|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เยาวเรศ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เล็งดึงแบงก์ทหารไทย(TMB)ปล่อยกู้โครงการอสังหาฯภูเก็ต ภายใต้ชื่อ "ดาหลาบุรี" พร้อมขอนั่งตำแหน่งที่ปรึกษา ปล่อยลูกสาว"ชยิกา วงศ์นภาจันทร์"ลุยงาน เปรยอาจลงทุนโปรเจกต์ใหม่ ทั้งภูเก็ต-กรุงเทพฯ
นางเยาวเรศ ชินวัตร ประธานบริษัท ชินวัตร โฮม จำกัด พร้อมกับนางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ (ในฐานะบุตรสาวคนโตของ "วีรชัย วงศ์นภาจันทร์" กับ "เยาวเรศ ชินวัตร") ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขายบริษัทฯร่วมกันแถลงข่าวเป็นครั้งแรก ถึงการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของโครงการดาหลาบุรี ที่จังหวัดภูเก็ต โดยประธานบริษัทฯ เปิดเผยว่า ที่ดินดังกล่าวเดิมได้มีการตัดแบ่งขายให้แก่นักลงทุนที่สนใจไปหลายแปลงแล้ว และเมื่อลูกสาวศึกษาจบจากต่างประเทศ และเล็งเห็นโอกาสในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการหาบ้านพักอาศัยในจังหวัดภูเก็ต จึงตัดสินใจพัฒนาโครงการดังกล่าวขึ้น
โดยเป็นโครงการบนเนื้อที่ 13 ไร่ แบ่งการพัฒนาออกเป็นบ้านเดี่ยวหรูจำนวน 18 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 16-40 ล้านบาท และอาคารพาณิชย์ 11 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 11 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดPre-Sale ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมียอดจองแล้ว 5 ยูนิต แยกเป็นบ้านเดี่ยว 2 ยูนิตและอาคารพาณิชย์ 3 ยูนิต ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถปิดการขายโครงการได้ประมาณปลายปี 2550 โดยมูลค่าโครงการประมาณ 420 ล้านบาท
" ในเรื่องของแหล่งเงินลงทุนนั้น บางส่วนได้ใช้เงินสดส่วนตัวเข้ามาพัฒนาโครงการ และอีกส่วนกำลังทำเรื่องขอวงเงินกู้จากธนาคารไทย คาดว่าจะใช้ประมาณ 30% ของมูลค่าโครงการ เพื่อลงทุนในระบบสาธารณูปโภคและการก่อสร้าง ขณะที่ยอดจองที่ทำได้ ส่วนตัวแล้วมาจากตนมีเครือข่ายเพื่อนฝูงค่อนข้างมาก ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ไม่มีลูกค้าทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และขอยืนยันไม่เกี่ยวกับชินวัตร เพราะนี้คือธุรกิจส่วนตัว อีกทั้ง ตนก็มีพื้นฐานทางด้านพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มาก่อนหน้านี้ "นางเยาวเรศ กล่าวเช่นนั้น
สำหรับ บริษัท ชินวัตร โฮม จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2537 ในชื่อ บริษัท ชินวัตร โฮมมาร์ท จำกัด โดยนางเยาวเรศ ชินวัตร เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท ซึ่งแรกเริ่มบริษัทฯจะเน้นประกอบธุรกิจด้านการพาณิชย์กรรม ร้านผ้าไหมและสินค้าหัตถกรรมไทย ซึ่งต้องถือว่าธุรกิจการส่งออกตระกร้า หวาย เสื้อผ้าสำเร็จรูปส่งและผ้าไหม เป็นธุรกิจของต้นตระกูลชินวัตร ขณะที่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา นางเยาวเรศ ได้หันมาเน้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนใหญ่จะลงทุนในจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีบริษัท ชินวัตร เชียงใหม่ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ อาทิเช่น โครงการ โครงการอาคารพาณิชย์ที่จังหวัดเชียงใหม่ โครงการอาคารศูนย์นำเข้าและส่งออก ที่เชียงใหม่ และศูนย์การค้ากลางเมืองเชียงใหม่ชื่อ สุรวงศ์พลาซ่า เป็นต้น โดยปัจจุบันธุรกิจหลักคือ การพัฒนาโครงการอสังหาฯ ส่วนบริษัท ชินวัตร โฮมมาร์ทฯ จะพยายามลดบทบาทลงไปเรื่อยๆ
สำหรับประเด็นที่หลายฝ่ายกังขาถึงนามสกุลชินวัตร จะมีส่วนเกื้อหนุนให้โครงการประสบความสำเร็จนั้น นางสาว ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ กล่าวได้อย่างชัดเจนว่า " บางครั้งการมีนามสกุลชินวัตรก็ไม่ได้มีส่วนช่วยเราได้ บางครั้งอาจจะทำให้เราเหนื่อยด้วยซ้ำ"
ขณะที่นางเยาวเรศ ได้สะท้อนปัญหาดังกล่าวว่า "จริงๆตนเป็นน้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคิดว่าคงจะเปลี่ยนนามสกุลไม่ได้ ลาออกไม่ได้ แต่คิดว่าทุกคนมีสิทธิส่วนตัวในการประกอบธุรกิจ ต้องทำมาหากินอยู่ "
นางสาวชยิกา กล่าวถึงป้าหมายการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายในโครงการดังกล่าวว่า จะพุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านพักอาศัยประจำไว้ที่ประมาณ 39% และประมาณ 32% เป็นกลุ่มที่ต้องการหาบ้านหลังที่สองไว้สำหรับพักผ่อน ส่วนที่เหลือจะเป็นกลุ่มนักลงทุนในลักษณะ Individual และ Corporate Investor ขณะเดียวกันจะใช้กลยุทธ์ CRM ให้ฝ่ายขายสร้างความสัมพันธ์กับตัวแทนขายในจังหวัดภูเก็ตและในกรุงเทพฯ รวมถึงกลุ่มลูกค้าในต่างประเทศด้วย อีกทั้งช่องทางโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ต่างๆที่เกี่ยวกับตลาดอสังหาฯจะเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่จะนำมาใช้ด้วย
นอกจากนี้ บริษัทได้จัดโปรโมชันพิเศษสุด สำหรับลูกค้า 5 ท่านแรกที่จองโครงการตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.-15 ก.ย.นี้ สามารถเลือกรับฟรี อาทิ ชุดเครื่องครัวพร้อมอุปกรณ์ทำครัว ,ชุดอุปกรณ์ห้องน้ำสุดหรู ,ชุดโฮมเธียร์เตอร์ หรือ ชุดเฟอร์นิเจอร์มูลค่ากว่า 3 แสนบาท พร้อมรับอัตราดอกเบี้ยปีแรก 0%
ประธานบริษัทฯกล่าวเสริมถึงแนวโน้มการลงทุนว่า หากบริษัทสามารถหาที่ดินที่มีศักยภาพก็จะเข้าไปลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทยังมีที่ดินรอการพัฒนา(แลนด์แบงก์)ในจังหวัดภูเก็ตบ้าง แต่จำนวนไม่มาก รวมถึงมีแลนด์แบงก์ที่เชียงใหม่ ,เลย และในกรุงเทพฯ เช่น โซนบางใหญ่ แต่ทั้งหมดต้องรอประเมินภาวะเศรษฐกิจและโอกาสในการลงทุนเป็นสำคัญ
|
|
|
|
|