Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 มิถุนายน 2549
"เยาวเรศ'ดึงTMBปล่อยกู้ธุรกิจจัดสรร ปั้นลูกสาวคนโตลุยโปรเจกต์ "ดาหลาบุรี"ภูเก็ต             
 


   
search resources

เยาวเรศ ชินวัตร
Real Estate
ชินวัตร โฮม, บจก.




เยาวเรศ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เล็งดึงแบงก์ทหารไทย(TMB)ปล่อยกู้โครงการอสังหาฯภูเก็ต ภายใต้ชื่อ "ดาหลาบุรี" พร้อมขอนั่งตำแหน่งที่ปรึกษา ปล่อยลูกสาว"ชยิกา วงศ์นภาจันทร์"ลุยงาน เปรยอาจลงทุนโปรเจกต์ใหม่ ทั้งภูเก็ต-กรุงเทพฯ

นางเยาวเรศ ชินวัตร ประธานบริษัท ชินวัตร โฮม จำกัด พร้อมกับนางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ (ในฐานะบุตรสาวคนโตของ "วีรชัย วงศ์นภาจันทร์" กับ "เยาวเรศ ชินวัตร") ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขายบริษัทฯร่วมกันแถลงข่าวเป็นครั้งแรก ถึงการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของโครงการดาหลาบุรี ที่จังหวัดภูเก็ต โดยประธานบริษัทฯ เปิดเผยว่า ที่ดินดังกล่าวเดิมได้มีการตัดแบ่งขายให้แก่นักลงทุนที่สนใจไปหลายแปลงแล้ว และเมื่อลูกสาวศึกษาจบจากต่างประเทศ และเล็งเห็นโอกาสในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการหาบ้านพักอาศัยในจังหวัดภูเก็ต จึงตัดสินใจพัฒนาโครงการดังกล่าวขึ้น

โดยเป็นโครงการบนเนื้อที่ 13 ไร่ แบ่งการพัฒนาออกเป็นบ้านเดี่ยวหรูจำนวน 18 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 16-40 ล้านบาท และอาคารพาณิชย์ 11 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 11 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดPre-Sale ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมียอดจองแล้ว 5 ยูนิต แยกเป็นบ้านเดี่ยว 2 ยูนิตและอาคารพาณิชย์ 3 ยูนิต ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถปิดการขายโครงการได้ประมาณปลายปี 2550 โดยมูลค่าโครงการประมาณ 420 ล้านบาท

" ในเรื่องของแหล่งเงินลงทุนนั้น บางส่วนได้ใช้เงินสดส่วนตัวเข้ามาพัฒนาโครงการ และอีกส่วนกำลังทำเรื่องขอวงเงินกู้จากธนาคารไทย คาดว่าจะใช้ประมาณ 30% ของมูลค่าโครงการ เพื่อลงทุนในระบบสาธารณูปโภคและการก่อสร้าง ขณะที่ยอดจองที่ทำได้ ส่วนตัวแล้วมาจากตนมีเครือข่ายเพื่อนฝูงค่อนข้างมาก ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ไม่มีลูกค้าทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และขอยืนยันไม่เกี่ยวกับชินวัตร เพราะนี้คือธุรกิจส่วนตัว อีกทั้ง ตนก็มีพื้นฐานทางด้านพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มาก่อนหน้านี้ "นางเยาวเรศ กล่าวเช่นนั้น

