Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน23 มิถุนายน 2549
"เนวิน"ออกโรงป้อง"ไอทีวี"จี้สปน.ถกอัยการสูงสุดใหม่             
 


   
www resources

โฮมเพจ สถานีโทรทัศน์ไอทีวี

   
search resources

ไอทีวี, บมจ.
เนวิน ชิดชอบ
TV




กรณีค่าปรับ "ไอทีวี" มูลค่าเกือบ 7.6 หมื่นล้านบาทบานปลาย "เนวิน" ออกโรงปกป้องเอกชน ให้สปน.หารืออัยการสูงสุดอีกรอบ อ้างกลัวศาลปกครองสูงสุดพลิกคำพิพากษาศาลปกครองกลาง พร้อมเสนอเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการพิจารณาใหม่เพื่อหาทางไกล่เกลี่ย ด้าน "นิวัฒน์ธำรง" โต้ค่าปรับที่สมเหตุสมผลอยู่แค่ 2 พันล้านบาท ขณะที่ "ชินคอร์ป" โบ้ยไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับค่าปรับ พร้อมรับผิดชอบตามสัดส่วนการถือหุ้นเท่านั้น ส่วนราคาหุ้นขยับขึ้นเล็กน้อย จากการเก็งกำไรระยะสั้น

หลังจากที่สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีมติให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เรียกร้องค่าผลประโยชน์ตอบแทนจากบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV ที่ค้างชำระตั้งแต่ปี 2547 ตามสัญญาเข้าร่วมงานและดำเนินการสถานีโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ ข้อ 5 และเรียกร้องค่าปรับที่ไม่ได้ดำเนินการตามผังรายการตามเงื่อนไขสัญญา ข้อ 11 มูลค่ารวมกว่า 75,960 ล้านบาทโดยทันทีนั้น

วานนี้ (22 มิ.ย.) นายเนวิน ชิดชอบ รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เรียกนายรองพล เจริญพันธุ์ ปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าพบเพื่อรายงานความคืบหน้ากรณีเรียกร้องผลประโยชน์ตอบแทนจากไอทีวี จำนวน 75,960 ล้านบาท โดยนายรองพล ชี้แจงว่า จะส่งหนังสือให้ไอทีวีในวันนี้ (23 มิ.ย.) เพื่อยืนยันว่าไอทีวีต้องจ่ายค่าปรับตามวงเงินดังกล่าว

นายเนวิน ชิดชอบ รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อพิพาทค่าสัมปทานระหว่างสปน. และไอทีวี อาจจะต้องนำเข้ากระบวนการอนุญาโตตุลาการอีกครั้ง เพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของทั้ง 2 ฝ่าย ที่มีความเห็นแตกต่างกันเรื่องของค่าปรับมูลค่ามหาศาลที่ไอทีวีต้องจ่ายให้กับสปน.

"ขณะนี้ ทุกฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามสัญญาก่อนในส่วนกรณีที่ค่าปรับต่างกันต้องดูขั้นตอนกระบวนการวินิจฉัย แต่หากยังมีข้อพิพาทที่ไม่สามารถหารือร่วมกันได้ จะต้องนำกลับเข้าไปสู่กระบวนการอนุญาโตตุลากรเพื่อไกล่เกลี่ยปัญหาตามสัญญาต่อไป ขณะเดียวกันได้กำชับให้สปน. หารือกับอัยการสูงสุดอีกรอบในกรณีที่สปน. ดำเนินการปรับไอทีวีไปแล้ว แต่หากศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยออกมาไปเป็นไปตามศาลปกครองกลาง ทางออกของสปน.จะทำอย่างไรต่อไป"

นายเนวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ไอทีวีคงไม่สามารถจ่ายเงินค่าปรับจำนวน 75,960 ล้านบาท ตามที่ สปน. เรียกเก็บได้ เนื่องจากมูลค่าสูงกว่ามูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดที่ไอทีวีมีอยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าไอทีวีมีสินทรัพย์เพียง 3 พันล้านบาทเท่านั้น หากผลสรุปไอทีวีต้องจ่ายค่าปรับทั้ง 75,960 ล้านบาท ทางบริษัทคงจะยอมให้ยึดทรัพย์สินทั้งหมดแทน แล้วยกเลิกสัมปทานดังกล่าว

"เรื่องนี้ได้ส่งกระทบต่อความเชื่อมั่นในการไต่สวนความผิดของระบบอนุตุลาการของรัฐบาล เพราะระบบนี้เป็นที่ยอมรับและใช้กันทั่วโลก ดังนั้นนับจากนี้ไป รัฐบาลจะต้องเข้มงวดในเรื่องความชอบธรรมและความถูกต้องของการใช้ระบบอนุญาโตตุลาการมากขึ้น เพื่อป้องกันข้อพิพาทที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต"

