|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
KTC โอดมาร์จิ้นลดฮวบ ต้นทุนทางการเงินพุ่งจาก 2% เป็น 6% จากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ถูกจำกัดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่ 18% สั่งรัดเข็มขัดตัดงบการตลาดไปกว่า 100 ล้าน และลดคอมมิสชั่นเหลือ 500 บาทจาก 1,000 บาท แต่อัตราการเติบโตทางธุรกิจยังไปได้ และยังมุ่งขยายฐานลูกค้าอย่างระมัดระวังต่อไปเพื่อไม่ให้เกิดเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น
นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) เปิดเผยว่า จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ดอกเบี้ยของบัตรเครดิตยังกำหนดเพดานเดิมอยู่ที่ 18% นั้น ได้ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินปรับเพิ่มเป็น 6% จากเดิมอยู่ที่ 2% ทำให้ต้องเพิ่มบริษัทมีการบริหารต้นทุนทางการเงินที่รัดกุมมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานบุคคลกรในองค์กรมากขึ้น และคาดว่าจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวจะทำให้การทำกำไรลดลงด้วยเช่นกัน แต่ปัจจุบันบริษัทก็ได้ลดงบการตลาดไปกว่า 100 ล้านบาท และลดค่าคอมมิสชั่นลงเหลือ 500 บาท จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 1,000 กว่าบาท
“ต้นทุนบริษัทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยตั้งแต่ทางการกำหนดให้คิดดอกเบี้ย 18% บริษัทก็มีต้นทุน 2% แต่ปัจจุปันนี้ต้นทุนเพิ่มเป็น 6% ทำให้บริษัทมีมาร์จิ้นลดลงอย่างมากก็เหมือนกับฟ้าปิด แต่บริษัทก็คงให้บริการต่อไป และเพิ่มฐานลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ หากอนาคตฟ้าเปิดเมื่อไร บริษัทก็เป็นรายๆ แรกที่ยังคงเป็นผู้นำตลาดอยู่ไม่ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่" นายนิวิตต์กล่าว
อย่างไรก็ตามในส่วนของการเติบโตของธุรกิจยังเติบโตได้อยู่ ซึ่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาสามารถเพิ่มฐานลูกค้าประมาณ 180,000 ราย หรือได้เท่ากับปี 2548 ทั้งปี ดังนั้นคาดว่าทั้งปีนี้จะเพิ่มลูกค้าใหม่กว่า 300,000 ราย ทั้งนี้เป็นผลมากจาการที่บริษัทได้ให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกค้ามากกว่าบริษัทอื่นๆ แต่บริษัทเองก็มีความระมัดระวังในการอนุมัติมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) โดยคาดว่าทั้งปี NPL ของบัตรเครดิตน่าจะอยู่ที่ 3% ส่วนสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 8-9 % และสัดส่วนการอนุมัติบัตรเครดิตอยู่ที่ 45–50 % ส่วนลูกค้าสินเชื่อบุคคลการอนุมัติ 30%
นายนิวัตต์กล่าวว่า ยอดการค้างชำระของลูกค้าในขณะนี้นั้นปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่เป็นสัญญาณที่น่ากลัว เพราะปัจจุบันปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจลดลงเมื่อเทียบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่กว่า 70% ของลูกค้ามีการชำระเต็มวงเงิน ส่วนการแข็งขันครึ่งปีหลังนี้บริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิ ออกบัตรร่วมกับพันธมิตรรายใหญ่ และในปลายปีจะออกบัตรร่วมกับบริษัท เจซีบี ซึ่งเป็นบริษัทบัตรเครดิตแห่งใหญ่ของญี่ปุ่น ตั้งเป้าว่าหลังจากเปิดตัวน่าจะขยายฐานบัตรได้ 1 ล้านบัตร ภายใน 1 ปี
|
|
|
|
|