเดียอยู่ระหว่างการเจรจา

ผลประกอบการปีนี้ของบริษัท บีอีซี – เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10-15% หรือมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,500 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 1,200 ล้านบาท ส่วนรายได้จากธุรกิจขายตั๋วของไทยทิกเก็ต มาสเตอร์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นหลังจากที่บริษัทฯได้ขายแฟรนไชส์ให้กับต่างประเทศ จากเดิมมีรายได้ปีละ 600-700 ล้านบาท ส่วนแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในขณะนี้ บริษัทฯจะต้องชะลอไปก่อน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย โดยในปีหน้านี้ถึงจะมีการพิจารณากันใหม่อีกครั้ง