Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 มิถุนายน 2549
เศรษฐกิจดิ่งดันบาร์เทอร์คาร์ดบูม             
 


   
www resources

โฮมเพจ บาร์เทอร์คาร์ด (ประเทศไทย)

   
search resources

บาร์เทอร์คาร์ด (ประเทศไทย)
Barter Card




บาร์เทอร์คาร์ดสบช่องเศรษฐกิจชะลอ เดินหน้ารุกธุรกิจแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการในรอบ 8 ปี พร้อมเปิดตัวแคมเปญใหม่ “บาร์เทอร์คาร์ด จั๊ม สตาร์ท” หวังเจาะธุรกิจขนาดกลางและย่อม พัฒนาระบบใหม่สอดรับการค้าข้ามพรมแดน ตั้งเป้าสมาชิกเพิ่มปีละ 700 รายและยอดมูลค่าการแลกเปลี่ยนทางการค้าสิ้นปีกว่า 1 พันล้านเทรดบาท

นายเกรแฮม เบรน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บาร์เทอร์คาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจแลกซื้อ–ขายสินค้าและบริการต่างๆ เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯเปิดดำเนินการในไทยตั้งแต่ปี 2541 ปัจจุบันพบว่าบริการบาร์เทอร์คาร์ดได้รับการตอบรับเป็นอย่างมากจากสมาชิกหรือบริษัทที่ต้องการหาวิธีลดรายจ่ายหรือบริหารจัดการต้นทุนภายในองค์กร ยิ่งในสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ถดถอยและมีค่าครองชีพสูงบริการบาร์เทอร์คาร์ดยิ่งมีความเหมาะสมเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯมีอัตราการเติบโตปีละกว่า 23-25% และมียอดการแลกซื้อ-ขายมากกว่า 45 ล้านบาทต่อเดือน โดยบริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายการสร้างมูลค่าการแลกเปลี่ยนทางการค้าภายในปีนี้ที่ 1,000 ล้านเทรดบาท

“บาร์เทอร์คาร์ดเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถวัดสภาพเศรษฐกิจได้ ซึ่งหากเศรษฐกิจไม่ดีเงินหมุนเวียนในระบบของลูกค้าก็จะมีน้อย เพราะลูกค้าไม่อยากใช้จ่ายเงินสด และหันมาใช้จ่ายแบบบาร์เทอร์คาร์ดมากขึ้น ตรงนี้สามารถช่วยลดต้นทุนให้ได้ 15-20% แต่หากภาวะเศรษฐกิจดีลูกค้าก็จะยิ่งเข้ามาในธุรกิจนี้กันมากขึ้น”

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้บริษัทฯเตรียมรุกทำตลาดมากขึ้นในรอบ 8 ปี ภายใต้ 2 แนวทางหลัก ได้แก่ “นโยบาย โอกาสทองทางธุรกิจ ด้วยระบบบาร์เทอร์คาร์ด” และ “นโยบายการเก็บรักษาเงินสดในมือคุณ” โดยจะเน้นการทำตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก

พร้อมกันนี้ บริษัทฯได้ทุ่มงบประมาณกว่า 1,200,000 เทรดบาท จัดแคมเปญ “บาร์เทอร์คาร์ด จั๊ม สตาร์ท” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายธุรกิจขนาดใหญ่ กลาง และเล็กมีความเข้าใจและรู้จักวิธีการใช้บาร์เทอร์คาร์ด เพื่อประโยชน์ด้านการค้า , การเพิ่มสภาพคล่อง และการประหยัดเงินสดในมือ โดยแคมเปญนี้เปิดโอกาสให้ผู้สนใจสร้างสรรค์ไอเดียชิงเงินรางวัล 1 แสนเทรดบาท เริ่มตั้งแต่ 15 มิถุนายน - 15 กันยายน 2549

พัฒนาระบบสอดรับการค้าข้ามพรมแดน

นอกจากนี้บาร์เทอร์คาร์ดยังได้พัฒนาระบบ “โกลบอล บาร์เทอร์ ซิสเต็ม” ซึ่งป็นแนวคิดทางการค้าแบบแลกซื้อ-ขายสินค้าและบริการที่สามารถปรับใช้ได้ทุกสถานการณ์ โดยสามารถใช้ซื้อขายกับกลุ่มสมาชิกจากทั่วโลกได้ รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ เช่น ระบบออนไลน์ 24 ชม., การซื้อขายผ่านระบบอิเล็กโทรนิกส์ (ETT), ระบบเสียงโต้ตอบ (IVR) เป็นต้น

“แนวโน้มระบบโกลบอล บาร์เทอร์ ซิสเต็มกำลังได้รับความนิยม อาทิ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในระดับนานาชาติ และการบริการด้านการท่องเที่ยวในต่างประเทศ เป็นต้น”

ขณะนี้บริษัทฯมีฐานสมาชิกในหลายธุรกิจกว่า 2,000 ราย อาทิ โรงแรม,สปา,ร้านทำผม, เอนเตอร์เทนเมนต์,ธุรกิจเช่ารถ เป็นต้น ซึ่งในแต่ละเดือนจะมีสมาชิกใหม่เข้ามา 60-70 ราย หรือคิดเป็นปีละ 700 ราย

สำหรับเงื่อนไขของสมาชิกที่จะสมัครบาร์เทอร์คาร์ดได้จะต้องมีธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยจะเสียค่าสมัครเพียง 1 ครั้งและใช้ได้ตลอดชีพ ซึ่งแพคเกจสมาชิกจะมี 3 แบบ ได้แก่ เสียค่าสมัคร 26,000 บาท มีสัดส่วนลูกค้า 60-70% , 34,000 บาท มีสัดส่วน 20% และ60,000บาทมี10% โดยในส่วนของบริษัทฯจะรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมจากการซื้อขาย 5.5%

ปัจจุบันบาร์เทอร์คาร์ดในไทยมีสาขาอยู่หลายแห่ง ได้แก่ ธนบุรี,ทองหล่อ, บางนา,ลาดพร้าว,พัทยา และภูเก็ต ขณะที่ทั่วโลกมีสำนักงานกว่า 160 แห่ง ใน 17-18 ประเทศ โดยมีสมาชิกกว่า 100,000 ธุรกิจ และมีมูลค่าการแลกเปลี่ยนรวมกันมากกว่า 30 พันล้านบาทต่อปี โดยมูลค่าการแลกเปลี่ยน และจำนวนสมาชิกมีอัตราการเติบโตปีละ15%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us