Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 มิถุนายน 2549
บิ๊กไออีซียันไม่ขัดแย้งผู้ถือหุ้นใหญ่ "บี เตชะอุบล" เล็งซื้อเพิ่มผ่านกองทุน             
 


   
www resources

โฮมเพจ อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (ไออีซี)

   
search resources

อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง, บมจ.
บี เตชะอุบล




บิ๊กไออีซีออกโรงยันไม่มีความขัดแย้งในกลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัท ขณะที่ "บี เตชะอุบล" ยันถือหุ้นเพื่อลงทุนระยะยาว เล็งดึงกองทุน OPUS เข้าถือหุ้นไออีซีในอนาคต

นายสุมิท แช่มประสิทธิ์ กรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทอินเตอร์เนชั่นเนิลเอนจีเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาได้มีกระแสข่าวว่าผู้ถือหุ้นของบริษัทเกิดความขัดแย้งกันนั้น ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งการที่นายบี เตชะอุบล ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทนั้น เนื่องจากนายบีได้ไปร่วมจัดตั้งกองทุนกับผู้จัดการกองทุนต่างประเทศ ดังนั้นจึงไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ขึ้นมา

"คุณบีเข้ามาบริหารงานในไออีซี ซึ่งได้เข้ามาดูแลในส่วนธุรกิจมือถือ และได้สร้างทีมงานในระดับมืออาชีพเข้ามาช่วย แต่หลังจากที่คุณบีได้ลาออกไปทำธุรกิจกองทุน ทำให้มีกระแสข่าวว่าผู้ถือหุ้นมีความขัดแย้ง จึงส่งผลทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงและทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รับความเสียหาย ส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่นั้นไม่ได้กระทบมากนัก เพราะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ถือหุ้นระยะยาว" นายสุมิทกล่าว

สำหรับความคืบหน้าในการหาพันธมิตรเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ขายเฉพาะเจาะจงจำนวน 600 ล้านหุ้นนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งก็มีนักลงทุนต่างประเทศหลายแห่งที่ติดต่อเข้ามา ส่วนที่มีข่าวว่ากองทุนดูไบจะเข้ามาถือหุ้นนั้นไม่ทราบว่าข่าวนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร

นายบี เตชะอุบล อดีตกรรมการ บริษัทอินเตอร์เนชั่นเนิลเอนจีเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ตนถือหุ้นบริษัทไออีซีจำนวน 50 ล้านหุ้น ซึ่งยังมีแผนที่จะถือหุ้นในระยะยาวต่อไป และในอนาคตถ้ามีโอกาสก็อาจจะนำกองทุน OPUS เข้ามาถือหุ้นในบริษัทไออีซีก็ได้

"ผมเข้าถือหุ้นในบริษัทไออีซีตั้งแต่เดือนกันยายนปีก่อน และเมื่อเข้ามาแล้วก็เห็นว่าบริษัทไออีซีนั้นถือเป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่แต่มีสินค้าที่ขายไม่มากนัก ดังนั้นจึงได้มีการปรับโครงสร้างบริหาร เพื่อให้องค์กรมีความแข็งแกร่ง โดยดูแลด้านค้าส่งและค้าปลีกและช่วงที่ผ่านมาบริษัทก็ได้มีการเพิ่มทุนทำให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น" นายบีกล่าว

ในช่วงที่ผ่านมาตนได้ร่วมกับกลุ่มเพื่อนที่เคยเป็นผู้จัดการกองทุนของโกลแมนแซคส์ ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ OPUS Thailand Opportunity Fund ซึ่งมีบริษัทโกลบอลเอสเตทของตนเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 40% ซึ่งบริษัทร่วมทุนนี้จะบริหารกองทุน OPUSซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ (Hedge Fund) โดยมีมูลค่ากองทุนเบื้องต้น 10 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะเพิ่มเป็น 50,100 และ 500 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน 18 เดือนตามเป้าหมายที่กำหนดไว้"นายบีกล่าว

ทั้งนี้กองทุน OPUS จดทะเบียนในเกาะเคย์แมน และมีนโยบายลงทุนในธุรกิจด้านไอทีและมีเดีย บริษัทในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นที่บริษัทไทย และฮ่องกงเป็นหลัก รวมถึงตลาดในสิงคโปร์, เกาหลี, ญี่ปุ่น, ไต้หวันฯลฯ โดยสัดส่วนจะเป็นในประเทศไทยประมาณ 40% และต่างประเทศ 60% ซึ่งผู้ลงทุนเป็นบุคคลส่วนตัวและกองทุนอื่นๆ จากยุโรป เอเซีย และออสเตรเลีย และจะเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีขนาดกลางและขนาดเล็กในตลาดต่างๆ ซึ่งกองทุนนี้จะเริ่มเข้าลงทุนได้ภายในกรกฎาคมนี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us