Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 มิถุนายน 2549
ธุรกิจสื่ออุดจุดบอดรับเศรษฐกิจซบ งัดลูกเล่นล่อสินค้าซื้อเวลาโฆษณา             
 


   
search resources

ธีรพันธ์ โล่ห์ทองคำ
Advertising and Public Relations




ธุรกิจสื่อ”โทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์” รับเศรษฐกิจพ่นพิษกระทบเจ้าของสินค้าแห่ลดงบโฆษณา เปิดศึกแพกเกจ “ลด แลก แจก แถม” ชิงเม็ดเงินเข้ากระเป๋า ส่วนกุศโลบายอันแยบยลอัดบีโลว์เดอะไลน์-อะโบฟเดอะไลน์เชื่อมต่อกัน ดันขายพื้นที่โฆษณาง่ายขึ้น ขณะที่เทรนด์รายการโทรทัศน์โหนกระแสบอลโลกเรียกเรตติ้ง ด้วยการอัดของรางวัลล่อใจผู้ชม

ในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบเป็นอันดับแรกๆก็คือ ธุรกิจสื่อ ประกอบด้วย สื่อทางโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และวิทยุ เนื่องจากเจ้าของสินค้าจะเลือกลดต้นทุน ด้วยการตัดงบโฆษณาเป็นอันดับแรกๆ โดย“สื่อ”ที่ได้รับผลกระทบหนักในขณะนี้ คือ สื่อวิทยุ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมากระทั่งจีเอ็มเอ็ม มีเดีย ก็ยังปรับตัว ด้วยการลดคลื่นวิทยุไป 2 คลื่น ขณะที่สื่อโทรทัศน์-สิ่งพิมพ์ก็ไม่โต ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ต้องจับตาการปรับตัวธุรกิจสื่อ ว่าจะมีแท็กติกแก้เกมอย่างไร เพื่อรับมือกับวิกฤติการณ์ในครั้งนี้

นายธีรพันธ์ โลห์ทองคำ ประธานกรรมการบริหารด้านการสื่อสาร (Chief Communication Officer) บริษัท ธรู เดอะไลน์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ถึงแท็กติกในการปรับตัวของธุรกิจสื่อ เพื่อความอยู่รอดในภาวะที่เจ้าสินค้าปรับลดงบในการโฆษณาลงว่า แท็กติกแรกๆที่เชื่อว่าวงการสื่อ ไม่ว่าจะเป็น สื่อโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ หรือกระทั่งวิทยุจะงัดขึ้นมาใช้ ก็คือ การลดราคาค่าสปอตโฆษณาลง เพื่อจูงใจให้เจ้าของสินค้าใช้สื่อโฆษณามากขึ้น หลังจากในช่วงที่ผ่านมา สื่อแทบจะทุกแขนงขึ้นราคาสปอตโฆษณาทุกปี โดยเฉพาะสื่อทางโทรทัศน์

“ขณะนี้สื่อโทรทัศน์ ซึ่งเป็นสื่อที่มีราคาแพงที่สุด เริ่มลดหย่อนการขายแพกเกจสปอตโฆษณาลงแล้ว จากเดิมในช่วงโฆษณา สปอตแรกเจ้าของสินค้าจะช่วงชิงกัน เนื่องจากผู้ชมจะจดจำได้ดีกว่า และไม่สามารถเปลี่ยนช่องได้ทัน ส่งผลให้สปอตแรกอัตราค่าโฆษณาจะสูงมาก แต่ขณะนี้ในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว เจ้าของรายการหรือสถานีมีการใช้แท็กติก คือ ไม่ลดราคาให้แต่สามารถนำโฆษณาชิ้นนั้นไปเป็นสปอตแรกของการคั่นรายการ”

สำหรับแท็กติกอันแยบยล ก็คือ การทำบีโลว์เดอะไลน์หรือมีการจัดกิจกรรมตลาดมากขึ้น หรือพูดง่ายๆ คือ การนำบีโลว์เดอะไลน์กับอะโบฟเดอะไลน์มาเชื่อมต่อกัน ทำให้ผู้ชมหรือผู้ฟังเข้ามาส่วนร่วมในระหว่างการดำเนินรายการมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การขายพื้นที่โฆษณาทำได้ง่ายมากขึ้น แท็กติกนี้จะเห็นว่าแม้กระทั่งจีเอ็มเอ็ม มีเดียก็ยังคงให้ความสำคัญ แม้ว่าจะมีการลดคลื่นวิทยุไปถึง 2 คลื่นแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ลดงบ 100-120 ล้านบาทในส่วนของการจัดกิจกรรมลง

ใช้สื่อในเครือผุดอีเวนต์ครั้งใหญ่

นายธีรพันธ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่ผู้ประกอบการมีธุรกิจสื่อหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ อาทิ หนังสือพิมพ์รายวัน หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ พ็อกเกตบุค นิตยสาร ฯลฯ สามารถนำสื่อที่ในเครือบริษัทมีอยู่มาร่วมจัดกิจกรรมครั้งใหญ่ ซึ่งสื่อที่มีอยู่ทั้งหมดจะช่วยโฆษณาสินค้าภายในตัวเอง ขณะที่ภายในงานมีการบูธจัดแสดงสินค้า การจำหน่ายสินค้าเป็นแพกเกจ-ลดราคา และรับสมัครสมาชิก สำหรับการจัดอีเวนต์หรืองานมหกรรม

