ดัชมิลล์ ตอกย้ำบัลลังก์ผู้นำตลาดนมเปี้ยวพร้อมดื่ม เท 500 ล้านบาท ปั้น”ดีพลัส” บูมตลาดนมเปรี้ยวระดับพรีเมียม ชูจุดขาย “ดื่มนมเปรี้ยว เคี้ยวคอลลาเจน” อัดฉีดงบตลาด 100 ล้านบาท ดึงพอลล่า เทเลอร์ขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์ เจาะหญิงไทยใส่ใจสุขภาพ มั่นใจสิ้นปี 2550 ตลาดใหม่เกิดมีมูลค่า 400 ล้านบาท

นางสุวิมล ธันวารชร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แดลี่ พลัส จำกัด บริษัทในเครือดัชมิลล์ เปิดเผยว่า แนวทางในการทำตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่มของบริษัทฯจากนี้ จะยึดถึงการออกสินค้าให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคคนไทยมากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพ รวมทั้งการพัฒนาสินค้าจะต้องครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกระดับ หลังจากที่ผ่านมานมเปรี้ยวพร้อมดื่มดัชมิลล์สามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดนมเปรี้ยวระดับแมสครองส่วนแบ่งมากกว่า 50% จากมูลค่าตลาดรวมนมเปรี้ยวพร้อมดื่มผสมน้ำผลไม้กว่า 4,000 ล้านบาท

ล่าสุดได้ทุ่มงบกว่า 500 ล้านบาท พัฒนานมเปรี้ยวพร้อมดื่มผสมคอลลาเจนภายใต้แบรนด์ "ดีพลัส" เพื่อสร้างเซกเมนต์ใหม่ในตลาดนมเปรี้ยวชนิดไม่มีน้ำผลไม้เป็นส่วนผสม โดยวางโพซิชั่นนิ่งเป็นนมเปรี้ยวพร้อมดื่มระดับพรีเมี่ยม ในรูปแบบยูเอชทีราคา 12 บาท แตกต่างจากสินค้าคู่แข่งที่อยู่ในตลาด อาทิ ยาคูลท์ จะมีบรรจุภัณฑ์ขวดในรูปแบบพาสเจอร์ไรซ์ ราคา 6 บาท โดยดีพลัสวางกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้หญิงที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพอายุ 18-35 ปี

โดยทุ่มงบการตลาด 100 ล้านบาท ดึง”พอลล่า เทเลอร์” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยเป็นตัวแทนผู้หญิงที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ รวมทั้งสามารถสื่อสารสโลแกน"ดื่มนมเปรี้ยว เคี้ยวคอลลาเจน" ซึ่งปัจจุบันในตลาดนี้มีผู้นำตลาด คือ ยาคูลล์ ครองส่วนแบ่งมากกว่า 50% ส่วนอันดับสองเป็นบีทาเก้น

ทั้งนี้บริษัทฯได้เตรียมสื่อสนับสนุนอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น สื่อโฆษณาทางรถเมล์ ป้ายรถเมลล์ 30 แห่ง พร้อมทั้งการแจกสินค้าตัวอย่าง 2 ล้านกล่อง เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการทดลอง ขณะที่ด้านช่องทางจำหน่ายจะเน้นในช่องทางโมเดิร์นเทรด และมินิมาร์ท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในกรุงเทพฯและหัวเมืองหลักก่อน ส่วนตลาดจังหวัดจะไม่เน้นมากนัก เนื่องจากเป็นสินค้าที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ

"พฤติกรรมของผู้บริโภคไทยมีความฉลาดมากขึ้น และต้องการสิ่งที่สามารถจับต้องได้ ดังนั้นบริษัทจึงใช้คอลเจลลี่ สามารถเคี้ยวได้ซึ่งเป็นจุดเด่นของสินค้านี้ ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่าดีพลัส จะช่วยดึงกลุ่มเป้าหมายที่ไม่เคยดื่มนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม รวมทั้งผู้ดื่มในตลาดเครื่องดื่มน้ำผลไม้ อาหารเสริม และนมสวิตช์ชิ่งมาดื่มนมเปรี้ยวพร้อมดื่มเซกเมนต์ใหม่กันมากขึ้น”

แนวโน้มตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่มไม่มีน้ำผลไม้มูลค่า 4,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตมากกว่าตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่มผสมน้ำผลไม้ อย่างไรก็ตามหลังจากที่บริษัทสร้างนมเปรี้ยวพร้อมดื่มระดับพรีเมียมคาดว่าภายในสิ้นปี 2550 จะมีสัดส่วน 10% ของตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่มชนิดไม่มีน้ำผลไม้เป็นส่วนผสม 4,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าตลาด 400 ล้านบาท