หุ้นจองครึ่งปีแรกให้ผลตอบแทนติดลบ เหตุภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวย ฉุดราคาหุ้นรูดลงมาต่ำกว่าจอง เผยราคาหุ้นในปัจจุบันทุกบริษัทยังไม่พ้นจอง เชื่อส่งผลให้ดึงความสนใจของนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นจองน้อยลง

จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์พบว่าหุ้นใหม่ที่เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ SET และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอหรือ maiในครึ่งปีแรกของปีนี้นั้น หุ้นใหม่ที่เข้ามาซื้อขายราคาจะปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าราคาจองเกือบทั้งหมดในวันแรก จะมีเพียงบริษัทโรงกลั่นน้ำมันระยอง จำกัด(มหาชน)หรือ RRC เท่านั้นที่ราคาวันแรกสูงกว่าจองประมาณ 1.67% โดยราคาจองกำหนดไว้ที่หุ้นละ 18 บาท แต่ต่อมาราคาก็ปรับตัวลดลงจนต่ำกว่าจองถึงแม้ว่าจะมีการนำกรีนชูมาใช้ก็ตาม โดยราคาล่าสุดวานนี้(15 พ.ค.)ราคาปิดที่ 17.70 บาท

ส่วนหุ้นใหม่ที่เหลืออีก 4 บริษัทซึ่งประกอบด้วยหุ้นบริษัทจีสตีลหรือ GSTELL ราคาวันแรกต่ำกว่าจอง 16.87% และราคาวานนี้อยู่ที่ 1.21%,หุ้นบริษัทซิตี้ สตีลหรือ CITY ราคาวันแรกต่ำกว่าจอง 2.04% ขณะที่ราคาวานนี้อยู่ที่ 2.28 บาท,หุ้นบริษัทไทยออพติคอล กรุ๊ปหรือ TOG ราคาวันแรกเท่ากับราคาจองที่ 2.80 บาท แต่ราคาวานนี้ลงมาอยู่ที่ 2.38 บาทแล้ว หุ้นบริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสหรือSECC ราคาวันแรกต่ำกว่าจอง 7.33% ราคาวานนี้อยู่ที่ 2.73 บาท และหุ้นบริษัทถิรไทย ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ราคาวันแรกต่ำกว่าจอง 6.09% ราคาวานนี้อยู่ที่ 3.42%(รายละเอียดดูตารางประกอบ)

แหล่งข่าวจากวาณิชธนกิจกล่าวว่า สาเหตุที่หุ้นจองในปีนี้ให้ผลตอบแทนที่ติดลบ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดหุ้นที่ไม่เอื้ออำนวย เพราะได้รับผลกระทบในด้านต่างๆ ทั้งราคาน้ำมัน,อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และการที่นักลงทุนต่างประเทศเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ราคาหุ้นจองของทุกบริษัทที่เข้ามาซื้อขายในปีนี้ ขณะนี้ระดับราคาอยู่ต่ำกว่าราคาจองทั้งหมด

"การที่ราคาหุ้นจองปรับตัวลดลงนั้น ไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐานที่ไม่ดี แต่เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดหุ้นโดยรวม ซึ่งเกิดขึ้นกับหุ้นทั้งตลาด อย่างไรก็ตามการที่หุ้นจองเข้ามาซื้อขายแล้วไม่ประสบความสำเร็จ จึงส่งผลทำให้หุ้นจองหลายบริษัทที่อยู่ระหว่างเตรียมจะเข้ามาซื้อขายได้ชะลอแผนออกไปก่อน"แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้คาดว่าภายในปีนี้จะมีบริษัทใหม่ที่เข้ามาจดทะเบียนจำนวนน้อยกว่าปีก่อน เพราะหลายบริษัทใหม่ต้องการอให้ภาวะตลาดหุ้นกลับมาฟื้นตัวเสียก่อน และเชื่อว่าทั้งปีนี้แนวโน้มการให้ผลตอบแทนจากหุ้นใหม่อาจจะไม่สูงมากนัก โดยปัจจัยหลักขึ้นอยู่กับสภาพตลาดหุ้นโดยรวม

นอกจากนี้จะต้องจับตามองว่าหุ้นใหม่ที่จะเสนอขายนั้น คาดว่าแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหรือลีดอันเดอร์เตอร์คงจะกำหนดราคาที่ไม่สูงมากนัก โดยจะมีส่วนลดให้กับนักลงทุน และเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามความสนใจของนักลงทุนที่จะลงทุนในหุ้นจองคงจะอยู่ในระดับน้อยลง หลังจากที่หุ้นจองส่วนใหญ่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนในช่วงที่ ผ่านมา