สำหรับ บริษัท ชินวัตร โฮม จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2537 ในชื่อ บริษัท ชินวัตร โฮมมาร์ท จำกัด โดยนางเยาวเรศ ชินวัตร เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท ซึ่งแรกเริ่มบริษัทฯจะเน้นประกอบธุรกิจด้านการพาณิชย์กรรม ร้านผ้าไหมและสินค้าหัตถกรรมไทย ซึ่งต้องถือว่าธุรกิจการส่งออกตระกร้า หวาย เสื้อผ้าสำเร็จรูปส่งและผ้าไหม เป็นธุรกิจของต้นตระกูลชินวัตร ขณะที่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา นางเยาวเรศ ได้หันมาเน้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนใหญ่จะลงทุนในจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีบริษัท ชินวัตร เชียงใหม่ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ อาทิเช่น โครงการ โครงการอาคารพาณิชย์ที่จังหวัดเชียงใหม่ โครงการอาคารศูนย์นำเข้าและส่งออก ที่เชียงใหม่ และศูนย์การค้ากลางเมืองเชียงใหม่ชื่อ สุรวงศ์พลาซ่า เป็นต้น โดยปัจจุบันธุรกิจหลักคือ การพัฒนาโครงการอสังหาฯ ส่วนบริษัท ชินวัตร โฮมมาร์ทฯ จะพยายามลดบทบาทลงไปเรื่อยๆ

สำหรับประเด็นที่หลายฝ่ายกังขาถึงนามสกุลชินวัตร จะมีส่วนเกื้อหนุนให้โครงการประสบความสำเร็จนั้น นางสาว ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ กล่าวได้อย่างชัดเจนว่า " บางครั้งการมีนามสกุลชินวัตรก็ไม่ได้มีส่วนช่วยเราได้ บางครั้งอาจจะทำให้เราเหนื่อยด้วยซ้ำ"

ขณะที่นางเยาวเรศ ได้สะท้อนปัญหาดังกล่าวว่า "จริงๆตนเป็นน้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคิดว่าคงจะเปลี่ยนนามสกุลไม่ได้ ลาออกไม่ได้ แต่คิดว่าทุกคนมีสิทธิส่วนตัวในการประกอบธุรกิจ ต้องทำมาหากินอยู่ "

นางสาวชยิกา กล่าวถึงป้าหมายการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายในโครงการดังกล่าวว่า จะพุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านพักอาศัยประจำไว้ที่ประมาณ 39% และประมาณ 32% เป็นกลุ่มที่ต้องการหาบ้านหลังที่สองไว้สำหรับพักผ่อน ส่วนที่เหลือจะเป็นกลุ่มนักลงทุนในลักษณะ Individual และ Corporate Investor ขณะเดียวกันจะใช้กลยุทธ์ CRM ให้ฝ่ายขายสร้างความสัมพันธ์กับตัวแทนขายในจังหวัดภูเก็ตและในกรุงเทพฯ รวมถึงกลุ่มลูกค้าในต่างประเทศด้วย อีกทั้งช่องทางโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ต่างๆที่เกี่ยวกับตลาดอสังหาฯจะเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่จะนำมาใช้ด้วย

นอกจากนี้ บริษัทได้จัดโปรโมชันพิเศษสุด สำหรับลูกค้า 5 ท่านแรกที่จองโครงการตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.-15 ก.ย.นี้ สามารถเลือกรับฟรี อาทิ ชุดเครื่องครัวพร้อมอุปกรณ์ทำครัว ,ชุดอุปกรณ์ห้องน้ำสุดหรู ,ชุดโฮมเธียร์เตอร์ หรือ ชุดเฟอร์นิเจอร์มูลค่ากว่า 3 แสนบาท พร้อมรับอัตราดอกเบี้ยปีแรก 0%

ประธานบริษัทฯกล่าวเสริมถึงแนวโน้มการลงทุนว่า หากบริษัทสามารถหาที่ดินที่มีศักยภาพก็จะเข้าไปลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทยังมีที่ดินรอการพัฒนา(แลนด์แบงก์)ในจังหวัดภูเก็ตบ้าง แต่จำนวนไม่มาก รวมถึงมีแลนด์แบงก์ที่เชียงใหม่ ,เลย และในกรุงเทพฯ เช่น โซนบางใหญ่ แต่ทั้งหมดต้องรอประเมินภาวะเศรษฐกิจและโอกาสในการลงทุนเป็นสำคัญ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us