ชินนี่ปรับยุทธศาสตร์ รับตลาดบริการเสริม ด้วยการให้ ความสำคัญกับลูกค้าหรือ Customer Lead แทนที่การออกโปรดักส์มาแล้วขายเลยหรือ Product Lead พร้อมประสานข้อมูล 3 ฝ่ายด้านลูกค้าผู้ใช้บริการด้วยการตั้งยุวทูตตามสถานศึกษาหวังให้เก็บข้อมูลและเผยแพร่ในแง่วอยซ์ ออฟ คัสตอมเมอร์ ด้านโอเปอเรเตอร์ด้วยการเสนอบริการเสริมใหม่ๆและด้านซัปพลายเออร์ด้วยการสร้างบริการเฉพาะพิเศษในมือถือ ตั้งเป้ารายได้ 100 ล้านบาท

นายปราวุธ กอบบุญ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ชินนี่ดอทคอม กล่าวถึงแผนธุรกิจในปี2546 ว่า ชินนี่คาดว่าจะทำรายได้ประมาณ 100 ล้านบาทเพิ่มจากในปี 2545 ที่มีรายได้ 45 ล้านบาทโดยกลยุทธ์ในปีนี้ประกอบด้วย 1.เปลี่ยนเป้าหมายการตลาดจากเดิมที่เป็น Product Lead เป็น Customer Lead 2.ปี 2546 จะเป็นปีที่ชินนี่รุกการตลาดรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะต้องมีการกระตุ้น การทำงานภายในทุกฝ่าย ในขณะเดียว กันต้องประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เนื่องจากเป็นปีที่ต้องเติบ โตอย่างมาก

3.เรื่องคน ธุรกิจชินนี่คือซอฟต์แวร์ คีย์หลักคือคน หากไม่แฮปปี้มีความสุขในการทำงานก็จะมีปัญหา ในธุรกิจมีการแข่งขันสูงมาก มีการซื้อตัวซึ่งสู้ตรงๆไม่ได้ แต่ จะต้องมีแฟกเตอร์อื่น ชินนี่อาจไม่ใช่บริษัทที่จ่ายสูงสุดแต่ต้องมีความท้าทายบางอย่างให้ และ 4.การจัดการภายในต่างๆเพื่อรองรับการเติบโตขององค์กร

เขาขยายความของกลยุทธ์หลักในปี 2546 ที่จะเปลี่ยนจาก Product Lead เป็น Customer Lead เนื่องจากในปี 2545 เมื่อชินนี่ทำโปรดักส์อะไรเสร็จ ก็จะนำออก สู่ตลาดเลย ซึ่งทำให้ได้บทเรียนจาก การที่มีโปรดักส์บนเว็บไซต์ประ มาณ 30 โปรดักส์ และสามารถใช้บริการเปิดได้ตรงจากโทรศัพท์มือถือประมาณ 12 โปรดักส์ แต่ปรากฏ ว่ามีแค่ 4 โปรดักส์ ที่ทำเงินให้เป็นสัดส่วนถึง 95%

"ผมว่าเหมือนเล่นหุ้น เราต้อง จัดพอร์ตโฟลิโอให้ดี เพราะเงินเรามีจำกัดต้องทำอย่างไรให้โปรดักส์ที่มีอยู่เสริมกันได้ ที่ผ่านมาเหมือนเราไม่มีกำลังพอไปโปรโมตโปร-ดักส์พวกนั้น และโปรดักส์ที่จะเข้ามาใหม่อย่างจาวา MMS เราหวังว่า ครึ่งปีหลัง จะมีมากขึ้น แต่เราต้อง เตรียมตัวให้พร้อมก่อน และทำอย่างไรเมื่อตลาดพร้อมแล้วเราสามารถให้บริการได้ทันที"

การมุ่งลูกค้าเป็นหลักหรือ Customer Lead จะเปลี่ยนแปลง ไปจากเดิมมาก เพราะก่อนหน้านี้การจะออกโปรดักส์จะคิดเองดูอย่างต่างประเทศบ้างเห็นมีริงโทน ชินนี่ก็ออกริงโทนหรือเสียงเรียกเข้าเป็นเพลง ดนตรีหรือเสียงต่างๆ ไม่มีโอกาสรู้ว่าลูกค้าจริงๆต้องการคอนเทนต์ประเภทไหนอย่างไร

ชินนี่ทำได้อย่างมากแค่ให้ทีมการตลาดออกไปคุยกับลูกค้าหรือยูสเซอร์ที่ทั้งเคยและไม่เคยใช้ เดือนละ 2-3 ครั้ง ซึ่งทำให้ได้ข้อมูล ที่ไม่เข้มข้นเท่าที่ต้องการ

