Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน20 มิถุนายน 2549
ตลาดเครื่องปรุงรส3พันล.เดือด อายิฯปิดจุดบอดปั้น”ซุปดี”ตี”คนอร์”             
 


   
www resources

โฮมเพจ อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย)

   
search resources

อายิโนะโมะโต๊ะเซลส์ (ประเทศไทย), บจก.
Food and Beverage
Marketing




อายิโนะโมะโต๊ะ ป้องบัลลังก์ตลาดเครื่องปรุงรส”รสดี” ระเบิดสมรภูมิรบเต็มรูปแบบ ขยายไลน์สินค้าใหม่ ปั้น ”ซุปดี” ลุยเซกเมนต์ซุปก้อน เสริมความแข็งแกร่งสกัดคนอร์ตีท้ายครัวรสดี ล่าสุดเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาดึงท็อป–ดารณีนุช โพธิปิติ พรีเซ็นเตอร์ หวังเจาะกลุ่มแม่บ้าน-ร้านอาหารทั่วไป ด้านคนอร์ก้อนต้อนรับน้องใหม่อัดโปรโมชันลดราคาเหลือ 8 บาท

แหล่งข่าวจากวงการอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า หลังจากที่ค่ายยูนิลีเวอร์รุกตลาดเครื่องปรุงรสที่มีมูลค่าตลาดทั้งช่องทางโมเดิร์นเทรดและเทรดิชันนัลเทรดรวมแล้ว 3,000 ล้านบาท ด้วยการชูจุดเด่น ”คนอร์” เป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดนี้เริ่มร้อนแรงขึ้นมาทันที

โดยคนอร์ซุปก้อนเป็นผู้เชี่ยวชาญการปรุงอาหารชนิดน้ำ ซึ่งในตลาดนี้คนอร์เป็นผู้นำตลาดแบบเบ็ดเสร็จครองส่วนแบ่งเกือบ 100% จากมูลค่าตลาด 1,200 ล้านบาท ส่วนตลาดชนิดผงมูลค่า 1,800 ล้านบาท คนอร์ผงชูความเป็นผู้เชี่ยวชาญการปรุงอาหารจานผัด ซึ่งในตลาดนี้คนอร์ยังเป็นรองแบรนด์ “รสดี” ของค่ายอายิโนะโมะโต๊ะฯ ที่มีส่วนแบ่ง 35% เป็นอันดับสองของตลาด ขณะที่ผู้นำตลาด คือ รสดี ของค่ายอายิโนะโมโต๊ะครองส่วนแบ่ง 55%

ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าคนอร์รุกตลาดเครื่องปรุงรสอย่างหนัก ด้วยการทุ่มงบ 100 ล้านบาท ในการทำตลาด พร้อมกันนี้ยังใช้จุดแข็งการมีสินค้าครบไลน์ ทั้งตลาดซุปก้อนและผงทลายรสดีของค่ายอายิโนะโมะโต๊ะฯ ซึ่งมีสินค้าเพียงไลน์เดียว คือ เครื่องปรุงรสชนิดผง ซึ่งปัจจุบัน คนอร์มีส่วนแบ่งการตลาดทั้งชนิดก้อนและผง 55% ในช่องทางโมเดิร์นเทรดซึ่งมีมูลค่า 1,600 ล้านบาท

ล่าสุดค่ายยักษ์ใหญ่ในวงการอาหารอย่างอายิโนะโมะโต๊ะฯ ซึ่งเป็นผู้นำตลาดเครื่องปรุงรสชนิดผงภายใต้แบรนด์ ”รสดี” จึงได้เปิดตัวสินค้าแบรนด์ใหม่ ”ซุปดี” หรือผงปรุงรสสำหรับปรุงน้ำซุปโดยเฉพาะ เพื่อเสริมจุดแข็งให้รสดี มีสินค้าครบไลน์มากขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาอายิฯ จะชูจุดแข็งของรสดี ด้วยการเป็นผู้เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งปรุงอาหาร ต้ม ผัด แกง ทอด หรือ ย่าง ก็ตาม

ทั้งนี้ “ซุปดี” ประเดิมเปิดตัว 2 รสชาติ ได้แก่ รสหมูและรสไก่ ซึ่งถือว่าเป็นรสชาติหลักในการปรุงน้ำซุป ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ ด้วยการดึง ท็อป – ดารณีนุช โพธิปิติ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างการรับรู้กลุ่มแม่บ้านและร้านอาหารทั่วไป ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักเครื่องปรุงรส โดยภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ ชูเนื้อหาโดดเด่นที่น้ำซุปที่เหมือนเคี่ยวนานถึง 8 ชั่วโมง

แหล่งข่าวจากวงการอุปโภคบริโภค กล่าวเสริมถึงกลยุทธ์การทำตลาดหลักๆของเครื่องปรุงรสว่า จะเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนหลักรายการอาหาร ควบคู่กับการทำไทอินหรือการใช้สินค้าเข้ามาประกอบรายการ ทั้งนี้เพราะการทำไทอิน หากมีการสื่อสารที่ดี จะสามารถสร้างความน่าเชื่อถือ และการจดจำให้กับตัวสินค้าได้เป็นอย่างดี หรือกระทั่งการทำโปรโมชั่นในรูปแบบต่างๆ เช่น การแจกช้อน ซึ่งกลยุทธ์นี้ส่งผลให้ผงปรุงรส "รสดี” สามารถขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดชนิดผงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวล่าสุด หลังจากที่อายิโนะโมะโต๊ะฯ เปิดตัวซุปดีลงสู่ตลาดได้เพียงไม่นาน ล่าสุดคนอร์ซึ่งเป็นผู้นำตลาดเครื่องปรุงรสชนิดก้อน อัดโปรโมชั่นต้อนรับน้องใหม่จากเดิมขาย 4 ก้อน ราคา 10 บาท เหลือเป็น 8 บาทเท่านั้น

สำหรับแนวโน้มตลาดเครื่องปรุงรสชนิดผงมีมูลค่า 1,800 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 16% เนื่องจากการวิจัยพฤติกรรมของผู้บริโภค พบว่า อาหารจานผัดเป็นอาหารจานหลักในเกือบทุกมื้อที่แม่บ้านทำอยู่ประจำ ตลาดจึงมีอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนตลาดชนิดก้อนมูลค่า 1,200 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 30%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us