Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 มิถุนายน 2549
KTC เจอพิษดอกเบี้ยขาขึ้นมาร์จิ้นวูบ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

บัตรกรุงไทย, บมจ.
Credit Card




KTC โอดมาร์จิ้นลดฮวบ ต้นทุนทางการเงินพุ่งจาก 2% เป็น 6% จากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ถูกจำกัดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่ 18% สั่งรัดเข็มขัดตัดงบการตลาดไปกว่า 100 ล้าน และลดคอมมิสชั่นเหลือ 500 บาทจาก 1,000 บาท แต่อัตราการเติบโตทางธุรกิจยังไปได้ และยังมุ่งขยายฐานลูกค้าอย่างระมัดระวังต่อไปเพื่อไม่ให้เกิดเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น

นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) เปิดเผยว่า จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ดอกเบี้ยของบัตรเครดิตยังกำหนดเพดานเดิมอยู่ที่ 18% นั้น ได้ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินปรับเพิ่มเป็น 6% จากเดิมอยู่ที่ 2% ทำให้ต้องเพิ่มบริษัทมีการบริหารต้นทุนทางการเงินที่รัดกุมมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานบุคคลกรในองค์กรมากขึ้น และคาดว่าจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวจะทำให้การทำกำไรลดลงด้วยเช่นกัน แต่ปัจจุบันบริษัทก็ได้ลดงบการตลาดไปกว่า 100 ล้านบาท และลดค่าคอมมิสชั่นลงเหลือ 500 บาท จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 1,000 กว่าบาท

“ต้นทุนบริษัทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยตั้งแต่ทางการกำหนดให้คิดดอกเบี้ย 18% บริษัทก็มีต้นทุน 2% แต่ปัจจุปันนี้ต้นทุนเพิ่มเป็น 6% ทำให้บริษัทมีมาร์จิ้นลดลงอย่างมากก็เหมือนกับฟ้าปิด แต่บริษัทก็คงให้บริการต่อไป และเพิ่มฐานลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ หากอนาคตฟ้าเปิดเมื่อไร บริษัทก็เป็นรายๆ แรกที่ยังคงเป็นผู้นำตลาดอยู่ไม่ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่" นายนิวิตต์กล่าว

อย่างไรก็ตามในส่วนของการเติบโตของธุรกิจยังเติบโตได้อยู่ ซึ่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาสามารถเพิ่มฐานลูกค้าประมาณ 180,000 ราย หรือได้เท่ากับปี 2548 ทั้งปี ดังนั้นคาดว่าทั้งปีนี้จะเพิ่มลูกค้าใหม่กว่า 300,000 ราย ทั้งนี้เป็นผลมากจาการที่บริษัทได้ให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกค้ามากกว่าบริษัทอื่นๆ แต่บริษัทเองก็มีความระมัดระวังในการอนุมัติมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) โดยคาดว่าทั้งปี NPL ของบัตรเครดิตน่าจะอยู่ที่ 3% ส่วนสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 8-9 % และสัดส่วนการอนุมัติบัตรเครดิตอยู่ที่ 45–50 % ส่วนลูกค้าสินเชื่อบุคคลการอนุมัติ 30%

นายนิวัตต์กล่าวว่า ยอดการค้างชำระของลูกค้าในขณะนี้นั้นปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่เป็นสัญญาณที่น่ากลัว เพราะปัจจุบันปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจลดลงเมื่อเทียบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่กว่า 70% ของลูกค้ามีการชำระเต็มวงเงิน ส่วนการแข็งขันครึ่งปีหลังนี้บริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิ ออกบัตรร่วมกับพันธมิตรรายใหญ่ และในปลายปีจะออกบัตรร่วมกับบริษัท เจซีบี ซึ่งเป็นบริษัทบัตรเครดิตแห่งใหญ่ของญี่ปุ่น ตั้งเป้าว่าหลังจากเปิดตัวน่าจะขยายฐานบัตรได้ 1 ล้านบัตร ภายใน 1 ปี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us