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมใน 4 ประเด็นหลัก ว่า คำพิพากษาของศาลปกครองกลางยังไม่มีผลบังคับจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะพิพากษาให้คดีเป็นที่สุด ตามมาตรา 70 วรรค 2 ของพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ดังนั้น สปน. จึงยังไม่สามารถเรียกร้องค่าตอบแทนและค่าปรับดังกล่าวได้ในขณะนี้

ประเด็นที่ 2 ความแตกของการคำนวณค่าปรับนั้น ไอทีวี ได้ยืนยันว่า ค่าปรับมูลค่ากว่า 75,960 ล้านบาท ไม่สมเหตุสมผล และเป็นมุลค่าสูงกว่าค่าสัมปทานตลอดอายุสัญญา 30 ปี ถึง 3 เท่า ขณะที่ค่าปรับที่ได้จากการคำนวณของไอทีวีเองอยู่ที่ประมาณ 208 ล้านบาทเท่านั้น

ประเด็นที่ 3 ค่าปรับจากการปรับผังรายการ บริษัทไม่ได้เปลี่ยนผังรายการโดยพละการ แต่กระทำโดยสุจริตตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ซึ่งตามเงื่อนไขสัญญาข้อ 15 ถือเป็นที่สุดและผูกพันคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย นอกจากนั้นศาลปกครองกลางยังพิพากษาว่าสัญญาข้อ 15 ว่าด้วยกระบวนการอนุญาโตตุลาการมีผลบังคับใช้ในสัญญา ดังนั้น บริษัทจึงไม่ควรเสียค่าปรับใดๆ ทั้งสิ้น

ประเด็นสุดท้าย การชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนที่ค้างชำระตั้งแต่ปี 2547 พร้อมดอกเบี้ย 15% ต่อปี โดยคิดคำนวณเป็นรายวัน รวมค่าผลตอบแทนค้างชำระและดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2547 ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2549 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,709,749,314 บาท บริษัทจะดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดและตามเงื่อนไขสัญญาต่อไป

ด้านนางศิริเพ็ญ สีตสุวรรณ กรรมการบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SHIN ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ไอทีวี ชี้แจงกรณีที่เทมาเส็กจะฟ้องร้องให้ร่วมรับผิดชอบค่าปรับจำนวนดังกล่าว ว่า บริษัทเป็นเพียงผุ้ถือหุ้นไอทีวีรายหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นผู้ถือหุ้นทุกรายจะต้องรับผิดชอบต่อภาระหนี้สินของไอทีวีตามสัดส่วนการถือหุ้นของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว

"ขณะนี้ SHIN เป็นเพียงผู้ถือหุ้นไอทีวี และไม่มีข้อตกลงระหว่างกลุ่มผู้ถือหุ้นใดๆ เป็นกรณีพิเศษ ทำให้ SHIN ไม่ต้องรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทในกรณีของไอทีวี"

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นวานนี้ (22 มิ.ย.) มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามภาวะตลาดหุ้นโดยรวม ราคาต่ำสุดที่ 2.62 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ราคาสูงสุดที่ 2.94 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.34 บาท หรือ 13.08% มูลค่าการซื้อขายรวม 158.17 ล้านบาท

นายประสิทธิ์ สุจิรวรกุล นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นไอทีวี มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นลักษณะการเก็งกำไร จากที่ผ่านมาราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงมามาก แต่มองว่าเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นระยะสั้นเท่านั้น เพราะในระยะยาวแล้วสุดท้ายไอทีวี จะต้องกลับไปใช้ผังรายการเดิม

นอกจากนี้ จากกรณีที่ผู้บริหารไอทีวี ได้มีการออกมาชี้แจงข่าวในเรื่องการจ่ายปรับนั้น จะต้องให้กระบวนการศาลเป็นผู้ตัดสินสุดท้ายแล้วไอทีวีจะมีการจ่ายค่าสัมปทานอย่างไร และอยู่จ่ายเป็นจำนวนเท่าใด อย่างไรก็ตาม ไอทีวีมีโอกาสที่จะแพ้คดีได้ โดยประเมินราคาหุ้นไอทีวีปีนี้ที่ 2.50 บาท

"หากนักลงทุนจะเข้ามาเก็งกำไรหุ้นไอทีวี ควรที่จะเข้าเร็วออกเร็วเท่านั้น เพราะถือว่าหุ้นยังมีความไม่แน่นอน จึงมีความเสี่ยงในการลงทุน" นายประสิทธิ์ กล่าว

นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า การที่หุ้นไอทีวี มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นมี 2 ปัจจัย คือ จากการที่ราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงประมาณ 70% ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นปกติที่จะมีการเข้ามาเก็งกำไร และเป็นจิตวิทยาที่ผู้บริหารมีการออกมาชี้แจงในเรื่องค่าปรับ ที่มีช่องทางที่จะมีการจ่ายค่าสัปทานที่น้อยกว่า 7.5 หมื่นล้านบาท แต่ในสุดท้ายแล้วไอทีวีจะจ่ายจำนวนเท่าไรนั้นคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us