Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 มิถุนายน 2549
ธปท.เตือนภาคธุรกิจระวังกำไรหดบริษัทกู้เงินต่างชาติดูแลดบ.-ค่าเงิน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
Economics




จากภาวะอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้น มีผลกดดันให้ต้นทุนในการดำเนินงานของบริษัทต่างๆ ในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น แบงก์ชาติเตือนบริษัทที่ต้องพึ่งพาการกู้ยืมเงินเป็นจำนวนมากในการดำเนินธุรกิจต้องระวัง ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ที่กู้เงินจากต่างประเทศต้องคอยดูแลต้นทุนที่อาจจะเกิดจากอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนที่มีการผันผวนในขณะนี้เพิ่มขึ้นด้วย

นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่า ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า จากการที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น และปัจจัยราคาน้ำมันที่มีผลกดดันให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้น ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้อาจมีผลกระทบต่อต้นทุนในการดำเนินงาน จนทำให้กำไรของบริษัทต่างๆ ที่ดำเนินกิจการในระบบเศรษฐกิจอาจได้รับผลกระทบดังกล่าวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจ ซึ่งต้องพึ่งพาการกู้ยืมเงินเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ บริษัทที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ คือ บริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องกู้เงินจากต่างประเทศมาดำเนินธุรกิจเป็นจำนวนมาก อาจจะได้รับผลกระทบด้านต้นทุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงการความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดโลกที่สูงในขณะนี้ และอาจจะมีผลต่อการทำกำไรและการดำเนินงานของบริษัทเหล่านี้ในระยะต่อไปได้

“แต่ละบริษัทที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจจะมีต้นทุนแตกต่างกันไป ซึ่งบางบริษัทก็มีการระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ อาจลดปัญหาต้นทุนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยไปได้บางส่วน แต่การที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นก็จะทำให้ประชาชนชะลอการใช้จ่ายและอาจจะทำให้ผลประกอบการบริษัทต่างๆในปีนี้อาจจะลดลงก็ได้”

ทั้งนี้ จากข้อมูลของธปท.ได้รายงานเศรษฐกิจและการเงินประจำเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่า หนี้ต่างประเทศโดยรวมล่าสุด ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2549 มียอดคงค้าง 56.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 53.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการนำเข้าหนี้ของภาคธนาคารเป็นสำคัญ ขณะที่โครงสร้างหนี้ต่างประเทศก็มีสัดส่วนหนี้ระยะสั้นคิดเป็น 32.8%ของหนี้ต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 29.5 ในเดือนก่อน

โดยหนี้รัฐบาลมียอดคงค้าง 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐค่อนข้างทรงตัวจากเดือนก่อน แม้ว่ารัฐบาลจะมีการไถ่ถอนตราสารหนี้ระยะยาวที่ครบกำหนด(Japanese Yen Bond Fifteen-series)ในเดือนนี้ก็ตาม และหนี้ภาคธนาคารมียอดคงค้าง 8.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนจำนวน 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากสาขาธนาคารพาณิชย์ญี่ปุ่นนำเข้าหนี้ระยะสั้นเพื่อปิดงวดบัญชีเป็นสำคัญ ขณะที่กิจการวิเทศธนกิจชำระคืนเงินกู้สุทธิเพียงเล็กน้อย จึงทำให้ยอดคงค้างทรงตัวจากเดือนก่อน

สำหรับหนี้ภาคอื่นๆ มียอดคงค้าง 43.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขั้นจากเดือนก่อนจำนวน 0.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลจากการนำเข้าเงินกู้โดยตรงของบริษัทเอกชนบางกลุ่มและการนำเข้าสินเชื่อการค้าของธุรกิจน้ำมัน ส่วนรัฐวิสาหกิจมีการชำระคืนหนี้สุทธิจำนวน 0.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us