Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 มิถุนายน 2549
ไอทีวีทรุดหนัก รูดต่อ 10.7% โบรกฯ แนะทิ้งรอผลค่าปรับ             
 


   
www resources

โฮมเพจ สถานีโทรทัศน์ไอทีวี

   
search resources

ไอทีวี, บมจ.
Stock Exchange




นักลงทุนทิ้งหุ้นไอทีวีต่อ กดดันราคาร่วงอีก 10.71% ปิดที่หุ้นละ 2.50 บาท หลังโบรกเกอร์แนะนักลงทุนขาย-เลี่ยงลงทุน เหตุยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับการคำนวณค่าปรับจากการผิดสัญญา ด้าน คปส.เสนอ 2 แนวทางแก้ปัญหา ขณะที่ “สำนักปลัด” แบไต๋ เปิดประตูเจรจากับไอทีวี เผยกำหนดค่าปรับไว้สูง เพื่อป้องกันผิดสัญญา ขณะที่ “รักษาการส.ว.” จี้ ไอทีวีก้มหน้าฟังศาลปกครองดีกว่าตะแบง พร้อมฉวยโอกาสนี้ทวงคืนไอทีวีให้เป็นของประชาชน

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ วานนี้ (20 มิ.ย.) ดัชนีเปิดในแดนลบตามการปรับลดลงของตลาดหุ้นต่างประเทศ และปรับตัวลดลงต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ก่อนดัชนีปิดที่ระดับ 646.78 จุด ลดลง 12.90 จุด หรือ 1.96% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 653.67 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 644.56% มูลค่าการซื้อขาย 8,783.83 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 407.52 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 4.90 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 402.62 ล้านบาท

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบมจ.ไอทีวี หรือ ITV ราคายังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาปิดที่ 2.50 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 10.71% โดยราคาต่ำสุดของวันอยู่ที่ 2.42 บาท มูลค่าการซื้อขาย 70.75 ล้านบาท

นางสาววิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด กล่าวว่า การปรับลดลงของตลาดหุ้นในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่องเชื่อว่า จุดต่ำสุดในรอบนี้น่าจะยังอยู่ที่ 640 จุด แม้ว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีจะปรับตัวลดลงผ่านระดับดังกล่าว

ทั้งนี้ จะต้องพิจารณาจากปัจจัยลบอื่นๆประกอบด้วย เนื่องจากหากปัจจัยลบของตลาดหุ้นในภูมิภาคประเทศใดประเทศหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลงจนส่งผลต่อตลาดหุ้นในประเทศนั้นๆ อาจจะเป็นปัจจัยลบที่เข้ามาซ้ำเติมปัจจัยลบเดิมที่มีอยู่

สำหรับมูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยที่แม้ว่าปรับตัวลดลงไปค่อนข้างมาก แต่หากพิจารณาสัดส่วนการซื้อขายของนักลงทุนแต่ละประเภทจะเห็นว่าสัดส่วนของนักลงทุนต่างชาติยังอยู่ในระดับที่สูงซึ่งอาจจะสะท้อนได้ถึงการขายสุทธิอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ

นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า สาเหตุหลักที่ส่งผลทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงยังคงเกิดจากปัจจัยภายนอกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่หลายฝ่ายกลับมาพูดถึงและเกิดความกังวลอีกครั้ง เนื่องจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วโลกต่างปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน

"ทั้งนี้จะต้องยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นทั่วโลกมาจากผลกระทบจากความกังวลไม่กี่ปัจจัย โดยตลาดหุ้นในต่างประเทศหลายแห่งก็ปรับตัวลดลง เช่น ไต้หวัน 3% เกาหลี 2% สิงคโปร์ 1.8% ฟิลิปปินส์ 2% ฮ่องกง 1% ญี่ปุ่น 1.4% ซึ่งคาดว่ายังเป็นนักลงทุนต่างชาติขายออก" นายสุกิจกล่าว

นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) กล่าวว่า นักลงทุนต่างชาติยังสับสนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งคาดว่าความกังวลจะเกิดขึ้นอีกราว 1 สัปดาห์ก่อนจะถึงช่วงการประชุมของเฟด ขณะที่บริษัทยังใช้ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเป็นหลักในการพิจารณาลงทุน โดยเฉพาะความสามารถการทำกำไรของบริษัท

