|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
วายุภักษ์ปีกหักพอร์ตการลงทุนครึ่งปีแรก NAVลดลงกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 8.8% หลังหุ้นกลุ่มพลังงาน-แบงก์ทรุดตามดัชนีตลาดหุ้น แต่ยังยืนยันประกาศจ่ายเงินปันผลปลอบขวัญนักลงทุนไม่ต่ำกว่า 6% สำหรับผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา
นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 เปิดเผยว่า ในช่วงที่ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงแรงทำให้มูลค่าพอร์ตการลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ปรับตัวลดลง เนื่องจากพอร์ตการลงทุนของวายุภักษ์ส่วนใหญ่ถือหุ้นพลังงาน และธนาคารเมื่อราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวปรับตัวลงแรงทำให้มูลค่าพอร์ตการลงทุนลดลงตามด้วย
'ในช่วงที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลงแรง กองทุนวายุภักษ์ได้เข้าซื้อหุ้นพื้นฐานดีที่ราคายังต่ำกว่าราคาพื้นฐานสะสมเข้าพอร์ต 'นายพิชิตกล่าว
นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการกองทุนวายุภักษ์จะมีการประชุมหารือเพื่อจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหน่วย คาดว่าผลตอบแทนการลงทุนจะไม่ต่ำกว่า 6% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินปันผลของปีก่อน เนื่องจากในปีนี้กองทุนวายุภักษ์ได้กำไรจากการลงทุนในบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) (TPI) และอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล และตราสารที่คล้ายคลึงกับกองทุนวายุภักษ์สูงทำให้กองทุนฯ สามารถจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนได้
สำหรับพอร์ตการลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ 1 ในช่วงครึ่งปีแรก (3 ม.ค.49 - 16 มิ.ย.49) พบว่า เมื่อวันที่ 3 ม.ค.49 กองทุนวายุภักษ์ถือหุ้นทั้งหมด 17 บริษัทมูลค่าการลงทุนรวม 155,903.10 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบราคาหุ้นของ 17 บริษัท ณ วันที่ 16 มิ.ย.พบว่า มีมูลค่าการลงทุนรวมอยู่ที่ 142,172.22 ล้านบาท ลดลง 13,730.88 ล้านบาท หรือลดลง 8.8%
ทั้งนี้ ในส่วนของพอร์ตการลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ 1 เปรียบเทียบตั้งระหว่างวันที่ 3 มกราคม- 16 มิถุนายน 2549 ราคาหุ้นส่วนใหญ่ที่ลงทุนต่างปรับตัวลดลงเป็นอย่างมาก สอดคล้องกับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้น โดยหุ้น PTT ลงทุนในราคา 232 บาท ลดลงเหลือ 218 บาท หุ้น THAI ลดจาก 43 เหลือ 39.75 บาท หุ้น TPI ลดลงจาก 8.75 บาท เหลือ 6.95 บาท หุ้น KWC ลงทุนในราคา 41.29 บาท เพิ่มเป็น 41.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.21 บาท หุ้น KTB ลงทุนในราคา 11.30 บาท ลดลงเหลือ 9.95 บาท ลดลง 1.35 บาท
ขณะที่หุ้น TIP ลงทุนในราคา 13.60 บาท ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 14.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หุ้น BKI ลงทุนในราคา 81.50 บาท ลดลงเหลือ 72.50 บาท ลดลง 9 บาท หุ้น SCIB ลงทุนในราคา 24.70 บาท ลดลงเหลือ 18.70 บาท ลดลง 6 บาท หุ้น EGCOMP ลงทุนในราคา 81.50 บาท ลดลงเหลือ 72.50 บาท ลดลงเหลือ 9 บาท หุ้น BBL ลงทุนในราคา 109 บาท ลดลงเหลือ 100 บาท ลดลง 9 บาท หุ้น SCCC ลงทุนในราคา 342 บาท ลดลงเหลือ 206 บาท ลดลง 42 บาท
สำหรับราคาหุ้น TTA ลงทุนในราคา 25.50 บาท ลดลงเหลือ 17.50 บาท ลดลง 8 บาท หุ้น AOT ลงทุนในราคา 51 บาท เพิ่มเป็น 55 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท หุ้น ATC ลงทุนในราคา 29.50 บาท ลดลงเหลือ 22.50 บาท ลดลง 7 บาท หุ้น PSL ลงทุนในราคา 32 บาท ลดลงเหลือ 30 บาท ลดลง 2 บาท และหุ้น SCB ลงทุนในราคา 54.50 บาท ลดลงเหลือ 53.50 บาท ลดลง 1 บาท
|
|
|
|
|