เมเจอร์ฯพร้อมเปิดโฉม “กรุงศรีไอแมกซ์เธียเตอร์”ณ พารากอน ดีเดย์ 28 มิถุนายนนี้ หลังทุ่มเม็ดเงินกว่า 150 ล้านบาทลงทุนใหม่ พร้อมยุบไอแมกซ์สาขาที่รัชโยธิน ชูหัวหอกนำหนังฮอลลีวูดเข้าฉายในแบบ 3 มิติ อีก 5 เรื่องในปีนี้ ประเดิมด้วย “ซูเปอร์แมนรีเทิร์น ทรีดี” คาดทั้งปีจำหน่ายตั๋วหนังได้กว่า 6 แสนใบ มั่นใจอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเติบโต 20 % มูลค่ากว่า 4,600 ล้านบาท

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ลงทุนไปกว่า 100-150 ล้านบาท ในการเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์สามมิติที่สยามพารากอน ภายใต้ชื่อกรุงศรี ไอแมกซ์ เธียเตอร์ ซึ่งการเปิดให้บริการย่านใจกลางเมืองแบบนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดี ที่น่าจะทำให้รายได้จากการฉายภาพยนตร์สามมิติดีกว่าที่เดิมอย่างที่รัชโยธิน

“สยามพารากอนถือเป็นทำเลที่ดี เพราะนอกจากจะอยู่ใจกลางเมืองแล้ว คนในพื้นที่ดังกล่าวบางส่วนยังไม่เคยชมภาพยนตร์สามมิติเลย ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีในการดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆเพิ่ม อีกทั้งในส่วนของกลุ่มนักท่องเที่ยวก็ถือเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ โดยทางบริษัทฯมั่นใจว่าการเปิดให้บริการในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวมีสัดส่วนเป็น 30 % จากจำนวนตั๋วที่จำหน่ายทั้งหมดในปีนี้คาดว่าจะสูงถึง 6 แสนใบ”

ล่าสุดบริษัทฯได้นำเอากลยุทธ์นำภาพยนตร์ฮอลลีวูดเข้าฉายในแบบ 3 มิติมากยิ่งขึ้น โดยส่วนใหญ่จะมาจากค่ายวอเนอร์ฯ ซึ่งในปีนี้จะนำเข้าฉายกว่า 5 เรื่อง ได้แก่ ซูเปอร์แมน รีเทิร์น, แฮปปี้ ฟีท, โอเพ่น ซีซัน, แอ็นท์ บูลลี่ และ โพล่า เอ็กซ์เพรส ส่วนภาพยนตร์ไอแมกซ์สามมิติจะมี 4 เรื่อง คือ ชาร์ก ทรีดี, ดีพ ซี ทรีดี, นาสคาร์ ทรีดี และไวลด์ ซาฟารี ทรีดี

“การที่ค่ายหนังหันมาให้ความสนใจในส่วนของภาพยนตร์สามมิติมากขึ้นนั้น เนื่องจากในขณะที่เทคโนโลยีในส่วนของการทำหนังสามมิตินั้นไม่ยุ่งยากเหมือนก่อน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ได้อีกทางหนึ่งด้วย”

โดยในส่วนของกิจกรรมทางการตลาดนั้น บริษัทฯจะยังคงใช้กลยุทธ์เรื่องลูกค้าให้เข้าไปชมภาพยนตร์ตัวอย่าง รวมไปถึงการจับมือกับทางสยามโอเชี่ยลเวิล์ด และรถไฟฟ้าบีทีเอส คาดว่าจะส่งผลให้ลูกค้าในกลุ่มฮอลลี่วูด แฟน สูงถึง 50 % และกลุ่มสคูลมีสัดส่วน 20% ได้ในปีนี้

สำหรับโรงภาพยนตร์ กรุงศรี ไอแมกซ์ นั้น ขณะนี้ถือเป็นโรงภาพยนตร์ที่มีจอขนาดใหญ่เท่ากับตึก 8 ชั้น (23x21 เมตร) สามารถจุที่นั่งได้กว่า 550 ที่นั่ง และมีล๊อบบี้สำหรับจัดกิจกรรมพื้นที่กว่า 700 ตารางเมตร โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป ด้วยภาพยนตร์เรื่อง “ซูเปอร์แมน รีเทิร์น ทรีดี” และจะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น ในขณะที่ค่าเข้าชมภาพยนตร์ สามมิติฮอลลี่วูดจะอยู่ที่ 250 บาทต่อคน และสามมิติของไอแมกซ์อยู่ที่ 160 บาท

ส่วนโรงภาพยนตร์สามมิติไอแมกซ์ที่รัชโยธินนั้น ขณะนี้ได้มีการรีโนเวทให้เป็นโรงภาพยนตร์ขนาด 35 มม. ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ปัจจุบันโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ทั่วโลกนั้นมีกว่า 255 โรง โดยในทวีปเอเชียมีกว่า 40 โรง ทั้งนี้ในแต่ละปีทั่วโลกจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 30 โรงต่อปี

อุตสาหกรรมภาพยนตร์โต 20 %

อย่างไรก็ตาม ประธาน เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป ได้กล่าวถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศไทยอีกด้วยว่า น่าจะมีการเติบโตอย่างน้อย 20 % ในปีนี้หรือกว่า 4,500-4,600 ล้านบาท ในขณะที่ 5เดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่ ม.ค.-พ.ค. กลุ่มเมเจอร์เติบโตขึ้น 30 % โดยเฉพาะในเดือนพ.ค.-เม.ย.เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เติบโตขึ้นกว่า 50 % เนื่องจากมีภาพยนตร์เข้าฉายที่ทำเงินเยอะมาก เช่น MI-3 และ X- MEN

ในขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ยังคงมีความมั่นใจในไลน์อัปของภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายอยู่ว่าน่าจะส่งผลให้การเติบโตของอุตสาหกรรมเติบโตไปตามที่คาดการณ์ไว้ เช่น ภาพยนตร์ฮอลลี่วูดฟอร์มยักษ์ เรื่องไพรอท ออฟ เดอะ คาริเบียน และ เจมบอนส์ หรือแม้แต่ภาพยนตร์ไทยอย่าง เรื่อง พระนเรศวร ที่จะเข้าฉายในวันที่5 ธ.ค.นี้ ก็น่าจะช่วยให้ปีนี้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยสดใสขึ้น

ส่วนการแข่งขันฟุตบอลโลกในขณะนี้นั้น มองว่าไม่ส่งผลกระทบต่อโรงภาพยนตร์มากนัก โดยอาจจะส่งผลในช่วงภาพยนตร์รอบดึกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น