**โบรกฯ แนะทิ้งไอทีวี

นางสาววิริยา กล่าวถึงราคาหุ้นไอทีวี หลังจากสำนักงานอัยการสูงสุดสรุปค่าปรับเรียบร้อยแล้วว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าพื้นฐานที่แท้จริงของหุ้น ITV ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากตัวเลขที่ได้ยังมีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างการคำนวณของสำนักงานปลัดสำนักงานนายกรัฐมนตรี หรือ สปน. กับไอทีวี

"คงต้องรอความชัดเจนจากคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดอีกครั้งว่าจะสรุปในเรื่องดังกล่าวอย่างไร ในส่วนของนักลงทุนยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเข้าลงทุนเนื่องจากจะต้องรอความชัดเจนของเงินค่าปรับก่อน แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงมากแล้วก็ตาม"

บทวิเคราะห์บล.ซิกโก้ แนะนำ 'ขาย' ราคาตามปัจจัยพื้นฐานหุ้นอยู่ที่ 2.12 บาท โดยระบุว่าสถานการณ์ของ ITV ในตอนนี้เหมือนผู้ป่วยอาการโคม่าที่กำลังเจอโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงกว่าทั้งราคาในปัจจุบันที่แม้ว่าจะปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมานับแต่วันตัดสินคดี แต่ก็ยังคงสูงกว่ามูลค่าเหมาะสมที่เราให้ไว้

ทั้งนี้ แนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่รักความเสี่ยงว่า อย่าเสี่ยงกับ ITV จะดีกว่าเนื่องจากความเสี่ยงของ ITV ไม่ได้เป็นความเสี่ยงในสองขั้วว่าจะได้หรือเสีย แต่เป็นความเสี่ยงที่ว่าจะเสียมากหรือเสียน้อยเท่านั้น

บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต ระบุว่าในระยะกลาง-ยาวยังเป็นช่วงที่ราคาหุ้น ITV อยู่ในแนวโน้มลง ทิศทางระยะสั้นยังมีแรงเทขายออกมาทำจุดต่ำสุดใหม่พร้อมปริมาณการซื้อขายในช่วงก่อนปิดตลาดฯ ทำให้ทิศทางระยะสั้นมีโอกาสอ่อนตัวลงต่อ แนวรับ 2.46 แนวต้าน 2.84-2.90

**คปส.เสนอ 2 ทางออก

น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) กล่าวว่า การปฏิรูปสื่อโทรทัศน์โดยรูปธรรมจะต้องสร้างช่องทีวีสาธารณะขึ้นมา 1 ถึง 3 ช่อง เหมือนกรณีไอทีวีเริ่มแรก สำหรับกรณีไอทีวีเองก็จะกลับเป็นต้นแบบอีกครั้งหนึ่ง หลังจากศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้การแก้ไขสัญญาสัมปทานเป็นโมฆะ ส่งผลให้ไอทีวีประสบภาวะขาดทุนและไม่สามารถจ่ายเงินดังกล่าวได้ และอาจจะต้องยกเลิกสัมปทาน

"หากจะต้องทำสัมปทานใหม่หรือสร้างไอทีวีใหม่จะทำได้อย่างไร หรือให้ไกลกว่านั้นคือให้ช่องไอทีวีและช่อง 11 มีความเป็นอิสระเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปสื่ออื่นๆ โดยการถ่วงดุลข่าวสารกับสื่อนั้นๆ ได้"

สำหรับข้อเสนอของ คปส.และภาคประชาชนเกี่ยวกับอนาคตของไอทีวียังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนนัก เนื่องจากมีความเห็นแตกต่างกันหลายฝ่าย ด้านหนึ่งเสนอว่าให้ยกเลิกรูปแบบเก่าที่เคยทำมา และให้ไอทีวีได้รับเงินสนับสนุนผ่านภาษีโดยตรงจากประชาชน คล้ายกับการจ่ายค่าน้ำหรือค่าไฟ ซึ่งจะสะท้อนการรับผิดชอบต่อประชาชนได้

ขณะที่อีกด้านหนึ่งเสนอให้คงฐานะเป็นองค์กรกึ่งธุรกิจ แต่ต้องกำหนดเงื่อนไขพอที่จะเป็นหลักประกันที่จะต้องเป็นอิสระจากรัฐและทุน โดยรูปแบบอาจจะเป็นการได้ทุนตั้งต้นจากรัฐ หลังจากนั้นก็จะต้องตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุน รวมทั้งอาจมีเงื่อนไขประเภทห้ามนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเป็นหลักประกัน

