|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
slc ยังไม่ปรับเป้าปีนี้ พร้อมเผยผลงานไตรมาส 2 จะออกมาดี แม้การเมืองส่งผลต่อเศรษฐกิจ เพราะธุรกิจขนาดเล็กและกลางไม่ได้รับผลเหมือนโครงการใหญ่ พร้อมเพิ่มสินค้าให้หลากหลายและหาลูกค้าต่างประเทศเพิ่มช่องทางสร้างรายได้
นายนิทัศน์ มณีศิลาสันต์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) (SLC) เปิดเผยว่าปีนี้เป้าการเติบโตของรายได้ไว้ที่ตั้งไว้ 10% จากปี 48 หรือรายได้ประมาณ 120 ล้านบาท
พร้อมเปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ว่าจะออกมาดีเพราะดูจากภาพรวมของบริษัท แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะมีเหตุการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้นมาบ้างก็ตาม และยังคงตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 120 ล้านบาทในปีนี้ เนื่องจากธุรกิจขนาดเล็กและกลางจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในช่วงที่ผ่านมา แต่โครงการใหญ่ ๆ จะได้รับผลเนื่องจากต้องรอผลการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีก่อน เพราะธุรกิจซอฟแวร์มีปริมาณไม่มาก และบริษัททยอยรับรู้รายได้เรื่อย ๆ ขณะเดียวกัน SLC ก็ต้องพยายามหางานมือ (BACK LOG ) เพิ่มขึ้นด้วย
“เปรียบเทียบ 5 เดือนปีนี้กับ 5 เดือนปี 48 เพราะมีงานในมือปีนี้เพิ่มเป็น 40-45% จากปีก่อน และครึ่งปีหลังเราจะเข้าบิดเพิ่มอีกวงเงิน 150 ล้านบาท แต่ก็เป็นโครงการที่หลากหลายและเม็ดเงินไม่ได้มาก ” นายนิทัศน์กล่าว
นอกจากนี้ เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้บริหาร SLC ต้องพยายามหาวิธีแก้ไขเพื่อรองรับความผันผวนที่เกิดขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงได้ปรับโครงสร้างรายได้ของเราเป็นจากรัฐต่อเอกชนคือ 60 % และ 40% จากเดิมที่รายได้ของเราอยู่ที่ 80 % และ 20% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม SLC ก็ยังหวั่นต่องบประมาณที่แม้ว่ารัฐได้อนุมัติงบประมาณในหลายโครงการไปแล้ว แต่เมื่อมีปัญหาหรือปรับเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ซึ่งก็ยังบอกไม่ได้ว่ารัฐบาลชุดใหม่จะจัดตั้งได้เมื่อใด จึงยังคาดการณ์ได้ยาก และอาจมีการดึงงบประมาณกลับคืน จะส่งผลให้งานที่ได้รับมอบหมายหรืองานที่กำลังจะเข้าประมูลอาจหยุดชะงักลงหรือชะลอตัวไปก่อน อันจะส่งผลให้กระทบต่อการดำเนินงานบ้าง
โดยปีนี้ SLC จะรุกธุรกิจซอร์ฟแวร์ยังเป็นตัวสร้างรายได้หลักให้กับบริษัท ขณะที่ฮาร์ดแวร์นั้นจะเป็นส่วนน้อย ซึ่งระบบ ERP หรือระบบบริหารทรัพยากรขององค์กร ซึ่งภาครัฐจะคุมระบบงบประมาณและบัญชีของรัฐจะคุมหน่วยงานรัฐได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังมีงาน GSMIS หรือ สำนักงานอัตโนมัติที่รัฐต้องการให้หน่วยงานแต่ละแห่งสามารถซัพพอร์ทงานกันได้อย่างทั่วถึง
ขณะเดียวกัน การให้บริการในสำนักงานอัตโนมัติและ EASY QUICK ซึ่งธุรกิจอันหลังนี้พบว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างมาก ส่งผลให้ SLC จะหันไปบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น พร้อมกับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ รองรับความต้องการของลูกค้าด้วย ที่สำคัญธุรกิจนี้มีกรอสมาร์จิ้นสูง และขณะนี้มีลูกค้าต่างประเทศจะเข้ามาเจรจากับบริษัทเพื่อทำความเข้าใจเพื่อจะขอใช้บริการต่อไป
โดย EASY QUICK จะเป็นตัวทำรายได้ของบริษัทอีกทางหนึ่ง และ 4 เดือนที่ผ่านมาพบว่า บริษัททำรายได้เกินกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ การรุกหาลูกค้าต่างประเทศเพิ่มจึงเป็นการเพิ่มช่องทางจำหน่ายและลดความเสี่ยงที่จะอิงรายได้เพียงธุรกิจซอฟแวร์เท่านั้น
นายนิทัศน์กล่าวว่าช่วงครึ่งปีหลัง SLC จะยังคงุรุกธุรกิจซอฟแวร์ การทำไอที มีเดีย มาร์เก็ตติ้ง รุกอีคอมเมิรช์ อีออฟฟิศ ตลอดจนออกสินค้าและบริการที่หลากหลายรูปแบบ รวมทั้งการหาตลาดใหม่ ๆ การเปิดแฟรนไชน์ของต่างประเทศ ลักษณะของการแลกเปลี่ยน รวมทั้งการทำจัดอบรมที่ SLC เริ่มบุกตลาดนี้มากขึ้นป้องกัน ความเสี่ยงของธุรกิจ และต้องหางานจากภาคเอกชนทดแทนงานภาครัฐที่ยังไม่มีความชัดเจน
“ ล่าสุดเพิ่งลงทุน 10 ล้านบาท ทำโปรแกรม OPEN SOURCE ซึ่งเราดำเนินการแล้วและคาดว่ารายได้จะเข้ามาไตรมาส 4 ก็จะเห็นผล ปีหน้าจะเพิ่มสินค้าและบริการมากขึ้น รวมทั้งหาตลาดใหม่ ๆ ” นายนิทัศน์กล่าว
โดยกรอสมาร์จิ้นของยอดขายอยู่ที่ 25% แต่บางโครงการที่รับมาเมื่อติดตั้งสินค้าหรือเมื่อขายได้จะพบว่าอาจต่ำอยู่ที่ประมาณ 10% เนื่องจากมีการแข่งขันสูงและก็ยอมขายในราคาที่ต่ำลง เพื่อแลกกับกำไรเพียง 3-4% เท่านั้น ขณะที่รายได้จากธุรกิจซอร์ฟแวร์ 75% ที่เหลือเป็นรายได้จากธุรกิจฮาร์ดแวร์ ซึ่งปีนี้ BSC WORK FLOW ก็เป็นอีกโปรแกรมใหม่ที่ในต่างประเทศมีการใช้กันมาก
สำหรับเป้าหมายของปี 50 ยังประเมินได้ยาก เพราะเหตุการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้บริษัทต้องปรับความเสี่ยงในการดำเนินงาน รวมทั้งหาตลาดต่างประเทศเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้
|
|
|
|
|