อายิโนะโมะโต๊ะ ป้องบัลลังก์ตลาดเครื่องปรุงรส”รสดี” ระเบิดสมรภูมิรบเต็มรูปแบบ ขยายไลน์สินค้าใหม่ ปั้น ”ซุปดี” ลุยเซกเมนต์ซุปก้อน เสริมความแข็งแกร่งสกัดคนอร์ตีท้ายครัวรสดี ล่าสุดเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาดึงท็อป–ดารณีนุช โพธิปิติ พรีเซ็นเตอร์ หวังเจาะกลุ่มแม่บ้าน-ร้านอาหารทั่วไป ด้านคนอร์ก้อนต้อนรับน้องใหม่อัดโปรโมชันลดราคาเหลือ 8 บาท
แหล่งข่าวจากวงการอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า หลังจากที่ค่ายยูนิลีเวอร์รุกตลาดเครื่องปรุงรสที่มีมูลค่าตลาดทั้งช่องทางโมเดิร์นเทรดและเทรดิชันนัลเทรดรวมแล้ว 3,000 ล้านบาท ด้วยการชูจุดเด่น ”คนอร์” เป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดนี้เริ่มร้อนแรงขึ้นมาทันที
โดยคนอร์ซุปก้อนเป็นผู้เชี่ยวชาญการปรุงอาหารชนิดน้ำ ซึ่งในตลาดนี้คนอร์เป็นผู้นำตลาดแบบเบ็ดเสร็จครองส่วนแบ่งเกือบ 100% จากมูลค่าตลาด 1,200 ล้านบาท ส่วนตลาดชนิดผงมูลค่า 1,800 ล้านบาท คนอร์ผงชูความเป็นผู้เชี่ยวชาญการปรุงอาหารจานผัด ซึ่งในตลาดนี้คนอร์ยังเป็นรองแบรนด์ “รสดี” ของค่ายอายิโนะโมะโต๊ะฯ ที่มีส่วนแบ่ง 35% เป็นอันดับสองของตลาด ขณะที่ผู้นำตลาด คือ รสดี ของค่ายอายิโนะโมโต๊ะครองส่วนแบ่ง 55%
ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าคนอร์รุกตลาดเครื่องปรุงรสอย่างหนัก ด้วยการทุ่มงบ 100 ล้านบาท ในการทำตลาด พร้อมกันนี้ยังใช้จุดแข็งการมีสินค้าครบไลน์ ทั้งตลาดซุปก้อนและผงทลายรสดีของค่ายอายิโนะโมะโต๊ะฯ ซึ่งมีสินค้าเพียงไลน์เดียว คือ เครื่องปรุงรสชนิดผง ซึ่งปัจจุบัน คนอร์มีส่วนแบ่งการตลาดทั้งชนิดก้อนและผง 55% ในช่องทางโมเดิร์นเทรดซึ่งมีมูลค่า 1,600 ล้านบาท
ล่าสุดค่ายยักษ์ใหญ่ในวงการอาหารอย่างอายิโนะโมะโต๊ะฯ ซึ่งเป็นผู้นำตลาดเครื่องปรุงรสชนิดผงภายใต้แบรนด์ ”รสดี” จึงได้เปิดตัวสินค้าแบรนด์ใหม่ ”ซุปดี” หรือผงปรุงรสสำหรับปรุงน้ำซุปโดยเฉพาะ เพื่อเสริมจุดแข็งให้รสดี มีสินค้าครบไลน์มากขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาอายิฯ จะชูจุดแข็งของรสดี ด้วยการเป็นผู้เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งปรุงอาหาร ต้ม ผัด แกง ทอด หรือ ย่าง ก็ตาม
ทั้งนี้ “ซุปดี” ประเดิมเปิดตัว 2 รสชาติ ได้แก่ รสหมูและรสไก่ ซึ่งถือว่าเป็นรสชาติหลักในการปรุงน้ำซุป ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ ด้วยการดึง ท็อป – ดารณีนุช โพธิปิติ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างการรับรู้กลุ่มแม่บ้านและร้านอาหารทั่วไป ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักเครื่องปรุงรส โดยภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ ชูเนื้อหาโดดเด่นที่น้ำซุปที่เหมือนเคี่ยวนานถึง 8 ชั่วโมง
แหล่งข่าวจากวงการอุปโภคบริโภค กล่าวเสริมถึงกลยุทธ์การทำตลาดหลักๆของเครื่องปรุงรสว่า จะเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนหลักรายการอาหาร ควบคู่กับการทำไทอินหรือการใช้สินค้าเข้ามาประกอบรายการ ทั้งนี้เพราะการทำไทอิน หากมีการสื่อสารที่ดี จะสามารถสร้างความน่าเชื่อถือ และการจดจำให้กับตัวสินค้าได้เป็นอย่างดี หรือกระทั่งการทำโปรโมชั่นในรูปแบบต่างๆ เช่น การแจกช้อน ซึ่งกลยุทธ์นี้ส่งผลให้ผงปรุงรส "รสดี” สามารถขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดชนิดผงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวล่าสุด หลังจากที่อายิโนะโมะโต๊ะฯ เปิดตัวซุปดีลงสู่ตลาดได้เพียงไม่นาน ล่าสุดคนอร์ซึ่งเป็นผู้นำตลาดเครื่องปรุงรสชนิดก้อน อัดโปรโมชั่นต้อนรับน้องใหม่จากเดิมขาย 4 ก้อน ราคา 10 บาท เหลือเป็น 8 บาทเท่านั้น
สำหรับแนวโน้มตลาดเครื่องปรุงรสชนิดผงมีมูลค่า 1,800 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 16% เนื่องจากการวิจัยพฤติกรรมของผู้บริโภค พบว่า อาหารจานผัดเป็นอาหารจานหลักในเกือบทุกมื้อที่แม่บ้านทำอยู่ประจำ ตลาดจึงมีอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนตลาดชนิดก้อนมูลค่า 1,200 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 30%
|