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอทั้งสองด้านล้วนมีจุดอ่อนที่แตกต่างกัน ด้านแรกอาจจะยังไม่พร้อมสำหรับสังคมไทยที่ต้อง “จ่าย” เพื่อการดูทีวี ในขณะที่ข้อเสนอหลังที่คล้ายคลึงกับรัฐวิสาหกิจหรือองค์กรอิสระก็ไม่มีหลักประกันได้ว่าจะไม่มีการแทรกแซง ซึ่งกรณีของ กกต.เป็นข้อสะท้อนที่ชัดเจนที่สุด แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปว่าจะใช้แนวทางใด

**สปน.ยันค่าปรับ 7 หมื่นล้าน

นายรองพล เจริญพันธ์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าการคำนวณค่าปรับสถานีโทรทัศน์ไอทีวีกว่า 7 หมื่นล้านบาทนั้นเป็นไปตามสัญญาข้อ 11 วรรคท้ายที่กำหนดให้ปรับร้อยละ 10 หรือตกประมาณวันละ 100 ล้านบาท ซึ่ง สปน. ไม่สบายใจกับจำนวนเงินดังกล่าวเพราะไม่อยากให้กระทบกับบริษัท เนื่องจากความจริงแล้วไม่ใช่ความผิดของไอทีวี แต่ก็จำเป็นต้องดำเนินการไปตามสัญญา

"ผมยืนยันว่า หลักเกณฑ์การคำนวณค่าปรับไม่ผิดกฎหมายมหาชน เพราะเป็นไปตามสัญญาที่ต้องเขียนสัญญาให้มีค่าปรับจำนวนมากไว้เพื่อป้องกันการผิดสัญญา แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการเจรจากับไอทีวีหากมีความพร้อมทั้ง 2 ฝ่าย โดยการค่าค่าปรับของการปรับผังรายการ ค่าตอบแทนและดอกเบี้ยนั้นไอทีวีต้องดำเนินการทันที "

**ชินฯ ขายสมบัติชาติ

นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ รักษาการส.ว.อุบลราชธานี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปสื่อวุฒิสภา กล่าวถึงแนวทางการตัดสินของศาลปกครองสูงสุดไม่น่าจะแตกต่างจากคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง แม้ว่าไอทีวีอ้างจะรอคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด ดังนั้นไอทีวีน่าจะเตรียมรับมือโดยการวางกระบวนการที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงซึ่งหากคิดตามจำนวนเงินค่าปรับของสปน.แล้วไอทีวีน่าจะพ่ายแพ้

“ถือเป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ที่ผู้บริหารไอทีวีและประชาชนรวมทั้งรัฐบาลควรจะกลับมาไตร่ตรองการจะนำทรัพยสมบัติชาติมาซื้อขายควรจะไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะเมื่อต่างชาติซื้อไปเขาก็ได้ของมีตำหนิ และคนที่จะถูกครหาที่สุดคือกลุ่มชินคอร์เปอเรชั่น” นพ.นิรันดร์ กล่าว

นายจอน อึ๊งภากรณ์ รักษาการส.ว.กทม.ในฐานะแกนนำในการต่อสู้เพื่อทวงคืนไอทีวีให้กลับมาเป็นของประชาชน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับไอทีวีถือเป็นโอกาสอันดีที่ทางกลุ่มจะดำเนินการทวงคืนไอทีวีเพื่อกลับมาเป็นของประชาชน ซึ่งตอนนี้ตนได้นัดองค์กรภาคประชาชนและองค์กรสื่อมวลชน และพนักงานในไอทีวีรวมทั้งนักวิชาการมาระดมความคิดว่าจะมีช่องทางทางด้านกฎหมายอย่างไรที่จะสามารถนำไอทีวีกลับมาเป็นของคนไทยและเป็นอิสระปลอดจากการเมืองย่างแท้จริงได้

“ผมอยากต่อสู้เรียกร้องให้ไอทีวีกลับมาเป็นของประชาชน กลับมาสู่เจตนารมณ์ในการก่อตั้งดังเดิมคือสถานีโทรทัศน์เพื่อประชาชนที่แท้จริงเพราะเราต้องยอมรับความจริงว่าขณะนี้ไอทีวีบิดเบี้ยวไปเยอะแล้ว” นายจอน กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us