ในปีนี้ ชินนี่จะต้องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ใช้บริการมากขึ้น แต่ไม่ถึงกับการ นำระบบ CRM มาใช้เป็นเพราะชินนี่ยังเล็กเกินไป แต่สิ่งสำคัญคือต้องหาข้อมูลที่ทำให้ชินนี่เห็นแนวโน้มหรือเทรนของกลุ่มผู้ใช้บริการให้ได้

ชินนี่จะใช้วิธีเลือกยุวทูตจากนักศึกษามหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษาที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย มาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา โดยกลุ่มยุวทูต จะได้รับค่าใช้จ่ายต่อเดือนประ มาณ 3,000 บาททำงานในลักษณะระยะยาว โดยที่ต้องเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของชินนี่

"กลุ่มยุวทูตต้องมาร่วมกิจกรรมต่างๆของเรา ให้ข้อมูลเรา เพราะอยู่ในกลุ่มเป้าหมายของเรา ทำให้มีความต่อเนื่องมากขึ้น และเมื่อเราทำอะไรต่อไปอย่างน้อยจะมีวอยซ์ ออฟ คัสตอมเมอร์ ซึ่งเราเอาเสียงตรงนี้มาประเมินร่วมกับการสำรวจตลาดเบื้องนอกที่เราทำอยู่แล้ว เพื่อมาดูว่าโปรดักส์ที่เราออกไปสำเร็จหรือล้มเหลวเพราะอะไร"

ชินนี่มั่นใจว่าด้วยข้อมูลดังกล่าวทำให้การทำตลาดไม่เกิดอาการหลงทางเพราะที่ผ่านมาชินนี่มักลุยไปข้างหน้า โดยขาดข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่ดีพอ โดยขั้นต่อไปจะต้องเป็นการทำงานใกล้ ชิด ผสานข้อมูล 3 ด้านระหว่างความต้องการของลูกค้า ผู้ให้บริการ โทรศัพท์มือถือและซัปพลายเออร์ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ

"เรารู้ว่าลูกค้าปลายทางต้องการอะไร ผู้ให้บริการไม่มีเวลาโฟกัสเรื่องบริการเสริมมาก ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเราหรือกับซัปพลายเอออร์โทรศัพท์มือถือเราก็พร้อมออกโปรดักส์ที่มีเฉพาะสำหรับโทรศัพท์มือถือยี่ห้อนั้นๆ หน้าที่เราคือต้องนำข้อมูล 3 ส่วนมาปรับปรุงเป็นบริการออกไปให้ดีที่สุด"

เขามองว่าตลาดที่ชินนี่ทำธุรกิจ ซึ่งเป็นบริการเสริมของโทรศัพท์มือถือ ประเภทการดาวน์โหลดโลโก้ ริงโทน พิกเจอร์แมสเซส เป็นตลาดที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นที่สำคัญยังไม่มีการตัดราคากัน การตัดสินใจซื้ออยู่ที่ลูกค้าเป็นหลัก ถึงแม้คอนเทนต์เหมือนกันแต่ราคาต่างกันก็ไม่ใช่ปัญหา

จุดแข็งของชินนี่อยู่ที่ความเป็นกลางในการรวบรวมคอนเทนต์ ต่างๆ อย่างกรณีริงโทนซึ่งเป็นบริการเสริมที่คนใช้มากที่สุดประ มาณ 60% ชินนี่ก็มีเพลงของทั้ง แกรมมี่ อาร์เอส โซนี่ วอร์เนอร์ ยูนิเวอร์แซล ส่วนพวกภาพการ์ตูน ก็มีลิขสิทธิ์ของซาริโอและการ์ตูนเน็ตเวิร์ก ซึ่งปัจจุบันชินนี่อยู่ในอันดับ 3 ในตลาดรองจากอีโอ กับเอ็มเว็บ การแข่งขันกัน 2-3 รายหลักเป็นเรื่องดีในการกระตุ้นตลาด จากมูลค่าตลาดรวมประมาณเดือน ละ 40 ล้านบาท

"ปี 2546 เราอยากให้ตลาดมองชินนี่ดอทคอมเป็นผู้นำในด้านบริการเสริมด้านอินโนเวชั่นมีอะไร ใหม่ๆ ชินนี่ต้องมีก่อนเพื่อน คอนเทนต์เป็นคอนเทนต์ที่ดี เพราะเป็น แวลลูของบริษัท สนุกสนานเฮฮา สรุปคือชินนี่คือลีดเดอร์ เช่นจาวาเราพูดก่อน พยายามทำตรงนี้มากขึ้น ซึ่งคอนเทนต์ชินนี่ก็มีในดีแทค ด้วย เราวางตัวเองเป็นกลางและจะ คุยกับออเร้นจ์และฮัทชิสัน บิสซิเนสโมเดลคือการแบ่งรายได้"