แท็กติกต่อไป การนำแบรนด์สื่อที่มีอยู่มาเป็นผู้สนับสนุนหรือสปอนเซอร์ชิป เช่น ในช่วงฟุตบอลโลก 2006 ที่ ประเทศเยอรมัน มีสื่อสิ่งพิมพ์หลายตัวใช้แท็กติก ได้แก่ คิกออฟหนังสือกีฬา เนื่องจากเป็นสื่อที่สอดคล้องกับช่วงเทศกาลนี้พอดี หรือกระทั่งหนังสือพิมพ์สยามรัฐ จัดกิจกรรมทายผลบอล เป็นต้น

ดึงคนมีส่วนร่วม-พ่วงของแถม

นายธีรพันธ์ กล่าวต่อเพิ่มเติมถึงแท็กติกการดึงคนทั้งจากผู้ชมหรือผู้อ่าน-ฟังให้เข้ามามีส่วนรวมกับสื่อนั้นๆ เช่น มีการแจกของรางวัล อย่างรายการเรื่องเล่าเช้านี้ มีการแจกของรางวัลในแต่ละช่วง โดยให้ผู้ชมตอบคำถาม ขณะที่รายการวิทยุก็ให้ผู้ฟังร่วมสนุกตอบคำถาม และมอบรางวัลพาไปร่วมท่องเที่ยว

ทั้งนี้แท็กติกนี้จะช่วยในเรื่องเรียกเรตติ้งให้รายการนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมรายการกับเจ้าของรายการนั้น และเมื่อเรตติ้งดีก็นำมาซึ่งโฆษณาที่จะเข้ามามากขึ้น ส่วนแท็กติกสุดท้ายที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ การพ่วงของแถมซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ล่อใจเจ้าของสินค้าได้เป็นอย่างดี เช่น เมื่อลงโฆษณาแล้ว มีแถมทำสกู๊ปหรือข่าวประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมให้

ตลาดโฆษณา5เดือนแรกโต4.30%

บริษัท เอซี นีลเส็น ประเทศไทย จำกัด แจ้งว่า มูลค่าตลาดงบโฆษณาโดยรวมในช่วงเดือนพฤษภาคม 2549 เพียงเดือนเดียว มีมูลค่ารวมมากกว่า 7,653 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่มี 7,347 ล้านบาท เติบโต 4.16% โดยสื่ออินสโตร์เติบโตมากที่สุดแต่ก็ยังเป็นฐานที่ต่ำจาก 12 ล้านบาท เป็น 27 ล้านบาทหรือ 125% ขณะที่สื่อหนังสือพิมพ์ตกลงมากที่สุดกว่า 4.34% จาก 1,312 ล้านบาทเหลือแค่ 1,255 ล้านบาท ส่วนสื่อทีวียังคงเติบโตจาก 4,410 ล้านบาท เป็น 4,620 ล้านบาท ประมาณ 4.76% ทางด้านสื่อวิทยุ มีมูลค่า 597 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.14% จากเดิมที่มี 547 ล้านบาท สื่อนิตยสารมีมูลค่า 500 ล้านบาท ลดลง 1% จากเดิม 509 ล้านบาท สื่อโรงหนัง 169 ล้านบาท เพิ่มจากเดิมที่มี 114 ล้านบาท หรือ เติบโต 48% สื่อกลางแจ้ง มีมูลค่า 401 ล้านบาท เติบโต 4% จากเดิมที่มี 383 ล้านบาท สื่อเคลื่อนที่มูลค่า 79 ล้านบาท จากเดิม 59 ล้านบาทเติบโต 33%

ขณะที่งวด 5 เดือนแรกปีนี้ มูลค่าตลาดโฆษณาโดยรวมอยู่ที่ 36,044 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่มี 34,559 ล้านบาท เติบโต 4.30% โดยสื่อทีวียังครองตลาดมากสุด มีมูลค่ากว่า 21,674 ล้านบาท จากเดิมที่มี 20,497 ล้านบาท เติบโต 5.74% แต่สื่อที่เติบโตมากที่สุดคือ สื่ออินสโตร์เช่นกัน จาก 51 ล้านบาทเป็น 90 ล้านบาท เติบโต 76% และสื่อหนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่ตกลงมากที่สุด 2.14% คือ จาก 6,545 ล้านบาท เหลือ 6,405 ล้านบาท โดยสื่ออื่นที่เหลือนั้น สื่อวิทยุ มูลค่า 2,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากเดิมที่มี 2,432 ล้านบาท สื่อนิตยสาร มูลค่า 2,391 ล้านบาท เพิ่มจากเดิม 2% ที่มีมูลค่า 2,344 ล้านบาท สื่อโรงหนัง มูลค่า 525 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากเดิมที่มี 495 ล้านบาท สื่อกลางแจ้งมีมูลค่า 1,957 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากเดิมที่มี 1,875 ล้านบาท สื่อเคลื่อนที่มีมูลค่า 369 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากเดิมที่มี 320 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us