Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน10 มกราคม 2546
อีจีวีชี้ปี 46 ธุรกิจบันเทิงโตสุดขีด พร้อมเปิดแผนขยายธุรกิจเชิงรุก             
 


   
www resources

โฮมเพจ อีจีวี

   
search resources

อีจีวี เอ็นเตอร์เทนเม้นต์, บมจ.
วิชัย พูลวรลักษณ์




นายวิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีจีวี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมของธุรกิจภาพยนตร์และธุรกิจโรงภาพยนตร์ในปีนี้ว่าถือเป็นปีทองของทั้งสองธุรกิจ ที่เชื่อว่าจะขยายตัวอย่างมาก ดูได้จากจำนวนภาพยนตร์ต่างประเทศที่จะเข้ามาฉายในประเทศไทยมี 200 เรื่อง ไม่รวมถึงภาพยนตร์ต่างประเทศจากค่ายอิสระที่จะมีอีก 100 เรื่อง แต่ในจำนวนนี้เชื่อว่าจะมีโอกาสได้ฉายในโรงภาพยนตร์ 50 เรื่อง และเป็นภาพยนตร์ไทยอีก 50 เรื่อง ซึ่งโดยรวมแล้วคาดว่าจะมีภาพยนตร์เข้าฉายรวม 400 เรื่องในปีนี้

“ในจำนวนภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายในปีนี้ มีภาพยนตร์ที่น่าสนใจจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น แมททริก ที่จะฉายทั้งสองภาค ในปีเดียวกัน สตรีเหล็กภาค 2 ที่ต้องจับตามองกันว่าจะทำรายได้ดีกว่าภาคแรก หรือเรื่องฮีโร่ เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดรวมของโรงภาพยนตร์ในปีนี้มีมูลค่าถึง 3,500 ล้านบาท มากกว่าปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่า 3,200 ล้านบาท”

ทั้งนี้ กลุ่มอีจีวี ได้เตรียมความพร้อมในการขยายธุรกิจเชิงรุก ทั้งการปรับปรุงสาขาเดิม ขยายสาขาใหม่ และการหานวัตกรมทางการตลาดใหม่ๆมานำเสนอ โดยการปรับปรุงสาขาเดิมนั้น อีจีวีได้ใช้งบ 250 ล้านบาท ปรับโรงภาพยนตร์เดิมให้เป็นโรงโกลด์ คลาส 4 สาขา ประกอบด้วย สาขาบางแค เพิ่ม 2 โรง แฟชั่นไอส์แลนด์ 1 โรง ซีคอนสแควร์ 1 โรง และลาดพร้าว (อิมพีเรียล ลาดพร้าว) 1 โรง นอกจากนี้ในสาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า บริษัทจะขยายโรงภาพยนตร์ ด้วยการเช่าพื้นที่เพิ่มอีก 2,500 ตารางเมตร โดยพื้นที่ดังกล่าวแต่เดิมเป็น ปิ่นเกล้า ฮอลล์ สำหรับแสดงคอนเสิร์ต ซึ่งพื้นที่ส่วนที่เพิ่มขึ้นจะสร้างเป็นโรงโกลด์ คลาส (โรงภาพยนตร์ที่ใช้เก้าอีกนวม ราคาบัตรใบละ 300 บาทต่อที่นั่ง) ไม่น้อยกว่า 2 โรง และเพิ่มพื้นที่บริการให้มากขึ้น โดยคาดว่าจะดำเนินการเสร็จภายในปีนี้

สำหรับการขยายสาขานั้น คาดว่าจะมีสาขาใหม่ 3 สาขา คือ ที่บิ๊กซี ราชดำริ พื้นที่ 20,000 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุน 800 ล้านบาท ส่วนอีก 2 สาขานั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่จะอยู่ในพื้นที่ที่ยังไม่มีผู้ประกอบการายใดเข้าไปเปิดให้บริการ

นายวิชัย กล่าวว่า บริษัทไม่มีเป้าหมายที่จะเน้นการขยายสาขาจำนวนมาก แต่ที่สิ่งที่ต้องการนำเสนอก็คือ รูปแบบของบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่อีจีวีจะเป็นผู้ริเริ่มก่อนใคร เพื่อสร้างความเป็นผู้นำในธุรกิจบันเทิง และคาดหวังว่าด้วยบริการที่แปลกใหม่จะส่งผลให้อีจีวี เป็นที่หนึ่งในใจของผู้บริโภค

“นับจากนี้ไปเราจะนำเสนอสิ่งแปลกใหม่เป็นประจำทุกเดือน ซึ่งช่วงปลายเดือนอีจีวีจะเปิดตัวรูปแบบของการชมภาพยนตร์ที่ไม่เหมือนใคร และจะหารูปแบบกิจกรรมใหม่ๆมานำเสนอ ซึ่งที่ผ่านมาอีจีวีประสบความสำเร็จจากการจัดกิจกรรมดูหหนังมาราธอน ที่สามารถทำลายสถิติในกินเนสต์ บุค ได้เป็นผสำเร็จ และในปีนี้เชื่อว่ากิจกรรมที่อีจีวี นำมาเสนอจะต้องเป็นที่กล่าวขานกันอีกเช่นกัน”

ทั้งนี้อีจีวี จะใช้งบทางด้าการตลาดในปี 2546 จำนวน 100 ล้านบาท แบ่งเป็นงบซื้อสื่อโฆษณา 50 ล้านบาท และจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย 50 ล้านบาท โดยคาดว่าปีบัญชี 2545 จะทำยอดขายได้ 1,100 ล้านบาท (เริ่ม ก.ค.2545 - มิ.ย.2546) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 900 ล้านบาท โดยสัดส่วนของรายได้มาจาก การขายตั๋วหนัง 75% อาหารและเครื่องดื่ม 12% โฆษณาในโรงภาพยนตร์ 8% และการให้บริการเช่าโรงภาพยนตร์จัดงาน 5% ซึ่งในปีนี้สัดส่วนรายได้จากการให้บริการจัดงานในโรงภาพยนตร์จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 10% ในขณะที่สัดส่วนจากการขายตั๋วหนังจะลดลง

ไตรมาสสองเข้าตลาด

นายวิชัย ยังได้กล่าวถึง แผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า คาดว่าในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้น่าจะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ โดยอีจีวี ได้นำหุ้นออกมาจำหน่าย 20% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ส่วนที่เหลือ 70% จะถือหุ้นโดยตระกูลพูลวรลักษณ์ และกลุ่มบริษัท โฟกัส โกลบอล จำกัด และอีก 10% ถือหุ้นในนามส่วนบุคคล เช่น ดร.สุวรรณ วลัยสเถียร เป็นต้น โดยเงินทุนที่ระดมได้ จะนำไปใช้เพื่อการลดหนี้บางส่วน และอีกส่วนจะใช้เพื่อการขยายสาขาต่อไป

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us