ธ.ก.ส.กัดฟันตรึงดอกเบี้ยช่วยเกษตรกรต่อพร้อมลดดอกเบี้ยให้ลูกค้า 2.2 ล้านรายที่วงเงินกู้ไม่เกิน 1 แสนบาททำให้สูญรายได้ถึง 500 ล้าน เล็งติดตั้งตู้เอทีเอ็ม 150 เครื่องภายในมี.ค.50 ใช้เวลา 4 ปีถึงจุดคุ้มทุน ด้าน"วราเทพ"เตรียมโยกเงินจากหน่วยงานราชการมาให้ธ.ก.ส.ได้หมื่นล้านภายใน 2-3 เดือนนี้ ยันไม่มีปัญหาด้านสภาพคล่อง แต่เป็นการหาเงินทุนเพิ่มในการเพิ่มดุลยภาพทางการเงินขององค์กร
นายบุญไทย แก้วขันตี ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากกรณีทีธนาคาร แห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้ประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% นั้น ขอยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าของ ธ.ก.ส.แต่อย่างใด เพราะทางธนาคารจะยังตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ไว้เท่าเดิม ส่วนมาตรการช่วยเหลือประชาชนของภาครัฐบาลที่ต้องการให้ทางธ.ก.ส.ลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงอีกนั้น ขณะนี้รัฐบาลก็ยังอยู่ในขั้นตอนเจรจาเพื่อหาเงินจากกองทุนต่างๆให้ย้ายมาฝากไว้ที่ธ.ก.ส. ซึ่งจากการประเมินแล้วยังต้องการเงินประมาณ 3-4 หมื่นล้าน และกรณีการลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าเฉพาะวงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาท มีลูกค้าเก่าและใหม่เข้าเกณฑ์ประมาณ 2.2 ล้านราย ทำให้เสียรายได้ไป 400-500 ล้านบาท
"หากรัฐบาลหามาได้ก็จะสามารถลดดอกเบี้ยลงได้แน่ แต่จะลดได้เท่าไหร่ก็ต้องขึ้นอยู่กับจำนวนที่รัฐบาลหามาให้ แต่ถ้าหากว่าสุดท้ายแล้วรัฐบาลหามาไม่ได้จริงๆ เราก็อาจจะหาวิธีอื่นในการช่วยเหลือ โดยอาจจะไปดูที่ต้นทุนของเราว่าจะยังสามารถช่วย เหลือประชาชนได้เพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ไปดูเรื่องประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และการหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยถูก เช่น การระดมเงินฝาก เหมือนการออกสลากออมทรัพย์ทวีสินที่ทำอยู่ปัจจุบัน แต่ทั้งนี้แค่เราไม่ขึ้นดอกเบี้ยก็ถือว่าช่วยประชาชนมากแล้ว เพราะถ้าแบงก์อื่นขึ้นดอกเบี้ย แต่เราไม่ขึ้นก็เหมือนเรายืนอยู่กับที่ ถ้าจะให้ลดอีกก็จะยิ่งแย่กับธนาคาร"นายบุญไทยกล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันธ.ก.ส.มีเงินฝากแบบบัญชีออมทรัพย์ถึง 70% โดยเป็นวงเงินประมาณ 300,000 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นเงินจากภาครัฐและรัฐวิสาหกิจประมาณ 180,000 ล้านบาท โดยธนาคารจะให้ดอกเบี้ย 0.5 % ต่อปี
นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ได้เตรียมที่จะติดตั้งตู้เอทีเอ็ม โดยมีผู้ร่วมทุนคือ บริษัท แพลเนร่า จำกัด ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการส่งร่างสัญญา ให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ หากร่างสัญญาดังกล่าวแล้วเสร็จ ธ.ก.ส.จะเร่งลงนามโดยเร็วที่สุด โดยจะดำเนินการติดตั้งให้ครบ 150 เครื่องทั่วประเทศ ภายในปีบัญชีธ.ก.ส.เดือนมีนาคมปี 2550 ทั้งนี้คาดว่าจะมีจุดคุ้มต่อการลงทุนต้องใช้เวลาประมาณ 4 ปี และธ.ก.ส.จะดำเนินการติดตั้งตู้เอทีเอ็มให้ได้จำนวน 600 เครื่องภายใน 7 ปี เพื่อรองรับการดำเนินธุรกรรมทางการเงินในอนาคต อย่างไรก็ตาม การร่วมทุนในครั้งนี้ ธ.ก.ส.จะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินหลายร้อยล้านบาท
นายบุญไทยกล่าวอีกว่า เพื่อเดินหน้าระดมเงินฝากอย่างต่อเนื่อง ธ.ก.ส.จึงได้เตรียมออกสลากออมทรัพย์ทวีสินเพิ่มเติมอีก 20,000 ล้านบาท ในช่วงเดือนธันวาคมหรือในช่วงวันพ่อ คาดว่าอัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทนจะสูงกว่าชุดที่ผ่านมาไม่เกิน 0.5% โดย ธ.ก.ส.ตั้งเป้าหมายระดมเงินฝากจากโครงการต่าง ๆ ประมาณ 80,000 ล้านบาทในปีนี้ เพราะต้องปล่อยสินเชื่อใหม่ต่อปีประมาณ 70,000-80,000 ล้านบาท โดยขณะนี้มีเงินฝากประมาณ 450,000 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อแล้ว 400,000 ล้านบาท มีต้นทุนเงินฝากรวมค่าบริหารจัดการกว่า 5% จากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประมาณ 7.5% ซึ่งหลังจากได้ลดอัตราดอกเบี้ยให้ลูกค้าย่อยกู้เงินไม่เกิน 100,000 บาท อีก 1% เริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ธ.ก.ส.ต้องการระดมเงินฝากจากแหล่งต่าง ๆ เช่น องค์กร หน่ายงานราชการที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำประมาณ 10,000-30,000 ล้านบาท เพื่อมาชดเชยการลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว
รมช.คลังคาด 2-3 เดือนหาเงินฝากต้นทุนต่ำให้ ธ.ก.ส.ได้
ด้านนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังมีแนวทางการหาเงินทุนให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐโดยคิดดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่ลูกค้ารายย่อยว่า กำลังพิจารณาเงินฝากของกองทุนต่าง ๆ ที่กระทรวงการคลังดูแลอยู่ และเงินฝากของหน่วยงานราชการ ที่ฝากอยู่กับแหล่งต่างๆ แต่โดยหลักการแล้วการดึงเงินฝากดังกล่าว จะไม่ให้กระทบต่อการหาผลตอบแทนที่ลดลงจากแหล่งเงินฝากเดิม เพื่อไม่ให้เป็นการแก้ปัญหาหนึ่ง แล้วไปสร้างปัญหาอีกด้านหนึ่ง
"เงินทุนดังกล่าวจะเน้นเงินกองทุนหรือสถาบันที่ใกล้ครบกำหนดแล้ว และคาดว่าอีก 2-3 เดือน จะสามารถหาเงินทุนให้ ธ.ก.ส.ได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการประชุมคณะกรรมการครั้งที่ผ่านมา ได้มีมติลดอัตราดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้ารายย่อยที่กู้เงินไม่เกิน 1 แสนบาท ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ แต่ยืนยันว่าเป็นการหาเงินทุนให้ธ.ก.ส.นั้น ไม่ใช่เกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง แต่เพื่อเป็นการหาเงินทุนเพิ่มในการเพิ่มดุลยภาพทางการเงินขององค์กร และการลดอัตราดอกเบี้ยจะไม่ขอเงินชดเชยจากรัฐบาล แต่จะเป็นการลดต้นทุนด้านอื่นแทน"นายวราเทพกล่าว
|